พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 776

สรุปบท ตอนที่ 776 ขโมยเงินเก็บและโฉนดที่ดิน: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ

สรุปตอน ตอนที่ 776 ขโมยเงินเก็บและโฉนดที่ดิน – จากเรื่อง พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ โดย Anchali

ตอน ตอนที่ 776 ขโมยเงินเก็บและโฉนดที่ดิน ของนิยายโรแมนติกโบราณเรื่องดัง พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ โดยนักเขียน Anchali เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

หลี่หยวนเส้าไม่กลัวเรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย

ขอเพียงยืนยันได้ว่าช่วงที่ตั้งครรภ์หลี่เมิ่งเอ๋อร์ถูกตระกูลจางกระทำทารุณเป็นเรื่องจริง ตระกูลจางอย่าคิดว่าจะเอาคนกลับไปได้

วันที่ขึ้นศาล อวิ๋นหลิงออกจากวังไปดูสถานการณ์โดยเฉพาะ

ด้านนอกศาลต้าหลี่ มีชาวบ้านไม่น้อยที่มารวมตัวกันเพื่อมาดูเรื่องที่เกิดขึ้น ต่างก็ยื่นคอยาวมองเข้าไปข้างในอย่างอยากรู้

ช่วงที่ผ่านมา ข้อพิพาทระหว่างตระกูลจางและตระกูลหลี่ เป็นหัวข้อยอดนิยมที่ถูกพูดถึงกันในเมืองหลวง

เซียวปี้เฉิงให้ลู่ฉีจอดรถสามล้อไม้ไว้ที่ข้างทาง กระซิบข้างหูอวิ๋นหลิงเสียงเบา

“น้อยมากที่ศาลต้าหลี่จะเปิดศาลให้ประชาชนทั่วไปมาสังเกตการณ์ไต่สวนคดีพิพาทชีวิตแต่งงาน ตระกูลจางในตอนนี้ก็ถือว่าได้หน้ามากขึ้นแล้ว”

กรมอาญา ฝ่ายตรวจการกับศาลต้าหลี่ ทั้งสามกรมเป็นสถาบันตุลาการที่มีอำนาจสูงสุดของราชสำนัก

เมื่อคดีมาถึงจุดนี้ ถือว่าต่อสู้มาถึงที่สุดแล้ว

โดยทั่วไปแล้ว ที่นี่รับทำคดีระหว่างขุนนางเป็นส่วนใหญ่ นอกจากเหตุผลพิเศษ มิเช่นนั้นจะไม่สนใจคดีความของประชาชนทั่วไป

ระหว่างตระกูลใหญ่แม้จะมีเรื่องไม่ลงรอยกันมากแค่ไหน แต่เพื่อเกียรติและศักดิ์ศรี น้อยมากที่จะเลือกมาฟ้องร้องกับศาลต้าหลี่

หน้าประตูศาลเต็มไปด้วยผู้คน เกรงว่าคนเบียดเสียดจำนวนมากและอากาศร้อน อวิ๋นหลิงจึงไม่ได้ลงจากรถ

แม้จะจอดรถข้างถนน พวกเขาก็สามารถได้ยินทุกอย่างที่เกิดขึ้นข้างในได้อย่างชัดเจน

“ใต้เท้าเฉิง บาปกรรมมีจริง ตระกูลจางของข้าไม่เคยปฏิบัติอย่างไม่ยุติธรรมต่อหลี่เมิ่งเอ๋อร์”

“ข้าน้อยกล้าสาบานด้วยมโนธรรม ตั้งแต่หลี่เมิ่งเอ๋อร์ตั้งครรภ์ ข้าปรนนิบัติต่อนางให้กินดีอยู่ดี วันนี้ส่งรังนกพรุ่งนี้ส่งยาบำรุง เหล่านี้ห้องบัญชีล้วนจดไว้อย่างชัดเจน ท่านต้องตรวจสอบให้ชัดเจนนะเจ้าคะ”

คนที่กำลังเรียกร้องความยุติธรรมนั้นคือฮูหยินจาง

ลูกชายอยู่ในคุก พวกผู้ชายในครอบครัวสามีต่างก็ไม่มีใครยินดีจะปรากฏตัวให้เสียหน้า ได้แต่ปล่อยให้นางออกมาเผชิญหน้ากับศาลด้วยตนเอง

พอนางพูดจบ ก็รีบหันไปส่งสายตาให้กับสาวรับใช้ เอาสมุดบัญชีไปวางไว้บนโต๊ะของหัวหน้าศาลต้าหลี่

เจ้าหน้าที่ศาลทำการพลิกอ่านสองสามหน้า “ใต้เท้า ล้วนเป็นยาสมุนไพรที่ใช้บำรุงครรภ์จริงๆ ตั้งแต่สิ้นปีที่แล้วจนถึงเดือนที่แล้วไม่เคยขาดเลย”

หัวหน้าศาลต้าหลี่พยักหน้า “นางจางเหอ แม้สิ่งที่เจ้าพูดจะเป็นความจริง แต่กรมอาญาได้ทำการเดินสายตรวจสอบแล้ว หนึ่งเดือนก่อนลูกชายของท่านเคยลงมือตบตีภรรยาเอกที่หอคณิกา กระทั่งทำให้มีเลือดออก หลายวันก่อนหน้านี้ยังประทุษร้ายกลางถนน ทำให้ต้องคลอดก่อนกำหนด เรื่องเหล่านี้ชาวบ้านล้วนเห็นกับตา......”

ไม่รอให้หัวหน้าศาลต้าหลี่พูดจบ ฮูหยินจางก็รีบพูดแทรกขึ้นมาทันที

“ตอนที่ลงมือในหอคณิกา เป็นเพราะลูกชายข้าเมามายจึงสติเลอะเลือน ส่วนเรื่องก่อนหน้านี้ ก็เป็นเพราะหลี่เมิ่งเอ๋อร์ออกจากจวนโดยไม่ได้รับอนุญาตก่อน ลูกชายข้าเป็นห่วงลูกที่ยังไม่เกิด อดไม่ได้ที่จะมีอารมณ์รุนแรงอยู่บ้าง”

“ลูกชายข้าไม่ควรลงไม้ลงมือ แต่เขาก็ยอมรับแล้วว่าทำผิด หลังจากนี้จะปฏิบัติต่อภรรยาเอกอย่างดี ตัดสินให้ทั้งสองคนแยกกันอยู่ไม่รุนแรงเกินไปหรือ”

หัวหน้าศาลต้าหลี่เป็นเพียงขุนนางระดับสาม สามีและพ่อสามีของนางก่อนหน้านี้มีตำแหน่งสูงกว่าเขาเสียอีก ด้วยเหตุนี้ฮูหยินจางยังคงไม่ได้ให้ความเคารพต่อหัวหน้าศาลต้าหลี่สักเท่าไหร่ด้วยความเคยชิน

เจ้าหน้าที่ศาลตำหนิว่า “บังอาจ ใต้เท้าเฉิงยังไม่อนุญาต เจ้าไม่มีสิทธิ์พูดแทรก”

ฮูหยินจางหุบปากอย่างขุ่นเคือง ในใจรู้สึกไม่พอใจอยู่บ้าง

หัวหน้าศาลต้าหลี่มองไปอีกทาง “หลี่หยวนเส้า เจ้าลองพูดมา”

หลี่เมิ่งเอ๋อร์เพิ่งคลอดลูกได้ไม่นาน ตอนนี้ไม่สะดวกจะลุกขึ้นจากเตียง ดังนั้นจึงเป็นพี่ชายที่ออกหน้าแทนนาง

เซียวปี้เฉิงเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “เมื่อวานเมิ่งชูขโมยเงินฝากและโฉนดที่ดินออกมา ก็เพื่อจะช่วยหลี่หยวนเส้าในการสู้คดี จากนั้นนางก็เร่งเดินทางกับสำนักศึกษาตอนกลางคืน บอกว่าก่อนปีใหม่จะไม่กลับจวนอีก”

“ถ้าเช่นนั้นหากตระกูลหลี่พบว่านางแอบช่วยพี่ชายอย่างลับๆ จะไม่หยุดให้ค่าครองชีพกับนางหรือ”

“เจ้าวางใจได้ เมิ่งชูได้ทำการเบิกเงินค่าครองชีพล่วงหน้าสามเดือนกับทางห้องบัญชีแล้ว”

อีกทั้งยังใช้ข้ออ้างว่าจะซื้อเอกสารข้อสอบ ให้ผู้อาวุโสในเรือนต่างๆสนับสนุนเงินเล็กๆน้อยๆให้นางบ้าง แล้วก็หยิบยืมจากพี่น้องเรือนต่างๆได้อีกก้อนหนึ่ง

สุดท้ายก็ใช้ทักษะใช้ลวดงัดกุญแจที่เฟิงอู๋จีสอนนาง วางจดหมายขอโทษไว้ที่ใต้หมอนของพ่อแม่ เอาสมุดเงินฝากและโฉนดที่ดินของหลี่หยวนเส้าหนีออกมา

ตอนนั้นเซียวปี้เฉิงยังรู้สึกเป็นห่วงอยู่บ้าง “เจ้าทำเช่นนี้ จะไม่ทำให้ท่านปู่ของเจ้าโกรธ จนไล่เจ้าออกจากตระกูลหลี่หรอกหรือ”

หลี่เมิ่งชูตอบด้วยท่าทีเชื่อฟังว่า “องค์รัชทายาทโปรดวางใจ พวกลูกพี่ลูกน้องของข้าไม่มีทางอยากเห็นภาพนี้”

“ข้าได้ยืมเงินมาจากพวกเขาอย่างน้อยห้าพันตำลึง ถ้าหากข้ายังเป็นคุณหนูในตระกูลหลี่ พวกเขาก็มีเหตุผลที่จะทวงเงินกับเรือนใหญ่ได้ ถ้าหากข้าถูกไล่ออกจากบ้าน เช่นนั้นหนี้สินย่อมไม่เกี่ยวข้องกับเรือนใหญ่ เงินเหล่านี้ของพวกเขาก็ไม่ได้คืนแล้ว”

เงินที่นางยืมจำนวนไม่มาก ดังนั้นจึงไม่มีใครสงสัย แต่เมื่อรวมกันแล้วก็เป็นจำนวนที่ไม่น้อยเลยทีเดียว

เซียวปี้เฉิงวางใจลงได้บ้าง แล้วเอ่ยขึ้นว่า “แล้วถ้าหากเขาตัดขาดความเป็นปู่หลานกับเจ้าฝ่ายเดียวจะทำอย่างไร”

สำหรับเรื่องนี้ หลี่เมิ่งชูกลับพูดว่า “เมิ่งชูเป็นผู้หญิง เดิมก็ไม่ได้มีชื่ออยู่ในหนังสือลำดับวงศ์ตระกูล แม้ท่านปู่อยากจะทำ ก็ไม่สามารถลบชื่อข้าออกไปได้ ยิ่งไปกว่านั้นข้าไม่ได้ทำผิดใหญ่หลวง ท่านปู่ไม่มีเหตุผลที่จะไล่ข้าออกจากตระกูลหลี่ ถึงจะมีวันนั้นจริง เชื่อว่าศาลต้าหลี่ต้องให้ความยุติธรรมกับเมิ่งชูได้แน่”

นางเป็นคุณหนูที่อยู่ในกรอบระเบียบของตระกูลหลี่ ทำเรื่องเลวร้ายอะไรจึงต้องถูกไล่ออกจากตระกูลหลี่

ก็แค่ยืมเงินเล็กน้อยกับพวกญาติๆ หนึ่งไม่ได้ขโมยสองไม่ได้หลอกลวง ใช่ว่าจะไม่คืนเสียหน่อย

รอให้ถึงสิ้นปีกลับไปร่วมเทศกาลปีใหม่ นางก็ยังคงขอเงินค่าครองชีพและอั่งเปากับเหล่าผู้อาวุโสอยู่ดี พวกผู้ใหญ่ล้วนต้องรักษาหน้า คิดว่าคงต้องให้แน่ๆ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ