พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 777

สรุปบท ตอนที่ 777 คนรักก็หนีไปแล้ว: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ

อ่านสรุป ตอนที่ 777 คนรักก็หนีไปแล้ว จาก พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ โดย Anchali

บทที่ ตอนที่ 777 คนรักก็หนีไปแล้ว คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายโรแมนติกโบราณ พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Anchali อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

เมื่อเทียบกับหลี่หยวนเส้า สมองและจิตใจของหลี่เมิ่งชูนิ่งกว่ามาก

พี่ชายได้เผยความยึดมั่นด้วยจิตใจที่หยิ่งในศักดิ์ศรีให้เห็นแล้ว นางไม่จำเป็นต้องแสดงให้เห็นอีกรอบ ต้องคำนึงถึงสถานการณ์จริงที่สามพี่น้องต้องเผชิญในภายหน้า

หลังจากผ่านเรื่องครั้งนี้ ภายหน้ากลับบ้านขอเงินคงลำบากแล้ว

เซียวปี้เฉิงเอ่ยต่อไปว่า “ช่วงนี้เป็นวันหยุดฤดูร้อน เมิ่งชูไม่คิดจะกลับบ้าน และอยากจะฉวยโอกาสนี้หาเงินให้มากหน่อย”

แม้เงินห้าพันตำลึงจะมาก แต่ล้วนเป็นหนี้สินที่ยืมมา ตอนนี้สามพี่น้องยากจนมากจริงๆ

อวิ๋นหลิงพยักหน้าเงียบๆ รู้สึกแค่ว่าเมิ่งชูคนนี้ดูเป็นคนมีระเบียบหนักแน่น แท้จริงแล้วกล้าคิดกล้าทำ ที่สำคัญที่สุดคือหน้าหนา คนเช่นนี้ปกติแล้วจะประสบความสำเร็จได้ง่าย

นางก็ไม่ได้รีบร้อนยื่นมือให้ความช่วยเหลือทันที แต่จะดูว่าสามพี่น้องนี้จะสามารถเติบโตด้วยตนเองถึงขั้นไหน

ระหว่างที่สองสามีภรรยาคุยกัน หัวหน้าศาลต้าหลี่ที่อยู่ในศาลได้ทำการพิพากษาขั้นสุดท้ายแล้ว

“เอาล่ะ หลังจากที่ข้าตรวจสอบหลักฐานแล้ว ความจริงเป็นดั่งที่หลี่หยวนเส้าพูดมา ไม่ผิดเพี้ยนแม้แต่น้อย ในเมื่อเป็นเช่นนี้เจ้าก็พาน้องสาวและหลานชายไป ดูแลกันให้ดีเถอะ”

ใบหน้าของฮูหยินจางบิดเบี้ยวขึ้นมาทันที น้ำเสียงมีแววแหลมคมขึ้นมาหลายส่วน

“ทำไม เจ้าเด็กคนนี้อาศัยอะไรเป็นหลักฐาน บัญชีของข้าน้อยเป็นเท็จหรือไร ยิ่งไปกว่านั้นลูกชายข้าก็เข้าคุกแล้ว อีกสามปีข้างหน้าใครจะทารุณนางได้อีก เป็นลูกสะใภ้ตระกูลจาง การอยู่ปรนนิบัติรับใช้บ้านสามีต่างหากที่เป็นเรื่องที่สมควรทำ”

หัวหน้าศาลต้าหลี่ทำเป็นไม่ได้ยิน ลุกขึ้นมาและจะเดินออกไป

พูดถึงลูกผู้ดีอย่างจางอวี้ซู เขารู้สึกรังเกียจมาก

เจ้าเด็กนั่นเมื่อก่อนเคยทำผิด ทำเอาชาวบ้านคับแค้นใจจนร่ำลือไปทั่ว มีคนไปฟ้องร้องกับทางการเฉลี่ยเดือนละหนึ่งครั้ง โกลาหลวุ่นวายกันไปหมด

ทุกครั้งที่มีคนกล้าฟ้องร้องจางอวี้ซู รับประกันได้ว่าอีกฝ่ายจะถูกเขาใช้วิธีการอื่นๆเล่นงานจนต้องเข้าคุก

หัวหน้าศาลต้าหลี่เป็นขุนนางระดับสาม แม้จะมีใจช่วยชาวบ้านเรียกร้องความยุติธรรม แต่ก็งัดข้อกับอาลักษณ์กรมพิธีการไม่ได้

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงในเวลานั้นตระกูลจางยังมีตระกูลหลี่คอยเป็นที่พึ่งอยู่เบื้องหลัง

แม้หัวหน้าศาลต้าหลี่จะซื่อตรงและมีเมตตา แต่การทำงานกลับแสร้งเอาใจอย่างทั่วถึงอยู่บ้าง ไม่ได้ใช้ไม้แข็งกับตระกูลจาง เพียงแต่หลังจากเกิดเรื่องก็จะแอบหาเหตุผล ปล่อยชาวบ้านที่ถูกใส่ร้ายออกมาก่อนเวลา

ตอนนี้ตระกูลจางเสื่อมอำนาจ ไอ้เด็กนั่นเข้าคุก คืนนี้เขายังอยากจะออกไปดื่มฉลองกับเพื่อนร่วมงานด้วยซ้ำ

ฮูหยินจางเห็นดังนั้น กัดฟันพุ่งตัวเข้าไปขวางทางของหัวหน้าศาลต้าหลี่เอาไว้ สีหน้าและน้ำเสียงเย็นยะเยือก

“ใต้เท้าเฉิง เป็นคนต้องรู้จักตอบแทนบุญคุณ ก่อนหน้านี้สามีและพ่อสามีของข้าคอยเอ่ยถึงความดีของท่านต่อหน้าฝ่าบาทไม่อยู่หลายครั้ง ท่านไม่ยุติธรรมเช่นนี้ จิตสำนึกของท่านยอมรับได้หรือ”

“ถ้าหากท่านสามารถช่วยเหลือสักครั้ง ตระกูลจางจะจดจำความดีของท่าน แม้หลังจากนี้ต้องเป็นข้ารับใช้ของตระกูลเฉิงก็ตาม”

ฮูหยินจางกัดฟัน ยอมทุ่มสุดตัวไม่สนอะไรทั้งนั้น

ถ้าหากหลี่เมิ่งเอ๋อร์ให้กำเนิดลูกสาวก็แล้วไปเถอะ แต่นี่ให้กำเนิดลูกชาย นางจะปล่อยให้พาไปได้อย่างไร

หัวหน้าศาลต้าหลี่เกือบจะหลุดหัวเราะเพราะความโมโห พูดจาดีๆอะไรเพื่อเขากัน ทั้งๆที่อาลักษณ์กรมพิธีการทะเลาะกับผู้อื่น เอาเขาเป็นไม้กันหมาเท่านั้น คิดว่าเขาโง่หรืออย่างไร

เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่แฝงด้วยความโกรธ “นางจางเหอ เจ้าบังอาจมาก ถึงกับกล้าดึงข้าให้เป็นพวกเดียวกับเจ้าเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว เด็กๆเอาตัวหญิงกระทำผิดคนนี้ลงไป ลงโทษโบยสิบที เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจผู้อื่น”

“อีกอย่าง แม้ว่าจางอวี้ซูจะอยู่ในคุกหลวง แต่การประทุษร้ายภรรยาเอกต่อหน้าฝูงชนถึงสองครั้ง การกระทำนี้มีผลกระทบร้ายแรง เดิมทีก็ควรจะถูกลงโทษเป็นการตักเตือน ให้เสริมโทษโบยยี่สิบทีในทันที”

ฮูหยินจางแทบจะเป็นลมไปทันที แต่ยังไม่ทันที่จะอาละวาด ก็ถูกคนนำตัวออกไปโบยโดยแส้ที่ลานด้านข้างแล้ว

เจ้าหน้าที่ศาลเอ่ยด้วยเสียงไม่พอใจว่า “ถ้าขืนยังกล้าไม่ให้เกียรติใต้เท้าเฉิงอีก เจ้าก็ไปรับโทษต่อหน้าชาวบ้านเถอะ”

ฮูหยินจางสีหน้าเขียวคล้ำสลับซีดเผือด พูดไม่ออกชั่วขณะ

นางเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง จะให้ไปรับโทษต่อหน้าชาวบ้านได้อย่างไร

“เด็กเหลือขอ ข้าจะรอวันที่เจ้าคุกเข่ายอมรับผิด”

……

เรื่องของพี่น้องตระกูลหลี่นับว่าสิ้นสุดลงแล้ว

ในเมืองหลวงพูดคุยกันถึงเรื่องที่หลี่หยวนเส้าถูกไล่ออกจากตระกูลหลี่อย่างร้อนแรงอยู่หลายวัน แต่ที่สุดก็ค่อยๆสงบลง

ทางด้านโรงยาทุกอย่างปกติดี หลี่หยวนเส้ามีชีวิตที่ต้องทำงานในตอนกลางวัน กลางคืนก็กลับบ้านไปดูแลน้องสาวและหลานชาย

หลี่เมิ่งชูกลับเมืองหลวงบ่อยครั้งมากขึ้น วันไหนที่ช่วงเย็นไม่มีเรียน ก็จะมาเยี่ยมหลี่เมิ่งเอ๋อร์อยู่บ่อยๆ

ทางด้านเซียวปี้เฉิง เอาผลพวงจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาเล่าให้อวิ๋นหลิงฟัง

“สาวใช้จูที่ตั้งครรภ์กับคนเลี้ยงม้าหอบเงินหนีไปแล้ว”

“สาวใช้จู”

อวิ๋นหลิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง นึกถึงสาวใช้ข้างกายของหลี่เมิ่งเอ๋อร์ที่ชื่อจูเอ๋อร์ อาศัยที่ตนเองตั้งครรภ์เลื่อนขึ้นไปเป็นแม่เลี้ยง

เซียวปี้เฉิงพูดต่อไปว่า “ถูกต้อง บอกว่าคนในหมู่บ้านต่างก็สังเกตเห็นความผิดปกติของนางกับคนเลี้ยงม้า หลังจากนั้นก็ถูกแม่บ้านคนหนึ่งจับได้คาหนังคาเขา ดังนั้นทั้งสองจึงฆ่าแม่บ้านคนนั้น เอาเงินและหนีไปแล้ว ศาลต้าหลี่กำลังตามจับพวกเขาสองคนกลับมาดำเนินคดี”

“ก่อนหน้านี้ฮูหยินจางถูกโบย ไม่ทันได้สนใจสาวใช้จู เดิมทีคิดว่าหลี่เมิ่งเอ๋อร์ก็ไม่อยู่ในตระกูลจางแล้ว จึงได้รับตัวนางกลับไปดูแลรักษาครรภ์ที่จวน ไหนเลยจะคิดว่าตอนที่ส่งคนมา พบว่าแม่บ้านที่น่าสงสารได้ตายไปสามวันแล้ว”

หลังจากนั้น ฮูหยินจางก็ได้สติ ที่สาวใช้จูตั้งครรภ์นั้นไม่ใช่ลูกของจางอวี้ซู

อวิ๋นหลิงแบะปาก “ข้าว่าแล้ว จางอวี้ซูร่างกายอ่อนแอขนาดนั้น จะมีลูกง่ายๆได้อย่างไร”

หลังจากที่หลี่หยวนเส้ารู้เรื่อง ยังจงใจไปเยี่ยมที่คุก และเอาข่าวไปบอกกับอีกฝ่าย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ