หลิวฉิงได้ยินดังนั้น ใบหน้าก็เผยรอยยิ้มเย็นชาไม่พอใจออกมา
“ระหว่างพวกเราไม่จำเป็นต้องจากกันด้วยดี แทบจะไม่เคยอยู่ด้วยกัน จะพูดเรื่องจากกันทำไม ส่วนที่ว่าทิ้งความเสียใจเอาไว้ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึง ใครกล้าพูดบ้างว่าการที่เขาได้พบข้าในชาตินี้ ไม่ใช่วาสนาของเขา”
อวิ๋นหลิงจุ๊ปากอยู่ในใจ พี่ฉิงไม่ไว้หน้าจักรพรรดิเสี่ยวฉินเลยแม้แต่น้อย
ไม่เพียงแต่ไม่ไว้หน้า ยังฉีกหน้าไม่เหลือซาก ตั้งใจจะให้อีกฝ่ายตกอยู่ในสถานการณ์ที่อับอาย กระทั่งขายหน้าจนไม่มีที่อยู่
เป็นอย่างที่คาดไว้ ยากมากที่จะเห็นกู้จื่ออวี๋สีหน้าแดงก่ำขึ้นมาเล็กน้อย ท่าทีเหมือนอยากจะโมโหแต่ก็ยืนได้ไม่มั่นคง
ที่สุดก็ดับโทสะไปเงียบๆ
ไม่ว่าจะเป็นฟงหลิวฉิงหรือว่าหลิวฉิง ชาตินี้เขาติดหนี้พวกนางเยอะมาก
เมื่อเห็นว่าบรรยากาศบนโต๊ะอาหารตึงเครียดขึ้นมาอีกครั้ง อวิ๋นหลิงอยากจะแกล้งหลิวฉิงสักหน่อย
“พี่ใหญ่เร่งให้ท่านแต่งงานท่านคิดเห็นอย่างไร พี่ฉิงเคยคิดหรือไม่ว่าจะแต่งงาน”
หลิวฉิงเหลือบไปมองกู้ฉางเซินโดยไม่มีใครทันสังเกต เอ่ยด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ข้าตัวคนเดียวก็ดีมาก อีกอย่างก็มีพวกเจ้าอยู่นี่นา”
อวิ๋นหลิงและหลงเย่ต่างก็ไม่พลาดที่จะสังเกตแววตาจากจิตใต้สำนึกของนาง ต่างก็มองเห็นแสงสีเขียวเบาบางในสายตา
“แต่ว่าข้ากับพี่ใหญ่ต่างก็แต่งงานแล้ว หรือปกติแล้วพี่ฉิงไม่รู้สึกหรือว่าเพราะเป็นโสดจึงทำให้เข้ากับพวกเราไม่ได้”
หลิวฉิง “.......”
ไหนบอกว่าจะเป็นพี่น้องกันชั่วชีวิตอย่างไรเล่า
ร่างกายที่มีอุณหภูมิสามสิบหกองศาทำไมจึงสามารถพูดจาเย็นชาเช่นนี้ออกมาได้
“อีกอย่าง......เรื่องเช่นนี้จะรีบร้อนไม่ได้”
น้ำเสียงของหลิวฉิงฟังแล้วยังคงเย็นชาเอื่อยเฉื่อยเหมือนที่ผ่านมา มีเพียงอวิ๋นหลิงกับหลงเย่เท่านั้นที่สามารถเข้าใจว่าอีกฝ่ายมีอารมณ์ดีใจแค่ไหน
ถ้าพี่ฉิงพูดเช่นนี้ นั่นเท่ากับว่านางเคยคิดถึงเรื่องแต่งงานจริงๆ
นั่นหมายความว่า ต้นไม้เหล็กมีดอกไม้บานแล้ว
กงจื่อโยวโบกพัดในมือ เสริมขึ้นข้างๆราวกับเข้าใจทุกอย่าง
“ใช่แล้ว รีบไม่ได้รีบไม่ได้ วาสนาแต่งงานฟ้ากำหนด ทุกอย่างล้วนสำเร็จได้เมื่อเงื่อนไขสุกงอม”
บรรยากาศในงานเลี้ยงกลับสู่ความปกติและคึกคัก กู้จื่ออวี๋สีหน้าดีขึ้นไม่น้อย จิตใจก็รู้สึกผ่อนคลายลง
เขายอมรับอย่างต่ำช้า แม้ว่าชาตินี้จะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับหลิวฉิงอีก แต่ก็รับรู้ได้ว่ากู้ฉางเซินมีความเป็นไปได้สูงว่าจะไม่ได้ดังหวัง เขาก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาก
ยอมปล่อยดินแดนที่แสนงดงาม แลกกับอิสระของหลิวฉิง แต่กลับไม่สามารถแลกเปลี่ยนหัวใจของนางมาได้
เสด็จอา ชีวิตนี้ถึงที่สุดแล้ว ท่านจะเสียใจหรือไม่
กู้จื่ออวี๋เผลอมองไปทางกู้ฉางเซิน กลับเห็นเขายังคงมีใบหน้าเรียบเฉยพร้อมรอยยิ้มเหมือนตอนแรก เทเหล้าฮัวเตียวที่มีกลิ่นหอมรุนแรงให้หลิวฉิง แล้วก็คีบอาหารบ้านเกิดที่นางชอบกินที่สุดนั่นก็คือน่องไก่ทอดให้
“ฝีมือการทำอาหารของพ่อครัวในจวนองครักษ์ลู่ดีมาก ได้รับการสืบทอดความรู้จากน้องสามมากกว่าข้าเสียอีก ก่อนหน้านี้ให้พวกท่านต้องทนกินของทอดรสชาติแปลกๆตั้งนาน ต้องขอโทษจริงๆ”
ได้ยินคำพูดประโยคนี้ องครักษ์ลับอย่างเยว่อิ่งและซิงเฉินที่ก้มหน้ากินข้างอยู่โต๊ะข้างๆ ต่างก็ตัวสั่นสะท้านขึ้นมา
ต่างก็คิดถึงครึ่งปีที่ผ่านมานี้ ความหวาดกลัวที่ถูกน่องไก่ทอดมรณะควบคุมชีวิต
หลังจากที่กู้ฉางเซินได้เรียนรู้ทักษะการทอดน่องไก่จากอวิ๋นหลิง กลับไปยังเป่ยฉิยเขาก็เข้าครัวเป็นประจำ ยังชี้แนะพ่อครัวในจวนด้วยตัวเอง
แต่ต่อมรับรสของเขาในตอนนั้นแตกต่างจากคนทั่วไป ส่วนผสมที่ศึกษาปรับปรุงแก้ไขเองก็มีปัญหา แต่เหล่าพ่อครัวไม่มีใครกล้าคัดค้านเลยแม้แต่คำเดียว
เพราะอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนเป็นคนบอกเองว่า เขาเรียนรู้การทำอาหารว่างรสชาติพิเศษจากบ้านเกิดของพระชายารัชทายาทแห่งแคว้นซีโจว
ดังนั้นปกติแล้วเมื่อต้อนรับขุนนางใหญ่ทั้งหลาย ในจวนจะยกอาหารที่เป็นภัยจานนี้......ออกมารับแขก แม้แต่กู้จื่ออวี๋ก็หนีน่องไก่ทอดรสชาติแปลกประหลาดไม่พ้น
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ชาวเป่ยฉินเกิดการอภิปรายและศึกษานิสัยการกินของชาวแคว้นจ้าโจวขึ้นมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...