ที่แท้พ่อแม่แท้ของโม่อี้ซือแม้จะมีรูปร่างหน้าตาธรรมดา แต่ตัวนางกลับได้รับพรจากสวรรค์ มีใบหน้าที่งดงามเหมือนดอกไม้
อายุเพิ่งจะสิบสามสิบสี่ปี ก็เผยความงามล่มเมืองอันมีเสน่ห์ออกมาอย่างเลือนรางแล้ว และทำให้อ๋องไหวเซียงที่เดิมทีไม่ได้สนใจในตัวนางเกิดการเฝ้ามองมากขึ้น
องค์หญิงอี๋อันค่อยๆรับรู้ถึงความไม่ชอบมาพากลของสามี สายตาที่อีกฝ่ายมองโม่อี้ซือ ยิ่งอยู่ก็ยิ่งเหมือนสายตาที่มองเหล่าอนุภรรยาในเรือนด้านหลัง
หลานเดือนก่อนหน้านี้ หลังจากที่โม่อี้ซืออายุครบสิบห้าปี อ๋องไหวเซียงเคยเมาเหล้าแล้วบุกเข้าไปในห้องของอีกฝ่าย
และเพราะเหตุผลนี้ หลังจากที่องค์หญิงอี๋อันถูกหย่า แต่ก็ยังไม่วางใจในความปลอดภัยของโม่อี้ซือ จึงได้แอบพานางกลับมาที่เมืองหลวงพร้อมกัน
เซียวปี้เฉิงคิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นเหตุผลที่เหลวไหลไร้ยางอายเช่นนี้ ห้องตำราตกอยู่ในความเงียบชั่วขณะ
สีหน้าของจักรพรรดิจาวเหรินจากแดงก่ำเปลี่ยนเป็นเขียวคล้ำ โกรธจนตัวสั่นไปหมด
“ไร้......เจ้าสารเลวไร้ยางอาย สมควรตายจริงๆ”
หน้าอกเขากระเพื่อมขึ้นลง อดไม่ได้ที่จะขว้างแก้วชาจนแตกไปใบหนึ่ง ทำเอาองค์หญิงอี๋อันตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ
เวลานี้จักรพรรดิจาวเหรินดวงตาแดงก่ำ แทบจะทนไม่ไหวที่จะมีราชโองการอีกหนึ่งฉบับ ให้บั่นคอไอ้สารเลวอ๋องไหวเซียงทันที
ยังคงรู้สึกเสียใจไม่หาย ตอนนั้นมองคนผิดไป ผลักลูกสาวคนโตลงไปในกองไฟด้วยมือตัวเอง ทำร้ายนางทั้งชีวิต
อวิ๋นหลิงเกรงว่าเขาจะโกรธจนเป็นอะไรขึ้นมา เอ่ยปากปลอบใจว่า “เสด็จพ่อทำเสด็จพี่ตกใจแล้ว ให้นางกินข้าวและอาบน้ำก่อนเถอะ จะได้พักผ่อนดีๆ”
จักรพรรดิจาวเหรินจึงได้สติกลับมา พวกเขาเอาแต่คุยกับองค์หญิงอี๋อัน อีกฝ่ายจึงไม่กล้าแม้แต่จะแตะต้องตะเกียบเลย
เขาดึงมือขององค์หญิงอี๋อันเดินไปยังโต๊ะหนังสือด้วยตนเอง และไม่รังเกียจที่อีกฝ่ายเสื้อผ้าสกปรก คีบกับข้าวให้นางอย่างห่วงใยอีกหลายครั้ง
“ซูโยวรีบกินเถอะ รองท้องไปก่อน รอช่วงค่ำพ่อจะสั่งให้ห้องเครื่องทำอาหารที่เจ้าชอบให้ทาน”
องค์หญิงอี๋อันพยักหน้า หยิบตะเกียบขึ้นมาอย่างระมัดระวัง ก้มหน้าก้มตากินข้าวไม่พูดไม่จา
แม้ว่านางจะสวมชุดมอมแมม แต่ท่าทางการกินข้าวในตอนนี้ กลับทำได้ตรงตามมาตรฐานจนไม่สามารถหาจุดบกพร่องได้
อวิ๋นหลิงก็สังเกตเห็นว่าพอคนในห้องตำรามากขึ้น เสด็จพี่คนนี้ก็จะระวังตัวเป็นพิเศษ จึงดึงแขนเสื้อของเซียวปี้เฉิง สองสามีภรรยาถอยออกไปทำงานของตัวเองอย่างรู้กาลเทศะ
เซียวปี้เฉิงทำตามคำสั่ง ถ่ายทอดคำสั่งให้แม่ทัพทหารม้านำกองกำลังเดินทางไกลไปยังเซียวโจว ขอให้อีกฝ่ายออกเดินทางหลังจากนี้สามวัน
ในขณะเดียวกัน สนมลี่ผินก็ได้รับการร้องขอจากเขา จึงรีบไปสั่งการนางกำนัลเช่นเดียวกัน เพื่อให้เก็บกวาดตำหนักโยวซิน
ที่นี่เป็นตำหนักที่อยู่ขององค์หญิงอี๋อันตอนที่ยังไม่แต่งงาน ไม่มีคนอยู่มาสิบกว่าปีแล้ว มีเพียงนางกำนัลที่ไปทำความสะอาดตามเวลาที่กำหนด แม้จะสะอาดเป็นระเบียบ แต่ข้าวของเครื่องใช้ล้วนเก่าแก่มากแล้ว
อวิ๋นหลิงเองก็แบกท้องที่กลมใหญ่ ไปตรวจดูเช่นกัน จากนั้นก็เขียนรายการต่างๆออกมา เตรียมจะให้กรมวังหาเวลามาเปลี่ยนสิ่งของทั้งหมดในตำหนักโยวซิน
เกิดเป็นหญิงด้วยกัน นางรู้สึกเห็นใจในสิ่งที่องค์หญิงอี๋อันและโม่อี้ซือต้องเผชิญ และนับว่าเป็นครั้งแรกที่รับรู้ได้อย่างลึกซึ้ง เมื่อหลุดพ้นจากการพึ่งพาพ่อกับพี่ชายและลูกชายแล้ว หญิงสาวทั่วไปจะมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ได้อย่างยากลำบากมาก
……
ช่วงพลบค่ำ สองสามีภรรยาได้รับข่าวที่ฝูกงกงนำมาแจ้ง ให้พวกเขาสองคนไปคุยกับจักรพรรดิจาวเหรินที่ห้องตำรา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...