พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 792

ที่แท้พ่อแม่แท้ของโม่อี้ซือแม้จะมีรูปร่างหน้าตาธรรมดา แต่ตัวนางกลับได้รับพรจากสวรรค์ มีใบหน้าที่งดงามเหมือนดอกไม้

อายุเพิ่งจะสิบสามสิบสี่ปี ก็เผยความงามล่มเมืองอันมีเสน่ห์ออกมาอย่างเลือนรางแล้ว และทำให้อ๋องไหวเซียงที่เดิมทีไม่ได้สนใจในตัวนางเกิดการเฝ้ามองมากขึ้น

องค์หญิงอี๋อันค่อยๆรับรู้ถึงความไม่ชอบมาพากลของสามี สายตาที่อีกฝ่ายมองโม่อี้ซือ ยิ่งอยู่ก็ยิ่งเหมือนสายตาที่มองเหล่าอนุภรรยาในเรือนด้านหลัง

หลานเดือนก่อนหน้านี้ หลังจากที่โม่อี้ซืออายุครบสิบห้าปี อ๋องไหวเซียงเคยเมาเหล้าแล้วบุกเข้าไปในห้องของอีกฝ่าย

และเพราะเหตุผลนี้ หลังจากที่องค์หญิงอี๋อันถูกหย่า แต่ก็ยังไม่วางใจในความปลอดภัยของโม่อี้ซือ จึงได้แอบพานางกลับมาที่เมืองหลวงพร้อมกัน

เซียวปี้เฉิงคิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นเหตุผลที่เหลวไหลไร้ยางอายเช่นนี้ ห้องตำราตกอยู่ในความเงียบชั่วขณะ

สีหน้าของจักรพรรดิจาวเหรินจากแดงก่ำเปลี่ยนเป็นเขียวคล้ำ โกรธจนตัวสั่นไปหมด

“ไร้......เจ้าสารเลวไร้ยางอาย สมควรตายจริงๆ”

หน้าอกเขากระเพื่อมขึ้นลง อดไม่ได้ที่จะขว้างแก้วชาจนแตกไปใบหนึ่ง ทำเอาองค์หญิงอี๋อันตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ

เวลานี้จักรพรรดิจาวเหรินดวงตาแดงก่ำ แทบจะทนไม่ไหวที่จะมีราชโองการอีกหนึ่งฉบับ ให้บั่นคอไอ้สารเลวอ๋องไหวเซียงทันที

ยังคงรู้สึกเสียใจไม่หาย ตอนนั้นมองคนผิดไป ผลักลูกสาวคนโตลงไปในกองไฟด้วยมือตัวเอง ทำร้ายนางทั้งชีวิต

อวิ๋นหลิงเกรงว่าเขาจะโกรธจนเป็นอะไรขึ้นมา เอ่ยปากปลอบใจว่า “เสด็จพ่อทำเสด็จพี่ตกใจแล้ว ให้นางกินข้าวและอาบน้ำก่อนเถอะ จะได้พักผ่อนดีๆ”

จักรพรรดิจาวเหรินจึงได้สติกลับมา พวกเขาเอาแต่คุยกับองค์หญิงอี๋อัน อีกฝ่ายจึงไม่กล้าแม้แต่จะแตะต้องตะเกียบเลย

เขาดึงมือขององค์หญิงอี๋อันเดินไปยังโต๊ะหนังสือด้วยตนเอง และไม่รังเกียจที่อีกฝ่ายเสื้อผ้าสกปรก คีบกับข้าวให้นางอย่างห่วงใยอีกหลายครั้ง

“ซูโยวรีบกินเถอะ รองท้องไปก่อน รอช่วงค่ำพ่อจะสั่งให้ห้องเครื่องทำอาหารที่เจ้าชอบให้ทาน”

องค์หญิงอี๋อันพยักหน้า หยิบตะเกียบขึ้นมาอย่างระมัดระวัง ก้มหน้าก้มตากินข้าวไม่พูดไม่จา

แม้ว่านางจะสวมชุดมอมแมม แต่ท่าทางการกินข้าวในตอนนี้ กลับทำได้ตรงตามมาตรฐานจนไม่สามารถหาจุดบกพร่องได้

อวิ๋นหลิงก็สังเกตเห็นว่าพอคนในห้องตำรามากขึ้น เสด็จพี่คนนี้ก็จะระวังตัวเป็นพิเศษ จึงดึงแขนเสื้อของเซียวปี้เฉิง สองสามีภรรยาถอยออกไปทำงานของตัวเองอย่างรู้กาลเทศะ

เซียวปี้เฉิงทำตามคำสั่ง ถ่ายทอดคำสั่งให้แม่ทัพทหารม้านำกองกำลังเดินทางไกลไปยังเซียวโจว ขอให้อีกฝ่ายออกเดินทางหลังจากนี้สามวัน

ในขณะเดียวกัน สนมลี่ผินก็ได้รับการร้องขอจากเขา จึงรีบไปสั่งการนางกำนัลเช่นเดียวกัน เพื่อให้เก็บกวาดตำหนักโยวซิน

ที่นี่เป็นตำหนักที่อยู่ขององค์หญิงอี๋อันตอนที่ยังไม่แต่งงาน ไม่มีคนอยู่มาสิบกว่าปีแล้ว มีเพียงนางกำนัลที่ไปทำความสะอาดตามเวลาที่กำหนด แม้จะสะอาดเป็นระเบียบ แต่ข้าวของเครื่องใช้ล้วนเก่าแก่มากแล้ว

อวิ๋นหลิงเองก็แบกท้องที่กลมใหญ่ ไปตรวจดูเช่นกัน จากนั้นก็เขียนรายการต่างๆออกมา เตรียมจะให้กรมวังหาเวลามาเปลี่ยนสิ่งของทั้งหมดในตำหนักโยวซิน

เกิดเป็นหญิงด้วยกัน นางรู้สึกเห็นใจในสิ่งที่องค์หญิงอี๋อันและโม่อี้ซือต้องเผชิญ และนับว่าเป็นครั้งแรกที่รับรู้ได้อย่างลึกซึ้ง เมื่อหลุดพ้นจากการพึ่งพาพ่อกับพี่ชายและลูกชายแล้ว หญิงสาวทั่วไปจะมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ได้อย่างยากลำบากมาก

……

ช่วงพลบค่ำ สองสามีภรรยาได้รับข่าวที่ฝูกงกงนำมาแจ้ง ให้พวกเขาสองคนไปคุยกับจักรพรรดิจาวเหรินที่ห้องตำรา

เซียวปี้เฉิงพยักหน้า เอ่ยเสียงขรึมว่า “วางใจได้ ในทหารจำนวนหนึ่งหมื่นนายนี้มีพลปืนไฟอยู่สามพันนาย อ๋องไหวเซียงสู้ไม่ได้แน่นอน”

องค์ชายหกอายุน้อยที่สุด ตอนที่องค์หญิงอี๋อันแต่งงาน เขายังเป็นเด็กน้อยอายุแค่สี่ขวบ จึงไม่ได้มีความทรงจำเกี่ยวกับนางเลยสักนิด

เมื่อได้ยินสิ่งที่องค์หญิงอี๋อันต้องเผชิญ ก็อดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้ สีหน้าหนักอึ้ง

มีเพียงเยี่ยนอ๋องที่พูดจาตรงไปตรงมาที่สุด เอ่ยขึ้นด้วยความรู้สึกคุกรุ่นว่า “เห็นไหม เมื่อก่อนข้าก็เคยบอกแล้ว อ๋องไหวเซียงดูแล้วไม่ใช่คนที่น่าคบหาแต่อย่างใด อายุมากพอจะเป็นพ่อของเสด็จพี่ได้แล้ว แต่เสด็จพ่อก็ยังจะประทานงานแต่งงานให้อีก”

ตั้งแต่เล็กจนโต เยี่ยนอ๋องเป็นเด็กที่พี่น้องรักมากที่สุดตลอดมาในตระกูลราชวงศ์

เขาคลุกคลีอยู่กับองค์หญิงอี๋อันเป็นเวลาไม่นานนัก แต่ก็ยังมีความทรงจำอยู่ มีแต่เสด็จพี่ที่ใจกว้างและเอ็นดูเขาแม้ว่าจะซุกซนมากแค่ไหนก็ตาม

ในปีที่องค์หญิงอี๋อันถูกประทานงานแต่งงาน เยี่ยนอ๋องเพิ่งจะแปดขวบ นิสัยดื้อรั้นซุกซนมาก

เด็กน้อยจิตใจบริสุทธิ์ และมีนิสัยพึ่งพาพี่ชายพี่สาวตามธรรมชาติ ได้ยินว่าองค์หญิงอี๋อันจะแต่งงานจากบ้านไปไกล เขายังเคยไปอาละวาดที่ห้องตำรา ชี้หน้าอ๋องไหวเซียงที่ยังคงเป็นรัฐทายาทอยู่ในตอนนั้นว่าเป็นตาแก่

ปรากฏว่าทำให้จักรพรรดิจาวเหรินโกรธไม่เบา ถอดกางเกงของเขาต่อหน้าอ๋องไหวเซียง ฟาดลงไปที่แก้มก้นของเขาหนักๆสองที

เรื่องนี้เยี่ยนอ๋องจะจดจำไปตลอดชีวิต

ด้วยเหตุนี้เมื่อได้ยินเรื่องราวที่องค์หญิงอี๋อันต้องเผชิญในหลายปีมานี้ เขาเป็นคนแรกที่แสดงท่าทีไม่พอใจต่อจักรพรรดิจาวเหริน

จักรพรรดิจาวเหรินเมื่อถูกตำหนิ สีหน้าก็ดำคล้ำลงไปทันที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ