ที่สุดอวิ๋นหลิงก็เข้าใจแล้ว เยี่ยนอ๋องสงสารพระสนมหลี่ จงใจต่อต้านจักรพรรดิจาวเหริน
นางตบศีรษะของเขาเบาๆ “เสด็จพ่อเป็นเช่นนี้มานานแล้ว ครึ่งชีวิตของเขาก็เป็นเช่นนี้ จะแก้ก็แก้ไม่ได้แล้ว ยิ่งถือสากลับยิ่งทำให้ตัวเองไม่สบายใจ อย่าสนใจว่าเขาจะพูดอะไร เจ้าแค่รับฟังก็พอ เวลาทำอะไรก็ใช้ไหวพริบบ้าง อย่าให้ตัวเองต้องเสียเปรียบก็พอ”
เยี่ยนอ๋องพยักหน้าอย่างไม่สบอารมณ์
“พี่สะใภ้สาม ตอนค่ำข้าไม่ได้ดื่มเหล้า ท่านกับพี่สามรีบพักผ่อนเถอะ ข้ากับเหยาเหยาไม่รบกวนพวกท่านแล้ว”
อวิ๋นหลิงพยักหน้า มองส่งเขากับตี้หวู่เหยาเดินจากไป ก่อนจะควงแขนของเซียวปี้เฉิง เดินกลับตำหนักไปด้วยกัน
สำหรับหญิงตั้งครรภ์แล้ว การเดินออกกำลังอย่างเหมาะสมก็จำเป็นมากเช่นกัน
เซียวปี้เฉิงส่ายหน้าทอดถอนใจ “สองปีมานี้ความสัมพันธ์ระหว่างเสด็จพ่อกับลูกๆ......ยากจะอธิบายอยู่บ้างจริงๆ”
อวิ๋นหลิงก็คิดเช่นนั้น เป็นอย่างที่เขาพูดจริงๆ
โม่อ๋องกับองค์ชายหกต่างก็ค่อนข้างมีความรู้สึกเจียมตัว นิสัยของทั้งสองคนล้วนคล้ายกับแม่ผู้ให้กำเนิด เป็นความรักที่ให้กับจักรพรรดิจาวเหรินอย่างไม่ต้องการอะไรตอบแทน
อีกฝ่ายพอลำเอียงขึ้นมาก็จะไม่สนใจเหตุผล นี่ก็ไม่ใช่ครั้งสองครั้งแล้ว ตอนนี้แม้แต่เยี่ยนอ๋องก็เกิดอารมณ์ขึ้นมาแล้ว
ที่ทำให้ไร้คำพูดมากที่สุดคือ สองพี่น้องรุ่ยอ๋องที่เขารักที่สุดกลับไม่รับน้ำใจ ทะเลาะกับเขาวุ่นวายไปหมด
“ดีที่รุ่ยอ่องเป็นคนนิสัยอ่อนโยน ไม่ได้ทะเลาะกับเขาเพราะเรื่องของแม่นางหลี แต่หวังว่าหลังจากการคัดเลือกสาวงามแล้ว เขาอย่าได้คิดวางแผนจะหาอนุภรรยาให้รุ่ยอ๋องอีก”
เมื่อครู่นางสังเกตเห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่างรุ่ยอ๋องกับหรงฉานกลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว ถ้าหากจักรพรรดิจาวเหรินยื่นมือเข้าไปยุ่งอีก เกรงว่ารุ่ยอ๋องคงต้องระเบิดอารมณ์ออกมาแน่
แม้ว่าอีกฝ่ายจะเก็บซ่อนอารมณ์เอาไว้ในใจ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไร้อารมณ์
ถ้าหากสะสมจนถึงจุดคงที่แล้ว ก็จะระเบิดออกมาเหมือนกับเยี่ยนอ๋อง
เซียวปี้เฉิงทอดถอนใจอยู่เงียบๆ เรื่องที่เสด็จพี่กลับเมืองหลวง ทำเอาพี่น้องที่เดิมทีต่างก็มีครอบครัวเป็นของตนเองแล้วถูกมัดรวมกันอีกครั้ง
เขามีรางสังหรณ์เลือนรางว่า ชีวิตต่อจากนี้เป็นต้นไปเกรงว่าคงจะวุ่นวายไม่น้อย
……
เช้าวันรุ่งขึ้น
เซียวปี้เฉิงเพิ่งจะไปประชุมราชสำนัก อวิ๋นหลิงก็ตื่นขึ้นมา
ตงชิงที่ลาหยุดไปแต่งงานเป็นเวลาครึ่งเดือนกว่า ตอนนี้ได้กลับวังมาพร้อมกับลู่ฉีและทำงานต่อแล้ว
“ท่านตั้งครรภ์อยู่ นอนพักอีกสักหน่อยเถอะ งานที่ตำหนักโยวซินข้าช่วยจับตาดูอยู่”
อวิ๋นหลิงขยี้ตาที่ยังสะลึมสะลืออยู่ “องค์หญิงอี๋อันนิสัยขี้ขลาดระวังตัว เรื่องเปลี่ยนเครื่องเรือนข้าต้องไปดูด้วยตัวเอง จะได้ทำให้นางรู้สึกว่าคนในวังใส่ใจนาง”
ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือ จะได้ไม่ทำให้จักรพรรดิจาวเหรินคิดว่านางไม่ใส่ใจองค์หญิงอี๋อัน
องค์หญิงหกเพิ่งจะแต่งงานได้ไม่นาน ไม่ง่ายเลยที่เขาจะหาคนที่ฝากฝังอารมณ์ความรู้สึกได้ แน่นอนว่าช่วงนี้จำเป็นต้องเอาอกเอาใจเขาเสียหน่อย
หลังจากที่ล้างหน้าแปรงฟันแล้ว อวิ๋นหลิงก็ไปยังตำหนักโยวซินโดยมีตงชิงไปเป็นเพื่อน
ด้านหลังมีนางกำนัลจำนวนไม่น้อยถือกล่องอาหารเช้าไปด้วย
ดูนาฬิกาพกแวบหนึ่ง ตอนนี้เป็นเวลาแปดโมงเช้าแล้ว ตอนที่นางไปถึงตำหนักโยวซิน องค์หญิงอี๋อันเพิ่งจะตื่นมาล้างหน้าเสร็จ
หลังจากเห็นอวิ๋นหลิงก็นิ่งอึ้งไป รีบเอาเก้าอี้ออกมา เดินไปเชิญให้นางนั่งลงอย่างตื่นเต้น
“น้องสะใภ้สามทำไมจึงมาแต่เช้า เจ้าตั้งครรภ์อยู่ น่าจะพักผ่อนให้มาก”
อวิ๋นหลิงพูดยิ้มๆว่า “วันนี้ปี้เฉิงไปประชุมราชสำนัก ข้าอยากจะมาทานข้าวเช้ากับเสด็จพี่ กลับลืมไปว่าท่านเดินทางอย่างเหน็ดเหนื่อยมาร่วมสองเดือนกว่า รบกวนเวลาพักผ่อนของเสด็จพี่แล้ว”
องค์หญิงอี๋อับอายจนใบหน้าแดงก่ำ เอ่ยอย่างละอายใจว่า “ไม่เลย ข้าไม่เหนื่อยสักนิด หลับสนิทจนถึงเช้า ไม่ควรทำตัว......ไร้ระเบียบเช่นนี้ ทำให้เจ้าขบขันแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...