พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 794

ที่สุดอวิ๋นหลิงก็เข้าใจแล้ว เยี่ยนอ๋องสงสารพระสนมหลี่ จงใจต่อต้านจักรพรรดิจาวเหริน

นางตบศีรษะของเขาเบาๆ “เสด็จพ่อเป็นเช่นนี้มานานแล้ว ครึ่งชีวิตของเขาก็เป็นเช่นนี้ จะแก้ก็แก้ไม่ได้แล้ว ยิ่งถือสากลับยิ่งทำให้ตัวเองไม่สบายใจ อย่าสนใจว่าเขาจะพูดอะไร เจ้าแค่รับฟังก็พอ เวลาทำอะไรก็ใช้ไหวพริบบ้าง อย่าให้ตัวเองต้องเสียเปรียบก็พอ”

เยี่ยนอ๋องพยักหน้าอย่างไม่สบอารมณ์

“พี่สะใภ้สาม ตอนค่ำข้าไม่ได้ดื่มเหล้า ท่านกับพี่สามรีบพักผ่อนเถอะ ข้ากับเหยาเหยาไม่รบกวนพวกท่านแล้ว”

อวิ๋นหลิงพยักหน้า มองส่งเขากับตี้หวู่เหยาเดินจากไป ก่อนจะควงแขนของเซียวปี้เฉิง เดินกลับตำหนักไปด้วยกัน

สำหรับหญิงตั้งครรภ์แล้ว การเดินออกกำลังอย่างเหมาะสมก็จำเป็นมากเช่นกัน

เซียวปี้เฉิงส่ายหน้าทอดถอนใจ “สองปีมานี้ความสัมพันธ์ระหว่างเสด็จพ่อกับลูกๆ......ยากจะอธิบายอยู่บ้างจริงๆ”

อวิ๋นหลิงก็คิดเช่นนั้น เป็นอย่างที่เขาพูดจริงๆ

โม่อ๋องกับองค์ชายหกต่างก็ค่อนข้างมีความรู้สึกเจียมตัว นิสัยของทั้งสองคนล้วนคล้ายกับแม่ผู้ให้กำเนิด เป็นความรักที่ให้กับจักรพรรดิจาวเหรินอย่างไม่ต้องการอะไรตอบแทน

อีกฝ่ายพอลำเอียงขึ้นมาก็จะไม่สนใจเหตุผล นี่ก็ไม่ใช่ครั้งสองครั้งแล้ว ตอนนี้แม้แต่เยี่ยนอ๋องก็เกิดอารมณ์ขึ้นมาแล้ว

ที่ทำให้ไร้คำพูดมากที่สุดคือ สองพี่น้องรุ่ยอ๋องที่เขารักที่สุดกลับไม่รับน้ำใจ ทะเลาะกับเขาวุ่นวายไปหมด

“ดีที่รุ่ยอ่องเป็นคนนิสัยอ่อนโยน ไม่ได้ทะเลาะกับเขาเพราะเรื่องของแม่นางหลี แต่หวังว่าหลังจากการคัดเลือกสาวงามแล้ว เขาอย่าได้คิดวางแผนจะหาอนุภรรยาให้รุ่ยอ๋องอีก”

เมื่อครู่นางสังเกตเห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่างรุ่ยอ๋องกับหรงฉานกลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว ถ้าหากจักรพรรดิจาวเหรินยื่นมือเข้าไปยุ่งอีก เกรงว่ารุ่ยอ๋องคงต้องระเบิดอารมณ์ออกมาแน่

แม้ว่าอีกฝ่ายจะเก็บซ่อนอารมณ์เอาไว้ในใจ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไร้อารมณ์

ถ้าหากสะสมจนถึงจุดคงที่แล้ว ก็จะระเบิดออกมาเหมือนกับเยี่ยนอ๋อง

เซียวปี้เฉิงทอดถอนใจอยู่เงียบๆ เรื่องที่เสด็จพี่กลับเมืองหลวง ทำเอาพี่น้องที่เดิมทีต่างก็มีครอบครัวเป็นของตนเองแล้วถูกมัดรวมกันอีกครั้ง

เขามีรางสังหรณ์เลือนรางว่า ชีวิตต่อจากนี้เป็นต้นไปเกรงว่าคงจะวุ่นวายไม่น้อย

……

เช้าวันรุ่งขึ้น

เซียวปี้เฉิงเพิ่งจะไปประชุมราชสำนัก อวิ๋นหลิงก็ตื่นขึ้นมา

ตงชิงที่ลาหยุดไปแต่งงานเป็นเวลาครึ่งเดือนกว่า ตอนนี้ได้กลับวังมาพร้อมกับลู่ฉีและทำงานต่อแล้ว

“ท่านตั้งครรภ์อยู่ นอนพักอีกสักหน่อยเถอะ งานที่ตำหนักโยวซินข้าช่วยจับตาดูอยู่”

อวิ๋นหลิงขยี้ตาที่ยังสะลึมสะลืออยู่ “องค์หญิงอี๋อันนิสัยขี้ขลาดระวังตัว เรื่องเปลี่ยนเครื่องเรือนข้าต้องไปดูด้วยตัวเอง จะได้ทำให้นางรู้สึกว่าคนในวังใส่ใจนาง”

ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือ จะได้ไม่ทำให้จักรพรรดิจาวเหรินคิดว่านางไม่ใส่ใจองค์หญิงอี๋อัน

องค์หญิงหกเพิ่งจะแต่งงานได้ไม่นาน ไม่ง่ายเลยที่เขาจะหาคนที่ฝากฝังอารมณ์ความรู้สึกได้ แน่นอนว่าช่วงนี้จำเป็นต้องเอาอกเอาใจเขาเสียหน่อย

หลังจากที่ล้างหน้าแปรงฟันแล้ว อวิ๋นหลิงก็ไปยังตำหนักโยวซินโดยมีตงชิงไปเป็นเพื่อน

ด้านหลังมีนางกำนัลจำนวนไม่น้อยถือกล่องอาหารเช้าไปด้วย

ดูนาฬิกาพกแวบหนึ่ง ตอนนี้เป็นเวลาแปดโมงเช้าแล้ว ตอนที่นางไปถึงตำหนักโยวซิน องค์หญิงอี๋อันเพิ่งจะตื่นมาล้างหน้าเสร็จ

หลังจากเห็นอวิ๋นหลิงก็นิ่งอึ้งไป รีบเอาเก้าอี้ออกมา เดินไปเชิญให้นางนั่งลงอย่างตื่นเต้น

“น้องสะใภ้สามทำไมจึงมาแต่เช้า เจ้าตั้งครรภ์อยู่ น่าจะพักผ่อนให้มาก”

อวิ๋นหลิงพูดยิ้มๆว่า “วันนี้ปี้เฉิงไปประชุมราชสำนัก ข้าอยากจะมาทานข้าวเช้ากับเสด็จพี่ กลับลืมไปว่าท่านเดินทางอย่างเหน็ดเหนื่อยมาร่วมสองเดือนกว่า รบกวนเวลาพักผ่อนของเสด็จพี่แล้ว”

องค์หญิงอี๋อับอายจนใบหน้าแดงก่ำ เอ่ยอย่างละอายใจว่า “ไม่เลย ข้าไม่เหนื่อยสักนิด หลับสนิทจนถึงเช้า ไม่ควรทำตัว......ไร้ระเบียบเช่นนี้ ทำให้เจ้าขบขันแล้ว”

หลายปีมานี้ นางชินกับการดูแลทุกคนรอบตัว

อวิ๋นหลิงเงยหน้าขึ้นยิ้มพลางมององค์หญิงอี๋อันอย่างวิเคราะห์ ดูออกว่านางไม่ได้จงใจจะเอาใจ

ท่าทางของอีกฝ่ายตอนนี้เหมือนกับนางเฉินมาก ดูเหมือนเป็นแม่แก่ๆคนหนึ่ง เป็นแบบฉบับของภรรยาและแม่ที่ดีคนหนึ่ง

ไม่นานนัก นางคำนับหน้าประตูก็เข้ามารายงาน

“พระชายารัชทายาท องค์หญิงอี๋อัน แม่นางโม่มาถึงแล้ว”

อวิ๋นหลิงเอียงหน้าไปมองด้วยความอยากรู้ ก็พบสาวน้อยที่งดงามมีเสน่ห์ราวกับดอกเดซี่กำลังเดินเข้ามา

โม่อี้ซือสวมชุดกระโปรงสีเขียวปักลายทั้งตัว กำผ้าเช็ดหน้าในมือไว้แน่น โค้งคำนับให้กับอวิ๋นหลิง

“หม่อมฉันโม่อี้ซือ คำนับพระชายารัชทายาทเพคะ”

น้ำเสียงบางเบา เหมือนสายลมที่โชยพัดผ่าน

นางเหลือบตาขึ้นมาเล็กน้อย วิเคราะห์อวิ๋นหลิงอย่างขลาดกลัวแวบหนึ่ง แล้วก็รีบก้มหน้าลง ท่าทีอ่อนน้อมถ่อมตนมาก

วินาทีที่อีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นมา ทำให้คนรอบข้างต่างก็รู้สึกว่าภาพตรงหน้าสว่างสดใสมาก

อวิ๋นหลิงพยักหน้า ยิ้มบางๆก่อนจะเอ่ยว่า “ลุกขึ้นเถอะ ไม่ต้องมากพิธี”

สาวน้อยคนนี้เหมือนที่องค์หญิงอี๋อันพูดจริงๆ อายุน้อยๆก็มีความงามชนิดล่มเมืองได้เลย

นางเกิดมาหน้าตาสวยมาก ลักษณะก็งดงามมาก ใบหน้ามีแววสับสนไม่สบายใจแฝงอยู่ เหมือนดอกเดซี่ที่เบ่งบานอย่างเงียบๆอยู่ข้างทาง เป็นสุดยอดแห่งความงดงามและบริสุทธิ์

เพียงแต่รูปร่างดูซูบผอมไปหน่อย และมีนิสัยขี้ขลาดระมัดระวังตัวเหมือนกับองค์หญิงอี๋อันไม่มีผิด

นางยืนอยู่ตรงนั้นด้วยท่าทีนอบน้อม ลักษณะว่านอนสอนง่าย แค่องคาพยพทั้งห้า ก็สามารถอยู่ในระดับที่เปรียบเทียบกับหรงรั่วและหลิ่วชิงเยี่ยนได้แล้ว แต่บุคลิกกลับแตกต่างกว่าพวกนางอยู่มากโข

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ