เซียวปี้เฉิงกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “เสด็จปู่เคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า ถ้าราชสำนักมีขุนนางตงฉินจะดีที่สุด แต่ขุนนางกังฉินก็ใช่ว่าจะไม่มีดีสักอย่าง มีเพียงขุนนางที่มีอำนาจจึงจะทำงานจริงจังได้มากกว่า หากขาดความช่วยเหลือจากขุนนางใหญ่ ลำพังฮ่องเต้คนเดียวไม่มีทางทำสำเร็จ หากชั่งน้ำหนักพิจารณาข้อดีข้อเสีย บางทีจะทำเป็นไขสือกับเสนาบดีเฟิงกับเสนาบดีหลี่ไม่ได้เช่นกัน”
อย่างน้อยตาเฒ่าทั้งสองคนนี้ก็ยังมีท่วงท่าปัญญาชนอยู่บ้าง สามารถทำงานได้จริง แม้ว่าจะโลภในอำนาจ แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นลุ่มหลงจนโงหัวไม่ขึ้น
“แต่ตอนนี้สถานการณ์ของข้าต่างจากเสด็จปู่อยู่มาก ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ชีวิตที่เหลืออยู่ ข้าจะต้องคืนความสงบสุขให้แผ่นดินต้าโจวให้จงได้!”
อวิ๋นหลิงได้ยินถ้อยคำอันทรงพลังของเขา สีหน้าพลันอ่อนลง ก่อนให้กำลังใจอย่างจริงจัง “พวกเราทำได้แน่นอน”
“รอบรรดาลูกศิษย์ในสำนักศึกษาชิงอี้เติบโตขึ้น จะเอาพวกเขาเข้าแทนที่ทั้งหมดทันที หากใครกล้าไม่เชื่อฟัง อย่างมากก็เอาปืนคาบศิลาระเบิดหัวเขาไปเลย แล้วยึดทรัพย์สินเข้าท้องพระคลัง!”
สถานการณ์ของพวกเขาไม่ยากเท่าของตาแก่น้อย ที่ต้องปากกัดตีนถีบดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอดในดินแดนที่ยากจนข้นแค้น จึงต้องประนีประนอมหลายอย่าง
เมื่อพลังในมือแข็งแกร่งพอแล้ว ก็จะบดขยี้โจมตีศัตรูได้ทุกรูปแบบ
ที่ทุกคนกังวลตอนนี้เพียงแค่หวังว่าราชสำนักจะมั่นคงและไม่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประชาชน
เซียวปี้เฉิงฟังถึงตรงนี้ หน้าตาที่เศร้าหมองพลันหายไปหลายส่วน ก่อนยิ้มให้นางอย่างอดไม่ได้ ใบหน้าที่ตึงเครียดก็อ่อนโยนขึ้นมาก
“พวกเราต้องทำให้เสด็จปู่ได้เห็นยุคสมัยแห่งความเจริญรุ่งเรืองและความอุดมสมบูรณ์มั่นคงในชีวิตบั้นปลายของเขา!”
ได้หลิงเอ๋อร์ทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับเขา ช้าเร็วความหวังในอนาคตก็จะเป็นจริง
กงจื่อโยวที่มักจะเฉื่อยชาได้ยินเข้าก็เลือดเดือดพล่านด้วยความกระตือรือร้น สองตาทอประกายวาวโรจน์ ก่อนวางถ้วยชาลงบนโต๊ะอย่างแรง แล้วส่งเสียงดังกังวาน
“เยี่ยม! ปี้เฉิงเป็นชายชาตรีมีปณิธานอันยิ่งใหญ่ ข้าขอเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจครองบัลลังก์ที่ชวนให้ฮึกเหิมเช่นนี้ ถ้ามีอะไรที่สำนักทิงเสวี่ยและข้ากงจื่อโยวพอช่วยได้ ก็ว่ามาเลย!”
สำนักทิงเสวี่ยติดต่อกับแคว้นถังใต้มาเกือบร้อยปีแล้ว แต่ความจริงกงจื่อโยวไม่ชอบคบหากับราชวงศ์
โดยเฉพาะพวกชาวแคว้นถังใต้ เขาชิงชังและดูแคลนมาจากก้นบึ้งหัวใจ
ในโลกนี้มีผู้สูงศักดิ์ที่ทำให้เขาขยี้ตามองใหม่ด้วยความประทับใจได้ไม่มากนัก นอกจากชายชราในตำนานอย่างพระเจ้าหลวงแห่งแคว้นต้าโจว คนหนึ่งคือกู้ฉางเซิน และอีกคนคือเซียวปี้เฉิง
หลงเย่เห็นมิตรภาพระหว่างพวกเขาแล้วก็อดคลี่ยิ้มหวานละมุนไม่ได้
น้องสามแต่งงานกับชายชาตรี สามีของนางเป็นสุภาพบุรุษอย่างแท้จริงและมีจิตใจอันซื่อตรงยิ่งใหญ่
แต่หลงเย่เป็นกังวลอยู่บ้างว่าอีกฝ่ายซื่อตรงเกินไป จิตใจอ่อนโยนเกินไป จะเหี้ยมโหดไม่พอ
นางชอบเริ่มเป็นฝ่ายออกโจมตี วิธีการจะไม่ค่อยเปิดเผยและโปร่งใสนัก ถ้าทำงานร่วมกันแล้วเกิดความเห็นต่างคงจะไม่ดี
“เอาละ กลับเข้าประเด็นหลัก ตอนนี้เป็นเพราะตระกูลยินกับตระกูลลู่ไม่เต็มใจจะเกี่ยวดองกับราชวงศ์พอดี ด้วยเหตุนี้โม่อี้ซือจึงเป็นที่สนใจของพวกเขาอย่างมาก อ๋องไหวเซียงก็เป็นผู้ที่คุกคามท่านอาจักรพรรดิ ทั้งสองตระกูลจะคว้าโอกาสนี้ไว้ด้วยความยินดีเป็นแน่แท้ แล้วลากอ๋องไหวเซียงลงเรือโจรสลัด”
เพียงแต่ว่าอ๋องไหวเซียงก็เป็นศัตรูที่ต้องกังวลใจเช่นกัน เมื่อใดก็ตามที่พวกเขาลงเรือลำเดียวกัน ก็มีสิทธิ์ที่เรือจะล่มในคูน้ำได้ถ้าประมาทเลินเล่อ
หลงเย่ขบคิด หยั่งเชิงถามต่อไป “ในราชสำนักแคว้นถังใต้ การแต่งงานของแต่ละคนล้วนเป็นเบี้ยต่อรองในแผนการของราชสำนัก โม่อี้ซือเป็นตัวหมากที่ยอดเยี่ยม แต่ไม่รู้ว่าในใจน้องเขยจะรู้สึกหรือไม่ว่า การหาประโยชน์จากการแต่งงานของนาง ไม่ใช่เรื่องที่สุภาพบุรุษพึงกระทำ”
เซียวปี้เฉิงนิ่งคิดครู่หนึ่งแล้วส่ายหน้า “ศิษย์พี่ใหญ่ไม่ต้องกังวล ข้าแยกแยะหนักเบาได้ชัดเจน และสำหรับโม่อี้ซือ สถานะของนางที่เป็นลูกสาวบุญธรรมของอ๋องไหวเซียงได้กำหนดไว้แล้ว นางจะแต่งงานหรือไม่ก็ไม่ต่างกัน”
“เสด็จพี่ถูกทอดทิ้งเสียแล้ว แต่ก็ไม่ได้รับผลกระทบจากอ๋องไหวเซียงมากนัก แต่เมื่อรอถึงวันที่เขาถูกประหารชีวิต ผู้คนจะไม่ยอมให้โม่อี้ซือนั่งตำแหน่งท่านหญิงและเสวยสุขไปกับความรุ่งโรจน์และความมั่งคั่งต่อไป”
หลงเย่ชำเลืองมองเซียวปี้เฉิงโดยไม่เปิดเผยว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
เทียบกับเมื่อก่อน ตอนนี้นางล้างมือในอ่างทองคำเสียด้วย
อวิ๋นหลิงพยักหน้าด้วยความเคยชิน “เช่นนั้นก็ตกลงตามนี้ ต่อไปต้องรบกวนพี่ใหญ่จัดการตระกูลยินกับตระกูลลู่แล้ว”
มาถึงขั้นนี้ ในที่สุดนางก็เข้าใจแล้วว่าเหตุใดพระเจ้าหลวงจึงบอกว่าหลงเย่สามารถช่วยนางได้
ไม่เพียงเพราะทักษะทางจิตวิทยาของอีกฝ่าย แต่ยังเป็นเพราะความโหดเหี้ยมที่นางซ่อนเร้นเอาไว้ กอปรกับรูปแบบการทำงานที่ไม่เยิ่นเย้ออืดอาด
ในแง่สถานะ หลงเย่กับสามีก็เหมาะจะเข้าใกล้โม่อี้ซือที่สุด
หลังจากการกระทบกระทั่งครั้งนี้ องค์ชายคนอื่นๆ จะไม่กระตือรือร้นตีสนิทกับองค์หญิงอี๋อันและลูกสาวเหมือนคราวก่อนอย่างแน่นอน
นามจินอ๋องเป็นเพียงอ๋องต่างสกุล นอกจากให้เงินกับแคว้นต้าโจวแล้ว เขาก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับราชวงศ์เลย ทั้งสองสามีภรรยาจะเข้าหาโม่อี้ซือก็ไม่ผิดปกติแต่อย่างใด
ตอนที่ตระกูลยินตระกูลลู่ติดต่อกับเขาก็ไม่ได้ระแวดระวังจนเกินไป
อีกทั้งเครือข่ายการค้าของกงจื่อโยวก็ไม่ธรรมดา เครือข่ายข่าวกรองของสำนักทิงเสวี่ยก็ใหญ่โต ทว่าทำเรื่องเช่นนี้ก็อย่าหวังจะราบรื่นไปหมดเสียทุกอย่าง
อวิ๋นหลิงเข้าใจถึงความร้ายกาจของมัน อดชื่นชมความเก่งกาจของตาแก่น้อยไม่ได้ หลังจากสละราชสมบัติแล้ว เขาบำรุงรักษาสุขภาพอยู่ที่ตำหนักฉางหนิง ซ้ำยังควบคุมจัดการเรื่องราวใหญ่น้อยได้ทุกอย่าง
สมดังที่ภาษิตกล่าวไว้ว่าขิงยิ่งแก่ยิ่งเผ็ด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
เติมเหรียญอย่างไร...
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...