พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 809

สรุปบท ตอนที่ 809 เจ้าอ๋องผู้อนาถ: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ

ตอน ตอนที่ 809 เจ้าอ๋องผู้อนาถ จาก พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 809 เจ้าอ๋องผู้อนาถ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายโรแมนติกโบราณ พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ ที่เขียนโดย Anchali เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

เมื่อวานตอบพลบค่ำ องค์หญิงอี๋อันกำลังตำหนิติเตียนโม่อี้ซือด้วยเรื่องเครื่องสวมหัวอัญมณีทับทิม

ตอนแรกน้ำเสียงของนางถือว่ายังดี แต่เป็นเพราะโม่อี้ซือไม่ยอมรับสักที เบะปากเถียงอย่างน้อยใจ “ลูกไม่ได้ละโมบอยากได้เครื่องสวมหัวอันนั้น แต่พระชายาเยี่ยนยืนกรานจะมอบให้ ลูกปฏิเสธไม่ได้”

นางไม่เคยถูกรุมประคบประหงมมาก่อน กระทั่งบุตรีอนุในจวนอ๋องยังข่มเหงรังแกนาง ทว่าบัดนี้กลับเป็นที่สนใจของบรรดาองค์ชาย ความสุขที่มากะทันหันนี้ชวนให้ทำตัวไม่ถูก

ทว่าสตรีใช่คนหน้าด้านหน้าทนไม่ ไหนเลยจะกล้ายอมรับว่าตัวเองละโมบโลภมาก?

องค์หญิงอี๋อันผู้นิสัยดีเกรี้ยวกราดในบัดดล “หากเจ้าไม่พูดเช่นนั้น พระชายาเยี่ยนจะยืนยันที่จะมอบให้เจ้าทำไม? เจ้ารู้ดีว่าเครื่องประดับไข่มุกก็ได้มาเช่นนี้ ไยเจ้ารู้แล้วยังทำผิดอีก?”

แม้นต่อหน้าสามี องค์หญิงอี๋อันจะเป็นคนอ่อโยน ชดช้อย ทว่ายามพร่ำสอนบุตรกลับไม่เคยรักจนตามใจโม่อี้ซือเกินเหตุ

โดยเฉพาะด้านการวางตัวของสตรี นางจะให้ความสำคัญยิ่ง ดังนั้นพฤติกรรมของโม่อี้ซือ สำหรับนางแล้วคือไม่ต่างจากการทำผิดมหันต์

“เจ้าทำแบบนี้ ต่อไปจะให้พวกเสด็จน้องชายมองเจ้าเช่นไร มองข้าเช่นไร? แล้วถ้าเจอหลี่กุ้ยเฟยในวัง เจ้าจะทำตัวเช่นไร? หากเจ้าไม่ไปรับผิดที่จวนเยี่ยนอ๋อง แม่ก็ไม่มีหน้าอยู่ในวังต่อแล้ว พรุ่งนี้จะไปขอเสด็จพ่อให้สร้างจวนให้ ย้ายออกไปอยู่นอกวังจะดีกว่า”

โม่อี้ซือตกใจหน้าซีดเผือด ตำหนักเล็กของนางเพิ่งตกแต่งเสร็จไม่กี่วันเอง นางยังไม่อยากย้ายออกจากพระราชวัง

แล้วตำหนักเล็กของนางสวยงดงาม มีประติมากรรมแกะสลักทุกทั่วมุม โอ่อ่า หรูหรา เครื่องตกแต่งก็มีราคาแพงลิ่วทุกชิ้น

ดีกว่าเรือนปีกข้างที่นางพักในจวนอ๋องไหวเซียงหลายเท่า

ดังนั้นโม่อี้ซือจึงปาดน้ำตายอมรับผิดอย่างรวดเร็ว

“ท่านแม่อย่าโกรธเลย ลูกผิดไปแล้ว ข้าไม่ควรเอาความนิสัยดีของพระชายาเยี่ยนเพื่อครอบครองเครื่องสวมหัว...ลูกยินดีตามท่านแม่ไปขอขมาที่จวนเยี่ยนอ๋อง และคืนเครื่องสวมหัวกลับไป ต่อไปไม่กล้าแล้ว ฮือๆๆ...”

ตอนที่ตี้หวู่เหยามอบเครื่องประดับให้โม่อี้ซือครั้งแรก นางดีใจระคนตื่นเต้นจนไม่กล้ารับมาจริง

ตอนนั้นนางบอกว่าอยากสวมอันเก่า จึงคืนอันใหม่ให้ตี้หวู่เหยา ล้วนเป็นถ้อยคำที่กลั่นกรองมาจากใจ

เพียงแต่ไม่คิดว่าตี้หวู่เหยาจะมองเครื่องประดับทั้งสองชุดให้นางหมด จึงทำให้นางได้ลิ้มรสความหวาน ส่งผลให้ทำเรื่องในตอนนี้เช่นนี้

องค์หญิงอี๋อันมองนางด้วยนัยน์ตาโกรธขึ้งและรักใคร่

ตอนที่โม่อี้ซืออยู่จวนอ๋องไหวเซียง ไหนเลยจะเคยสวมเครื่องประดับงดงามปานนี้ ปกติใช้เพียงดอกไม้ราคาถูก

และจะมีบางครั้ง พี่น้องในจวนจะให้กำไลหรือปิ่นปักผมคุณภาพต่ำแก่นาง นางล้วนเก็บไว้อย่างทะนุถนอม หยิบออกมาใช้ก็ต่อเมื่อถึงงานเทศกาลเท่านั้น

สุดท้ายองค์หญิงอี๋อันก็ถอนหายใจยาวๆ พูดด้วยความหวังดีว่า “ซือซือ เสด็จพ่อกับท่านลุงไม่ได้ดูถูกเจ้าเพราะชาติกำเนิดของเจ้า หาไม่แล้วพวกเขาก็คงเข้ากับพระชายาโม่ไม่ดีเพียงนี้หรอก”

“พฤติกรรมที่เจ้าทำต่างหาก ถึงทำให้คนอื่นดูถูก รังเกียจ คิดว่าเจ้าไปยืนในสังคมชั้นสูงไม่ได้ เจ้าจงจำไว้นะ เป็นสตรีอยู่ในกรอบในศีลธรรม ถึงจะเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนจริงๆ อะไรที่เจ้าไม่เคยมี ต่อไปเจ้าก็จะมีแน่”

โม่อี้ซือร้องไห้จนรู้สึกวิงเวียน พยักหน้าไม่หยุด และไม่รู้ว่าพูดปากแฉะขนาดนี้นางจะฟังเข้าหูกี่คำ แล้วจะจำได้มากน้อยเท่าใด

หากเปิดเผยภาพอันไม่พิสมัยต่อหน้าองค์หญิงอี๋อันเงียบๆก็ไม่เท่าไหร่

ทว่าบัดนี้กลับต้องโดนลวงลึกทุกข้อเท็จจริงต่อหน้าอวิ๋นหลิงจนหมดเปลือก นางจึงยากจะรับได้ รู้สึกไม่พอใจต่อองค์หญิงอี๋อันเล็กน้อย

นางรับปากว่าจะไปยอมรับผิดที่จวนเยี่ยนอ๋องแล้ว ไฉนท่านแม่ยังต้องตำหนินางต่อหน้าผู้อื่นเพียงนี้?

อวิ๋นหลิงเห็นท่าทางทุกข์ใจของโม่อี้ซือก็ทำเป็นไม่เห็นสิ่งใด

“เสด็จพี่หญิงพูดแรงไปแล้ว ผู้หญิงรักสวยรักงามเป็นเรื่องธรรมดา เจอเครื่องประดับสวยๆเข้าก็อยากได้กันทั้งนั้น? การแย่งเครื่องประทินกับเสื้อผ้ากับพี่น้องมีให้เห็นเกือบทุกจวน ถือเป็นเรื่องปกติ”

ไม่รู้ว่าโม่อี้ซือจะทำให้ความตั้งใจและทุ่มเทขององค์หญิงอี๋อันสูญเปล่าหรือไม่ อย่าถลำลึกไปในทางไม่ดีจะดีที่สุด

......

หลังหลี่กุ้ยเฟยทำร้ายจักรพรรดิจาวเหริน วังหลังก็สงบเงียบขึ้นเยอะ

ปกติโม่อ๋องกับเยี่ยนอ๋องงานยุ่งมาก ไม่ได้เข้าวังติดต่อกันหลายวัน มีเพียงรุ่ยอ๋องที่รับผิดชอบหาอาจารย์ให้โม่อี้ซือ ต้องไปหารือความคืบหน้ากับองค์หญิงอี๋อันที่ตำหนักโยวซินทุกวัน

ตอนบ่ายของวันนี้ หลงเย่เข้าวังมาหาอวิ๋นหลิง แล้วเอาโครงการโรงพิมพ์ให้นาง

โครงการเขียนเป็นปึกใหญ่ มีเนื้อหาตั้งแต่คู่มือการใช้งาน และผู้รับผิดชอบต่างๆ ล้วนละเอียดทุกจุด

อวิ๋นหลิงพลิกอ่านและถามผ่านๆว่า “ใช่แล้ว ทำไมช่วยนี้ไม่เห็นพี่ฉิงเลย นางไปไหน?”

นับแต่แต่งงานสายฟ้าแลบกับเจ้าอ๋อง หลิวฉิงก็บอกว่าจะรีบสร้างสวนสัตว์ให้เสร็จโดยเร็ว จะได้เปิดกิจการสักที หมกมุ่งอยู่แต่กับงาน

หลงเย่พูดอย่างจนปัญญา “หลังนางแต่งงานกับเจ้าอ๋องวันที่สาม ก็วิ่งเข้าป่าไปคนเดียว บอกว่าจับท่านปู่งูเหลือมได้แล้วจะกลับมา ตอนนี้สามีนางเป็นคนดูแลการก่อสร้างสวนสัตว์กับงานเก็บกวาดอุจจาระของพวกสัตว์เทพ”

ตอนนี้ผ่านมาหนึ่งเดือนกว่าแล้ว กู้ฉางเซินจัดเตรียมสวนสัตว์เรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่เห็นหลิวฉิงกลับมาสักที

อวิ๋นหลิงได้ยินดังนั้นก็แอบจุดธูปภาวนาให้กู้ฉางเซิน

เป็นเจ้าอ๋องที่อนาถยิ่ง

ไม่รู้เพราะเหตุใด นางรู้สึกว่าอีกฝ่ายเหมือนแต่งงานได้สามวัน สามีก็ออกรบ ทิ้งให้อีกฝ่ายเฝ้าดูแลบ้านคนเดียว...

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ