พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 811

สรุปบท ตอนที่ 811 เจ็ดอีแปะหนังสือพิมพ์สองฉบับ: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ

สรุปตอน ตอนที่ 811 เจ็ดอีแปะหนังสือพิมพ์สองฉบับ – จากเรื่อง พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ โดย Anchali

ตอน ตอนที่ 811 เจ็ดอีแปะหนังสือพิมพ์สองฉบับ ของนิยายโรแมนติกโบราณเรื่องดัง พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ โดยนักเขียน Anchali เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

สองพี่น้องคุยกันหนึ่งชั่วยามกว่า หลงเย่ก็ออกจากวังไปทำธุระอื่นต่อ

อวิ๋นหลิงดูแผนงานโรงพิมพ์อย่างจริงจังอยู่หลายรอบ ในใจเต็มไปด้วยความรอคอยและแรงขับเคลื่อน

แผนงานโรงพิมพ์ทำได้ละเอียดมาก การกำหนดเนื้อหาของหนังสือพิมพ์ประชาชนในช่วงแรก หลักๆแล้วจะเขียนไปทางเรื่องซุบซิบแปลกประหลาดเพื่อความบันเทิงเป็นหลัก

เน้นประกาศให้ประชาชนได้รับรู้ถึงข่าวในสังคม นอกจากข่าวในเมืองหลวงแล้ว ยังรวบรวมเรื่องเล่าเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยจากต่างพื้นที่ แคว้นต่างๆ รวมไปถึงดินแดนตะวันตกและอีกฝั่งของมหาสมุทร

ขณะเดียวกันก็ช่วยในการเผยแพร่ความรู้ด้านความปลอดภัย การเผยแพร่ความรู้ทั่วไปทางวิทยาศาสตร์ รวมไปถึงแนวทางการคิดเชิงบวก

ยังกำหนดให้มีหมวดโต้ตอบกับประชาชน ล้วนเป็นส่วนที่ใช้งานได้จริงและมีประสิทธิภาพค่อนข้างสูง ตัวอย่างเช่นการประกาศหาบุคคลหรือทรัพย์สินที่สูญหาย รวมไปถึงการโฆษณาประกาศให้เช่าร้านค้า ช่วยในการเผยแพร่ข่าวการรับสมัครต่างๆในพื้นที่เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีการให้ประชาชนส่งเนื้อหาตามที่กำหนดสำหรับตีพิมพ์ ถ้าหากถูกคัดเลือกและนำมาเรียบเรียงใหม่เพื่อตีพิมพ์ ก็จะได้รับค่าตอบแทน

หลังจากที่เซียวปี้เฉิงเลิกประชุมราชสำนักแล้ว ได้อ่านแผนงานอย่างละเอียด ก็ชมไม่หยุดปาก

“เป็นแผนงานที่ยอดเยี่ยมมาก รออีกไม่กี่วันข้าจะประกาศข่าวเรื่องการก่อตั้งหนังสือพิมพ์แห่งเมืองหลวงให้ราชสำนักรับทราบ ส่วนทางด้านพวกเศรษฐีหนุ่มสามารถเริ่มดำเนินการได้เลย

เนื่องจากเป็นเรื่องสำคัญ แน่นอนว่าต้องมีการประกาศก่อตั้งหนังสือพิมพ์เมืองหลวงก่อน ส่วนหนังสือพิมพ์ประชาชนจะขายอย่างเป็นทางการในอีกครึ่งเดือนให้หลังจะดีที่สุด

อวิ๋นหลิงยิ้มพลางถามว่า “คณะทำงานของหนังสือพิมพ์เมืองหลวงคัดเลือกเรียบร้อยแล้วหรือ”

เซียวปี้เฉิงพยักหน้า เอ่ยอย่างจริงจังว่า “เจ้าพวกที่อยู่ในราชสำนักไม่ใช่คนโง่ สิ่งที่สามารถเค้นคอให้พูดความจริงได้ ถ้าหากพวกเราต้องการควบคุมทั้งหมดไว้ในมือ ต้องทำให้พวกเขาโจมตีและกล่าวหาแน่ ด้วยเหตุนี้อย่างไรซะก็ให้หกกรมเข้ามามีส่วนร่วมจะดีกว่า”

“หลังจากนี้ทั้งหกกรมจะมีนักเขียนกรมละหนึ่งคน รับผิดชอบการเขียนข่าวของหกกรม สำนักศึกษาฮั่นหลินรับผิดชอบในการตรวจสอบและพิสูจน์อักษร หลังจากที่ยืนยันต้นฉบับหนังสือพิมพ์เมืองหลวงแล้ว ต้องมอบให้ข้ากับเสด็จพ่อดูผ่านตาก่อนจึงจะได้”

“ส่วนหัวหน้านักเขียน ข้าคิดจะให้พี่ใหญ่มาทำหน้าที่ในตำแหน่งนี้ ต้นฉบับของข่าวทั้งหมดต้องผ่านการปรับปรุงแก้ไขและยืนยันจากตัวเขาเอง ทางด้านสำนักศึกษาฮั่นหลินก็ยอมรับในตัวเขาตลอดมา”

เมื่อก่อนรุ่ยอ๋องมีนิสัยอบอุ่นไร้เดียงสาอยู่บ้าง แต่เขาเขียนบทความได้ดีมาก โดยเฉพาะความถนัดในการเขียนหนังสือราชการที่มีโวหารสวยงาม

แตกต่างกับนิสัยส่วนตัวโดยสิ้นเชิง เขาเชี่ยวชาญในด้านการดัดแปลงข้อความ ไม่ว่าจะเป็นฎีกาที่เคร่งครัดจริงจัง หรือว่าบทความธรรมดาเข้าใจง่าย ล้วนสามารถทำได้พอเหมาะพอดี

ให้รุ่ยอ๋องรับผิดชอบหน้าที่หัวหน้านักเขียน ไม่เพียงแต่จะสามารถรักษาความเข้มงวดและจริงจังของหนังสือพิมพ์เมืองหลวงเอาไว้ได้ ยังสามารถทำให้ประชาชนเข้าใจในสิ่งที่ราชสำนักต้องการจะสื่อได้ง่ายขึ้น

ไม่เหมือนอวิ๋นหลิง นางไม่เข้าใจภาษาโบราณภาษาราชสำนักเลยแม้แต่น้อย เขียนฎีกาล้วนใช้แต่ภาษาชาวบ้าน ช่วงแรกที่เข้าร่วมประชุมราชสำนักมีขุนนางไม่น้อยเอาเรื่องนี้มาหัวเราะเยาะนาง

ก่อนหน้านี้ยังมีขุนนางไม่น้อยจงใจทำให้นางลำบากใจ เขียนฎีกาที่ส่งให้นางด้วยข้อความที่ลึกซึ้งเข้าใจยาก ถ้าไม่ให้เซียวปี้เฉิงแปลให้ฟัง ก็อ่านไม่ออกเลยว่าอีกฝ่ายต้องการสื่อถึงอะไรกันแน่

แต่อวิ๋นหลิงก็ไม่ใช่คนที่จะหาเรื่องได้ง่ายๆ เมื่อสังเกตเห็นแผนการของเหล่าขุนนาง วันถัดมาหลังจากเลิกประชุมราชสำนักก็ให้พวกเขาเหล่านั้นอยู่ต่อ คุยกันซึ่งๆหน้า

จากนั้นในเวลาก่อนอาหารกลางวันเพียงสิบหน้านาที ก็ปล่อยเหล่าขุนนางที่เรียกตัวให้”อยู่ต่อ”กลับไป หลังจากที่กลับไปถึงจวน ก็หัวจนไส้กิ่วกันหมดแล้ว

หลังจากที่ทำเช่นนี้อยู่หลายครั้ง ก็ไม่มีใครกล้าหาเรื่องที่ทำให้ไม่มีความสุขอีก

อวิ๋นหลิงพูดด้วยรอยยิ้ม “ตำแหน่งหัวหน้านักเขียนนี้ มอบให้คนอื่นข้าอาจจะไม่วางใจ แต่ถ้ามอบให้รุ่ยอ๋องถือว่าเลือกถูกคนแล้ว”

ในขณะที่นักเขียนของทั้งหกกรมเขียนข่าวนั้น ย่อมต้องหาทุกวิถีทางในการแฝงผลประโยชน์ส่วนตัว

ในขณะที่รุ่ยอ๋องเป็นคนที่ใส่ใจในกฎระเบียบและเคร่งครัดมาก บวกกับนิสัยดื้อดึงและจริงใจของเขา ย่อมต้องไม่ให้คนกลุ่มนั้นฉวยโอกาสได้แน่ คงจะมุ่งมั่นทำอย่างเป็นกลางและเข้มงวด

เขาไม่ค่อยเข้าใจคำว่าความรู้สึกสักเท่าไหร่ ได้แต่สงสัยว่าอวิ๋นหลิงกำลังต้องการจะทดสอบและฝึกฝนความสามารถด้านการคำนวณของประชาชนแคว้นต้าโจวใช่หรือไม่

คุยกันถึงตรงนี้ เซียวปี้เฉิงยังไม่รู้ว่า ในอนาคตอันใกล้นี้จะมี《เพลงขายหนังสือพิมพ์》ดังไปทั่วทุกตรอกซอกซอย ลุกลามไปทั่วทุกมุมของแคว้นต้าโจว

……

ไม่ช้า ในการประชุมราชสำนัก เซียวปี้เฉิงได้เอ่ยถึงความคิดที่จะก่อตั้งหนังสือพิมพ์เมืองหลวงขึ้นมาอย่างเป็นทางการ

เขาเตรียมการมาอย่างครบถ้วนมาก ทั้งยังเป็นแผนการที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติ ครั้งนี้เหล่าขุนนางไม่น้อยถูกความคิดอันน่าอัศจรรย์ของอวิ๋นหลิงทำให้เกิดความประหลาดใจและชื่นชม มีท่าทีเชิงบวกในการยอมรับ

ในขณะเดียวกัน ทางกรมอาญาก็ให้ความร่วมมืออย่างรวดเร็ว มีการกำหนดกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด

อีกทั้งยังให้กำลังใจชาวบ้านในการสร้างหนังสือพิมพ์หรือสิ่งพิมพ์ที่มีเนื้อหาหลากหลาย ใช้ในการสนับสนุนราชสำนักในการตีพิมพ์สิ่งพิมพ์ที่เกี่ยวกับการแพทย์ ช่างฝีมือและวิชาเฉพาะทางเป็นต้น โดยมีวัตถุประสงค์ในการเสริมสร้างการแลกเปลี่ยนทางวิชาการ

แต่สิ่งพิมพ์ทั้งหมดที่คิดจะจัดทำขึ้นนั้น ต้องมีการยื่นให้ทางสำนักศึกษาฮั่นหลินในการตรวจสอบ

และเพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงให้คนที่มีใจคิดไม่ซื่อใช้วิธีการเดียวกันในการเข้าไปมีอิทธิพลชักจูงทางความคิดของประชาชน กฎหมายได้กำหนดไว้อย่างชัดเจน สิ่งพิมพ์ของเอกชนสามารถตีพิมพ์เนื้อหาของหนังสือพิมพ์เมืองหลวงซ้ำได้ แต่ไม่สามารถทำการแสดงความคิดเห็นตามอำเภอใจต่อเนื้อหาใดๆก็ตามที่เกี่ยวข้องกับราชสำนัก

อวิ๋นหลิงนั้นเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงลักษณะทั้งสองด้านของข่าวและสื่อ ขอเพียงประชาชนไม่รวมตัวกันก่อเรื่อง พูดคุยเรื่องการเมืองกันเอง โดยทั่วไปแล้วราชสำนักจะไม่ติดตามเอาผิดความคิดเห็นเชิงลบ

แต่เมื่อเกี่ยวข้องกับสื่อสิ่งพิมพ์ นางต้องปฏิบัติอย่างระมัดระวัง การปิดพื้นที่แสดงความคิดเห็นเป็นเรื่องจำเป็นมาก

โดยเฉพาะไอ้พวกสารเลวอย่างตระกูลลู่ และตระกูลยิน แต่ละคนอย่าคิดแม้แต่จะแอบเปิดสำนักพิมพ์ ห้ามแสดงความคิดเห็นและแบนให้หมดทุกคน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ