สรุปตอน ตอนที่ 816 ไม่ใช่คนพูดติดอ่างก็เป็นคนโง่ – จากเรื่อง พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ โดย Anchali
ตอน ตอนที่ 816 ไม่ใช่คนพูดติดอ่างก็เป็นคนโง่ ของนิยายโรแมนติกโบราณเรื่องดัง พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ โดยนักเขียน Anchali เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
อวิ๋นหลิงหัวใจกระตุก คิดถึงสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าสิบกว่าแห่งที่ไม่ยอมให้ความร่วมมือ ไม่ว่าอย่างไรก็รู้สึกว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากล จึงได้ไถ่ถามรายละเอียดและมูลเหตุของเรื่องราวที่เกิดขึ้น
หลิวฉิงอธิบายว่า “เรื่องมันเป็นอย่างนี้ หลายวันก่อนหน้านี้ฉันไล่ตามท่านปู่งูเหลือมไปไกลมาก ไม่ง่ายเลยกว่าจะเกลี้ยกล่อมให้มันกลับไปที่สวนสัตว์กับข้า ปรากฏว่าไม่ทันระวังตัวทำให้หลงทาง ฉันไม่คุ้นเคยกับสถานที่ในแคว้นต้าโจว ท่านปู่ก็ไม่รู้เส้นทาง ในถิ่นทุรกันดารอย่างนั้นฉันหาโรงเตี๊ยมเพื่อพักผ่อนไม่ได้เลย ได้แต่ใช้พลังจิตในการค้นหาเส้นทาง”
เสียเวลาไปกว่าครึ่งวัน ที่สุดก็ตรวจจับรถม้าหลายคันที่กำลังเดินทางผ่านไป
“ฉันใช้พลังจิตเพื่อฟังบทสนทนาของกลุ่มคนที่อยู่บนรถม้าตั้งแต่ไกลๆ สรุปได้คร่าวๆว่าเป็นพวกค้ามนุษย์ เดินทางไปที่ชานเมืองตะวันออกของเมืองหลวงเพื่อติดต่อและรับคน เดิมทีอยากจะสั่งสอนคนเหล่านี้ให้ราบคาบ ให้พวกเขาส่งข้ากลับมาที่เมืองหลวง แต่เมื่อรู้ข้อมูลแล้วก็เปลี่ยนแผนการ”
ดังนั้นนางจึงนั่งเฝ้าอยู่บนเส้นทางที่อีกฝ่ายต้องเดินทางผ่านเพื่อขอความช่วยเหลือ คิดไว้ว่านอกจากจะขอติดรถม้ากลับไปด้วยแล้ว ยังจะช่วยเด็กผู้หญิงที่ถูกลักพาตัวไปขายอีกด้วย ก่อนจะจัดการกับกลุ่มค้ามนุษย์พวกนั้นให้สิ้นซาก
ตอนนั้นหลิวฉิงอยู่ในป่าลึก เพราะไล่ตามท่านปู่งูเหลือมมาเป็นเวลาห้าวันแล้ว เสื้อผ้าบนร่างกายถูกกิ่งไม้เกี่ยวจนขาดวิ่น ราวกับรวมเอาขอทางและคนป่ามาอยู่ในร่างเดียวกัน
ชายวัยกลางคนที่เป็นหัวหน้าเห็นว่านางเป็นผู้หญิง แม้ร่างกายจะสกปรกมอมแมมผมเผ้ายุ่งเหยิง แต่ดูจากองคาพยพทั้งห้าที่ประณีตแล้วเห็นได้ชัดว่าเป็นสาวงามคนหนึ่ง ดวงตาเป็นประกายขึ้นมาทันที
“ที่นี่เป็นป่าทุรกันดาร ทำไมแม่นางจึงมาอยู่ที่นี่ตัวคนเดียว ถึงเวลาค่ำในป่าจะมีหมาป่าออกมาล่าเหยื่อ น่ากลัวมากนะ”
“ข้าหลงทาง”
หลิวฉิงตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ พูดในใจว่านอกจากหมาป่าแล้ว ยังมีงูเหลือมตัวใหญ่ด้วย
ท่านปู่งูเหลือมได้ยินยอมที่จะอยู่ในสวนสัตว์เป็นการชั่วคราวแล้ว เพียงแต่กลัวว่าจะทำให้คนที่เดินทางผ่านไปมาตกใจ ดังนั้นจึงได้แต่ซ่อนตัวและเลื้อยอยู่ในป่า มีหลิวฉิงใช้พลังจิตในการนำทางให้มัน
นางเหลือบตาขึ้นมองกลุ่มคนพวกเหล่านั้น ด้านหลังมีรถม้าว่างเปล่าสี่คัน น่าจะใช้เพื่อบรรทุกคน
ชายวัยกลางคนได้ยินดังนั้น ก็ใช้สายตาที่แฝงแววสงสารมองมาที่นาง “แม่นาง ไม่รู้ว่าบ้านของเจ้าอยู่ที่ไหน ที่บ้านมีสมาชิกกี่คน ต้องการจะไปที่ใด พวกเราจะไปเมืองหลวงอยู่พอดี ไม่สู้พวกเราให้เจ้านั่งรถม้าไปด้วย มิเช่นนั้น.....”
เขายังไม่ทันพูดจบ หลิวฉิงก็หมุนตัวมุดเข้าไปนั่งในรถม้าแล้ว ตอบกลับด้วยคำพูดที่ไม่ได้แฝงความรู้สึกใดๆว่า
“ขอบคุณ”
“……”
ชายวัยกลางคนกับคนขับรถม้าสบตากัน ต่างก็รู้สึกไม่ค่อยเข้าใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
หลังจากที่พาหลิวฉิงขึ้นรถม้ามาด้วย”ความหวังดี” เมียของชายวัยกลางคนได้มาพูดคุยสัพเพเหระกับนาง พยายามจะทำความเข้าใจถึงโคตรเหง้าของนางให้ชัดเจน
แต่หลิวฉิงเป็นคนที่รู้ข้อบกพร่องขอตนเองดี นางเป็นคนที่ไม่เก่งเรื่องการแสดงและพูดปดมากที่สุดในองค์กร ยิ่งพูดยิ่งผิด เพื่อป้องกันไม่ให้เผยพิรุธจนเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่น จึงเลือกที่จะนิ่งเงียบเอาไว้
หญิงคนนั้นดูเป็นกันเองและอบอุ่น และพูดคุยเก่งมาก แต่ถึงแม้จะถามจนคอแห้ง ก็ได้คำตอบจากหลิวฉิงเป็นแค่คำว่า”อืมอาอ๋อ”เท่านั้น
ไม่ช้านางก็กลับไปยังรถม้าของคนที่เป็นหัวหน้า กระซิบบางอย่างกับกลุ่มคนที่เหลือ
หลิวฉิงหลับตาพักอยู่ในรถม้าที่อยู่ทางด้านหลัง ได้ยินเสียงที่พวกเขาพูดคุยกันอย่างชัดเจน
“โธ่เอ๋ย ผู้หญิงคนนั้นไม่พูดไม่จาเลย ถามอะไรก็ตอบไม่ชัดเจน ข้าดูแล้วถ้าไม่ใช่คนพูดติดอ่าง ก็ต้องเป็นคนโง่แน่ๆ”
“ขึ้นรถม้าของพวกเราโดยไม่ระแวงเลยสักนิด น่าจะไม่ฉลาดสักเท่าไหร่ แปดในสิบคงจะเป็นสะใภ้ซื่อบื้อที่หนีออกมาจากหมู่บ้านแถวนี้”
“ไม่ว่าจะโง่หรือไม่ แต่หน้าตาถือว่าใช้ได้ ถึงเวลาก็ขายนางให้หอนางโลม ก็นับว่าเป็นลาภลอยก้อนหนึ่ง ไม่ต้องจ่ายส่วนแบ่งให้กับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าด้วย”
หลิวฉิงขมวดคิ้วเล็กน้อยอย่างจับสังเกตไม่ได้ ที่แท้ก็คิดวางแผนจะลงมือกับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้านี่เอง
นางนั่งรถม้าไปกับพวกเขามาเป็นเวลาสองวัน ระหว่างทางก็สืบรายละเอียดของคนกลุ่มนี้จนชัดเจนหมดแล้ว
พูดจบ สองพี่น้องก็นิ่งเงียบกันไปครู่ใหญ่
เห็นได้ชัดว่า อีกฝ่ายต้องการจะทำลายหลักฐานและร่องรอยทั้งหมด ปกป้องนักลงทุนแท้จริงที่อยู่เบื้องหลัง
เวลานี้เซียวปี้เฉิงกลับมาจากการประชุมราชสำนักพอดี คิดไม่ถึงว่าจะเห็นหลิวฉิงอยู่ที่นี่ ก็เอ่ยอย่างคาดไม่ถึงว่า “ศิษย์พี่รองกลับมาแล้วหรือ พวกเจ้ากำลังคุยอะไรกันอยู่ ทำไมสีหน้าถึงไม่ดีเอาเสียเลย”
เขาทักทายคำหนึ่ง สังเกตได้ถึงบรรยากาศที่หนักอึ้งในตำหนัก
อวิ๋นหลิงเก็บอารมณ์และความคิด เล่าเรื่องที่หลิวฉิงประสบพบเจอโดยคร่าวๆให้เขาฟังด้วยสีหน้าหนักอึ้ง
สีหน้าของเซียวปี้เฉิงเปลี่ยนไปทันที เขาขมวดคิ้วแน่น เอ่ยด้วยน้ำเสียงมั่นใจว่า “ต้องเป็นหน่วยกล้าตายที่ใครบางคนเลี้ยงเอาไว้แน่”
มีเพียงหน่วยกล้าตายเท่านั้น จึงจะสามารถทำการตัดสินใจได้อย่างเด็ดขาดเช่นนี้
“หญิงโชคดีที่รอดชีวิตคนนั้นอยู่ไหน”
หลิวฉิงตอบว่า “อยู่ในโรงหมอของน้องหลิง อีกฝ่ายลงมือโหดเหี้ยมมาก ข้าเกรงว่าคนที่อยู่เบื้องหลังจะตามมาฆ่าปิดปาก ไม่กล้าส่งไปยังศาลต้าหลี่ ส่วนเด็กๆที่ช่วยเหลือกลับมาได้ มอบให้เยี่ยนอ๋องไปจัดการชั่วคราว”
จากนั้นนางก็รีบเข้าวังมาหาอวิ๋นหลิง
เซียวปี้เฉิงพยักหน้าด้วยสีหน้าหนักอึ้ง “หลิงเอ๋อร์ เรื่องนี้ใหญ่มาก ข้าจะออกจากวังไปตรวจสอบเรื่องนี้ก่อน”
กฎหมายของแคว้นต้าโจวได้มีการสั่งห้ามไม่ให้ตระกูลขุนนางเลี้ยงดูนางบำเรอในบ้านตั้งแต่เมื่อสิบกว่าปีก่อนแล้ว เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นในเมืองที่อยู่ห่างไกลจากเมืองหลวง เซียวปี้เฉิงไม่ได้รู้สึกประหลาดใจ
แต่ที่ทำให้เขารู้สึกโมโหก็คือ ถึงกับมีคนกล้าทำเรื่องเช่นนี้ภายในเมืองหลวงของจักรพรรดิ ช่างบังอาจจริงๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
เติมเหรียญอย่างไร...
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...