เข้าสู่ระบบผ่าน

พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 817

หลังจากเซียวปี้เฉิงออกไปแล้ว อวิ๋นหลิงจึงมีเวลาถามถึงเรื่องของท่านปู่งูเหลือม

“พี่ฉิงเกลี้ยกล่อมท่านปู่งูเหลือมยังไง”

อีกฝ่ายไม่ได้ถูกลักพาตัวกลับมา นี่ทำให้อวิ๋นหลิงรู้สึกประหลาดใจมาก ด้วยฝีปากของหลิวฉิง ถึงกับสามารถเกลี้ยกล่อมงูตัวหนึ่งได้ ช่างเป็นเรื่องแปลกประหลาดจริงๆ

หลิวฉิงได้ยินดังนั้น สีหน้าก็ผิดปกติไปหลายส่วน “ฉันเห็นท่านปู่เป็นโสดมาหลายปีไม่เห็นมีเมียงูเลยแม้แต่ตัวเดียว ก็เลยรับปากกับเขาว่า ขอเพียงเข้าไปอยู่ในสวนสัตว์ ภายหน้าจะหาเมียให้เขา”

แต่แล้วท่านปู่งูเหลือมไม่เพียงแต่มีโรคกลัวสังคม ยังไม่ถนัดในการพูดคุยกับเพศตรงข้าม

มันคุ้นเคยกับการมีชีวิตโดดเดี่ยวเดียวดายแล้ว พอได้ยินคำพูดนี้ของหลิวฉิงก็ยิ่งหนีไปอย่างรวดเร็วมากขึ้น

ที่จริงก็ไม่เร็วมาก ท่านปู่อายุมากแล้ว ทั้งยังเป็นงูเหลือมตัวใหญ่ยักษ์ การเคลื่อนไหวจึงช้ามาก มากสุดก็เลื้อยได้สองกิโลเมตรต่อชั่วโมง หลิวฉิงอยากจะไล่ตามอีกฝ่ายให้ทันเป็นเรื่องที่ง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปาก

“แม้ว่าท่านปู่จะปฏิเสธฉันอย่างนุ่มนวล แต่ฉันก็คิดว่าจำเป็นต้องทำให้เขาเห็นถึงความจริงใจและแน่วแน่ของฉัน ดังนั้นก็เลยตามเขาไปเป็นเวลาสิบกว่าวัน ดีที่มีความตั้งใจจริง ปัญหาทุกอย่างก็คลี่คลายได้ หลังจากที่ฉันพูดจนปากเปียกปากแฉะ ในที่สุดเขาก็ยอมจะกลับมากับฉัน”

อวิ๋นหลิง “......”

ในสิบกว่าวันที่ผ่านมา หลิวฉิงบุกป่าฝ่าดงไปพร้อมกับมัน เดินห่างออกไปจากชานเมืองทางด้านตะวันออกของเมืองหลวงยี่สิบกว่ากิโลเมตร

ท่านปู่งูเหลือมเหนื่อยจนหายใจหอบ เลื้อยต่อไปไม่ไหวแล้ว

ในชีวิตงูของเขาไม่เคยเจออะไรที่น่ากลัวเช่นนี้มาก่อน หญิงสาวที่เป็นมนุษย์ตามติดเขาไม่ปล่อย เอาแต่พูดจาซ้ำๆอยู่ที่ข้างกายของมันอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ราวกับจะรบเร้าเขาจนฟ้าถล่มดินทลาย

มันมีชีวิตอยู่มาเกือบร้อยปี ตั้งแต่ยังโง่เขลาแยกแยะอะไรไม่ได้จนถึงจุดเริ่มต้นแห่งปัญญา ตอนนี้ก็สามารถเข้าใจมนุษย์ได้บ้างแล้ว

ข้างกายไม่มีสัตว์ชนิดเดียวกันที่สามารถสื่อสารได้ ในชีวิตที่แสนยาวนานนั้นท่านปู่งูเหลือมก็เคยรู้สึกโดดเดี่ยวมาก่อน แต่มันรู้ตัวดีว่าไม่ใช่มนุษย์ ในสัตว์ประเภทงูก็เป็นพวกที่แตกต่างจากตัวอื่นๆ ดังนั้นจึงเลือกที่จะอยู่อย่างสันโดษ

ครั้งแรกที่ได้มีวาสนาพบกับพวกอวิ๋นหลิงในสำนักศึกษาชิงอี้ ครั้งแรกที่ได้พบเจอกับสิ่งมีชีวิตที่สามารถ”สื่อสาร”กับตนเองได้ ท่านปู่งูเหลือมเคยรู้สึกดีใจมาก

แม้ว่าเขาจะไม่เปิดเผยตัวต่อหน้าผู้คน แต่ที่จริงมันชอบแอบขดตัวอยู่บนภูเขาสูง ฟังเสียงอ่านหนังสือที่ดังขึ้นมาจากข้างล่างด้วยความสงบ

กระทั่งวันหนึ่งที่กำลังอาบแดดอยู่ ถูกมนุษย์หญิงคนนี้ที่เรียกตัวเองว่าหลิวฉิงจับได้ ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่เคยได้มีชีวิตที่สงบสุขเลย

อีกฝ่ายมีพลังที่น่าอัศจรรย์มาก สามารถสื่อสารกับมันได้อย่างลึกซึ้งและไร้ข้อจำกัด

ไม่ว่ามันจะปฏิเสธอย่างไร ตั้งแต่ต้นจนจบมนุษย์คนนี้ยังคงยืนยันที่จะเชิญมันให้ย้ายบ้าน ยังจะเป็นแม่สื่อให้มันอีก

มันอยากจะหนีมาก แต่จะหนีอย่างไรก็หนีไม่พ้น

ภายใต้การรบเร้ากว่าครึ่งเดือน ภายใต้ความเงียบและโมโหในที่สุดท่านปู่งูเหลือมก็เลือกที่จะนอนราบอย่างเฉยชา

อยากจะทำอะไรก็ทำเถอะ ขอเพียงมนุษย์คนนี้ไม่ไล่ตามมันและตามจู้จี้ต่อไป จะทำอย่างไรก็ได้

หลิวฉิงเอ่ยอย่างตื่นเต้นว่า “ตอนนี้ท่านปู่งูเหลือมไปอยู่ในสวนสัตว์แล้ว สัตว์เทพทั้งสี่ประจำตำแหน่ง เจ้าอ๋องก็จัดการบ้านสวนได้พอสมควรแล้ว ฉันคิดว่าจะเปิดสวนสัตว์อย่างเป็นทางการในช่วงต้นเดือนแปด เกาะกระแสความดังของสำนักศึกษาชิงอี้ ถึงเวลาต้องมีคนจำนวนมากมาซื้อตั๋วเพื่อไหว้ท่านปู่แน่ๆ ฉันจะได้หาเงินให้หนำใจไปเลย”

อวิ๋นหลิงพยักหน้า “ประเดี๋ยวจะให้คนไปช่วยท่านป่าวประกาศในสำนักศึกษาชิงอี้ ใช่แล้วฉันกับพี่ใหญ่ยังร่วมกันสร้างสำนักพิมพ์ด้วยล่ะ คาดว่าช่วงปลายเดือนนี้ก็สามารถจัดพิมพ์หนังสือพิมพ์ล็อตแรกได้แล้ว ถึงเวลาจะทำการพาดหัวข่าวโฆษณาให้พี่”

หลิวฉิงได้ยินอย่างนั้นก็มีสีหน้ายินดี ยังไงพี่น้องก็เก่งและพึ่งพาได้มากที่สุด

ทั้งสองกินข้าวกลางวันร่วมกัน ก่อนที่หลิวฉิงจะขอตัวจากไป

“คนที่อยู่เบื้องหลังจะใช่ตระกูลลู่หรือไม่”

ได้ยินดังนั้น เซียวปี้เฉิงพยักหน้าก่อน จากนั้นก็ส่ายศีรษะ

“เป็นไปได้อย่างสูง แต่หนึ่งปีมานี้ ข้าใช้พลังจิตแอบฟังความลับของเหล่าขุนนางในราชสำนักไม่น้อย สามารถมั่นใจได้ว่าตระกูลลู่ไม่เคยเลี้ยงหน่วยกล้าตาย”

เพราะก่อนหน้านี้เขายังบังเอิญได้ยินว่า อาลักษณ์กรมคลังแอบคุยกับลูกน้องที่สนิท ปรึกษาเรื่องการเลี้ยงดูหน่วยกล้าตาย

ตระกูลลู่มีความคิดเช่นนี้ แต่ไม่รู้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร แต่ก็ไม่ได้ทำ

อวิ๋นหลิงเข้าใจความหมายในคำพูดของเขาทันที “ความหมายของท่านก็คือ ตระกูลที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ บางทีอาจไม่ได้มีแค่ตระกูลเดียว”

เซียวปี้เฉิงพยักหน้า สีหน้ายิ่งหนักอึ้งขึ้นไปอีก

“สรุปแล้ว เรื่องนี้จะไม่ทำการตรวจสอบจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแล้ว การดูแลในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าวุ่นวายมาก อยากจะตรวจสอบให้ชัดเจนไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ในวันสองวัน พวกเขามีเวลามากพอที่จะค่อยๆสืบสาวราวเรื่อง ดังนั้นข้าคิดจะให้แผนล่อเสือออกจากถ้ำ”

อวิ๋นหลิงเข้าใจความคิดของเขา “จะใช้ประโยชน์จากผู้หญิงคนนั้นหรือ”

“ถูกต้อง คนที่อยู่เบื้องหลังต้องคอยจับตาดูผู้หญิงคนนี้อย่างใกล้ชิดแน่ ซุ่มรอจังหวะที่จะลงมือ หวังจะฆ่าปิดปาก เพียงแต่ผู้ใต้บังคับบัญชาของข้าได้คุ้มกันโรงยาจนมิดชิดไม่มีช่องโหว่ พวกเขาไม่มีโอกาสลงมือ ข้าคิดจะย้ายผู้หญิงคนนี้ไปรักษาที่จวนอู๋อันกง อีกฝ่ายต้องไม่ปล่อยโอกาสนี้ไปแน่”

หลังจากที่เซียวปี้เฉิงวางแผนในใจเรียบร้อยแล้ว และคิดว่าจะปล่อยข่าวเรื่องที่จะเคลื่อนย้ายผู้หญิงคนนี้ออกไป

วันรุ่งขึ้น เขามาถึงโรงยาโหยวเจียนเหมือนปกติ กลับพบเฟิงอู๋จีที่หน้านิ่วคิ้วขมวด เดินไปมาอยู่ตรงหน้าประตู แต่กลับไม่ยอมก้าวเข้าไปในโรงยาเสียที

ราวกับมีเรื่องในใจอย่างไรอย่างนั้น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ