เซียวปี้เฉิงก็ยืนอึ้งอยู่กับที่ ไร้การตอบสนองไปสักพักหนึ่ง
สิ่งแรกที่ลู่ฉีคิดได้คือพระชายาจับได้ว่าท่านอ๋องกับคุณหนูรองฉู่แอบนัดพบกัน
ดังนั้นพระชายาจึงถีบคุณหนูรองฉู่ด้วยความเกรี้ยวกราด
“ท่านอ๋อง...คุณหนูรองฉู่กับแม่นางหรงตกลงไปแล้ว ข้าน้อยต้องช่วยใครก่อนพ่ะย่ะค่ะ?”
เมื่อลู่ฉีเห็นสตรีสองคนดิ้นรนอยู่ในแม่น้ำก็ทำตัวไม่ถูก สีหน้ามีแต่ความตื่นตระหนก
เซียวปี้เฉิงได้สติก็รีบกล่าวเสียงเคร่งขรึม “ช่วยหรงฉานขึ้นมาก่อน”
เห็นได้ชัดว่าหรงฉานว่ายน้ำไม่เป็น ทั้งยังเป็นคนที่ตกลงไปเป็นคนแรก หากช่วยไม่ทันท่วงทีก็จะอันตรายถึงชีวิต
เรือสำราญที่อวิ๋นหลิงเช่าอยู่กลางแม่น้ำ สิ่งที่เกิดขึ้นจึงกลายเป็นที่จับตามองของคนรอบข้าง ผู้คนแห่กันมุงที่ริมแม่น้ำไม่หยุด
เรือสำราญลำใกล้เคียงก็ได้ยินเสียงขอความช่วยเหลือของฉู่อวิ๋นหาน จึงพากันแล่นมาทางนี้ และยังมีคนพายเรือเล็กมาดูด้วย
เซียวปี้เฉิงกวาดสายตามองรอบทิศ ก่อนจะสั่งการด้วยความร้อนรน
“ลู่ฉี เร็วหน่อย อย่าให้คนอื่นมาเห็น”
หรงฉานกับฉู่อวิ๋นหานล้วนเป็นสาวโสด หากถูกผู้ชายช่วยขึ้นฝั่งด้วยสภาพเปียกปอนต่อหน้าธารกำนัล เช่นนั้นจะกระทบต่อชื่อเสียงได้
ยิ่งไปกว่านั้น พวกนางสองคนก็ใกล้แต่งเข้าจวนรุ่ยอ๋องแล้วด้วย
ถึงแม้ปกติลู่ฉีจะเป็นคนประมาทเลินเล่อ แต่เป็นคนว่ายน้ำเก่ง สามารถช่วยหรงฉานที่หมดสติเพราะสำลักน้ำขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว
สองมือฉู่อวิ๋นหานคว้าไปทั่วจนน้ำกระเซ็นขึ้นมา ใบหน้าซีดขาว “ช่วยข้าด้วย...ช่วยข้าด้วย...พี่ปี้เฉิง”
เมื่อเกี่ยวพันถึงความเป็นความตาย นางพบว่าตัวเองร้องขอให้เซียวปี้เฉิงช่วยชีวิตตามสัญชาตญาณ
เมื่อลู่ฉีได้ยินเสียงขอความช่วยเหลือก็เตรียมกระโดดลงไปอีกครั้ง ทว่ากลับถูกอวิ๋นหลิงรั้งไว้
“ไม่ต้องสนใจนาง”
เซียวปี้เฉิงชะงักงัน ขมวดคิ้วแน่นเป็นปม “เดี๋ยวนางจะตายได้ เจ้าอย่าเพิ่งใช้อารมณ์สิ”
เขารู้ว่าอวิ๋นหลิงไม่มีความอดทนต่อฉู่อวิ๋นหานแล้ว ทว่าจะปล่อยให้ฉู่อวิ๋นหานมีอันเป็นไปในเรือแห่งนี้ไม่ได้
หาไม่แล้วเวลาเอาผิดขึ้นมา อวิ๋นหลิงก็ไม่อาจหลุดพ้นได้ ข้อครหาในเมืองหลวงที่ยังไม่ได้ซาลง จะยิ่งทบทวีคูณกว่าเดิม
อวิ๋นหลิงไม่สะทกสะท้าน ไม่มีทีท่าจะปล่อยลู่ฉีเลย นางใช้คางชี้ไปยังอีกด้านหนึ่งของแม่น้ำ
“มีคนมาช่วยฉู่อวิ๋นหานแล้ว พาหรงฉานไปที่ห้องก่อน”
หางตาเซียวปี้เฉิงเหลือบไปเห็นบุรุษร่างกำยำสามถึงห้าคนกระโดดลงจากเรือเล็กแล้วว่ายไปยังฉู่อวิ๋นหลิง สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป
“อวิ๋นหลิง อย่าเอาอารมณ์เป็นที่ตั้งสิ”
ยามนี้เขาไม่ได้ใส่ใจฉู่อวิ๋นหาน หากแต่เป็นอวิ๋นหลิง หากชื่อเสียงฉู่อวิ๋นหานป่นปี้ นางเอาก็ไม่อาจปัดความรับผิดชอบได้
ให้ลู่ฉีไปช่วยตอนนี้ยังไม่สาย ทว่าคำพูดต่อจากนั้นของอวิ๋นหลิงทำให้ถ้อยคำที่เซียวปี้เฉิงจะเอื้อนเอ่ยค้างอยู่ที่ลูกคอ
อวิ๋นหลิงเดินเข้าไปใกล้เซียวปี้เฉิง ก่อนจะพูดเสียงเบาที่ได้ยินกันแค่สองคนว่า “เวลาสั้นเยี่ยงนี้ เรือเล็กนั่นไม่น่าจะมาถึงเร็วเพียงนี้ ก่อนหรงฉานจะตกลงไป เรือลำนั้นก็พายมาใกล้พวกเราแล้ว”
อันนี้บ่งบอกว่าอะไร?
อีกฝ่ายรู้ว่าจะมีคนตกน้ำแล้วเตรียมมาช่วยโดยเฉพาะ
พลังจิตของอวิ๋นหลิงสามารถเพิ่งศักยภาพของประสาทสัมผัสทั้งห้าได้ แม้จะอยู่ในแม่น้ำยามราตรี แต่นางก็ยังคงมองเห็นภาพรอบด้านอย่างแจ่มชัด
ร่างกายเซียวปี้เฉิงแข็งทื่อ เข้าใจความหมายของอวิ๋นหลิงในบัดดล
เรือเล็กที่มาช่วยเหลืออาจเป็นหมากที่อีกฝ่ายวางไว้ เป้าหมายคือต้องการให้ชื่อเสียงหรงฉานเสื่อมเสียต่อหน้าธารกำนัล จากนั้นก็ใส่ร้ายป้ายสีอวิ๋นหลิง
“ช่วยขึ้นมาได้แล้ว ช่วยขึ้นมาได้แล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...
ชอบมากเลยค่ะ นางเอกเก่ง❤...