พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 82

เซียวปี้เฉิงก็ยืนอึ้งอยู่กับที่ ไร้การตอบสนองไปสักพักหนึ่ง

สิ่งแรกที่ลู่ฉีคิดได้คือพระชายาจับได้ว่าท่านอ๋องกับคุณหนูรองฉู่แอบนัดพบกัน

ดังนั้นพระชายาจึงถีบคุณหนูรองฉู่ด้วยความเกรี้ยวกราด

“ท่านอ๋อง...คุณหนูรองฉู่กับแม่นางหรงตกลงไปแล้ว ข้าน้อยต้องช่วยใครก่อนพ่ะย่ะค่ะ?”

เมื่อลู่ฉีเห็นสตรีสองคนดิ้นรนอยู่ในแม่น้ำก็ทำตัวไม่ถูก สีหน้ามีแต่ความตื่นตระหนก

เซียวปี้เฉิงได้สติก็รีบกล่าวเสียงเคร่งขรึม “ช่วยหรงฉานขึ้นมาก่อน”

เห็นได้ชัดว่าหรงฉานว่ายน้ำไม่เป็น ทั้งยังเป็นคนที่ตกลงไปเป็นคนแรก หากช่วยไม่ทันท่วงทีก็จะอันตรายถึงชีวิต

เรือสำราญที่อวิ๋นหลิงเช่าอยู่กลางแม่น้ำ สิ่งที่เกิดขึ้นจึงกลายเป็นที่จับตามองของคนรอบข้าง ผู้คนแห่กันมุงที่ริมแม่น้ำไม่หยุด

เรือสำราญลำใกล้เคียงก็ได้ยินเสียงขอความช่วยเหลือของฉู่อวิ๋นหาน จึงพากันแล่นมาทางนี้ และยังมีคนพายเรือเล็กมาดูด้วย

เซียวปี้เฉิงกวาดสายตามองรอบทิศ ก่อนจะสั่งการด้วยความร้อนรน

“ลู่ฉี เร็วหน่อย อย่าให้คนอื่นมาเห็น”

หรงฉานกับฉู่อวิ๋นหานล้วนเป็นสาวโสด หากถูกผู้ชายช่วยขึ้นฝั่งด้วยสภาพเปียกปอนต่อหน้าธารกำนัล เช่นนั้นจะกระทบต่อชื่อเสียงได้

ยิ่งไปกว่านั้น พวกนางสองคนก็ใกล้แต่งเข้าจวนรุ่ยอ๋องแล้วด้วย

ถึงแม้ปกติลู่ฉีจะเป็นคนประมาทเลินเล่อ แต่เป็นคนว่ายน้ำเก่ง สามารถช่วยหรงฉานที่หมดสติเพราะสำลักน้ำขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว

สองมือฉู่อวิ๋นหานคว้าไปทั่วจนน้ำกระเซ็นขึ้นมา ใบหน้าซีดขาว “ช่วยข้าด้วย...ช่วยข้าด้วย...พี่ปี้เฉิง”

เมื่อเกี่ยวพันถึงความเป็นความตาย นางพบว่าตัวเองร้องขอให้เซียวปี้เฉิงช่วยชีวิตตามสัญชาตญาณ

เมื่อลู่ฉีได้ยินเสียงขอความช่วยเหลือก็เตรียมกระโดดลงไปอีกครั้ง ทว่ากลับถูกอวิ๋นหลิงรั้งไว้

“ไม่ต้องสนใจนาง”

เซียวปี้เฉิงชะงักงัน ขมวดคิ้วแน่นเป็นปม “เดี๋ยวนางจะตายได้ เจ้าอย่าเพิ่งใช้อารมณ์สิ”

เขารู้ว่าอวิ๋นหลิงไม่มีความอดทนต่อฉู่อวิ๋นหานแล้ว ทว่าจะปล่อยให้ฉู่อวิ๋นหานมีอันเป็นไปในเรือแห่งนี้ไม่ได้

หาไม่แล้วเวลาเอาผิดขึ้นมา อวิ๋นหลิงก็ไม่อาจหลุดพ้นได้ ข้อครหาในเมืองหลวงที่ยังไม่ได้ซาลง จะยิ่งทบทวีคูณกว่าเดิม

อวิ๋นหลิงไม่สะทกสะท้าน ไม่มีทีท่าจะปล่อยลู่ฉีเลย นางใช้คางชี้ไปยังอีกด้านหนึ่งของแม่น้ำ

“มีคนมาช่วยฉู่อวิ๋นหานแล้ว พาหรงฉานไปที่ห้องก่อน”

หางตาเซียวปี้เฉิงเหลือบไปเห็นบุรุษร่างกำยำสามถึงห้าคนกระโดดลงจากเรือเล็กแล้วว่ายไปยังฉู่อวิ๋นหลิง สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป

“อวิ๋นหลิง อย่าเอาอารมณ์เป็นที่ตั้งสิ”

ยามนี้เขาไม่ได้ใส่ใจฉู่อวิ๋นหาน หากแต่เป็นอวิ๋นหลิง หากชื่อเสียงฉู่อวิ๋นหานป่นปี้ นางเอาก็ไม่อาจปัดความรับผิดชอบได้

ให้ลู่ฉีไปช่วยตอนนี้ยังไม่สาย ทว่าคำพูดต่อจากนั้นของอวิ๋นหลิงทำให้ถ้อยคำที่เซียวปี้เฉิงจะเอื้อนเอ่ยค้างอยู่ที่ลูกคอ

อวิ๋นหลิงเดินเข้าไปใกล้เซียวปี้เฉิง ก่อนจะพูดเสียงเบาที่ได้ยินกันแค่สองคนว่า “เวลาสั้นเยี่ยงนี้ เรือเล็กนั่นไม่น่าจะมาถึงเร็วเพียงนี้ ก่อนหรงฉานจะตกลงไป เรือลำนั้นก็พายมาใกล้พวกเราแล้ว”

อันนี้บ่งบอกว่าอะไร?

อีกฝ่ายรู้ว่าจะมีคนตกน้ำแล้วเตรียมมาช่วยโดยเฉพาะ

พลังจิตของอวิ๋นหลิงสามารถเพิ่งศักยภาพของประสาทสัมผัสทั้งห้าได้ แม้จะอยู่ในแม่น้ำยามราตรี แต่นางก็ยังคงมองเห็นภาพรอบด้านอย่างแจ่มชัด

ร่างกายเซียวปี้เฉิงแข็งทื่อ เข้าใจความหมายของอวิ๋นหลิงในบัดดล

เรือเล็กที่มาช่วยเหลืออาจเป็นหมากที่อีกฝ่ายวางไว้ เป้าหมายคือต้องการให้ชื่อเสียงหรงฉานเสื่อมเสียต่อหน้าธารกำนัล จากนั้นก็ใส่ร้ายป้ายสีอวิ๋นหลิง

“ช่วยขึ้นมาได้แล้ว ช่วยขึ้นมาได้แล้ว”

“ลู่ฉี รีบพาหรงฉานไปที่ห้อง ข้าจะตรวจอาการนาง”

ลู่ฉีเป็นคนซื่อ เห็นว่ามีคนช่วยฉู่อวิ๋นหานได้แล้ว จึงพาหรงฉานเข้าห้องตามคำสั่ง

สายตาเซียวปี้เฉิงยังคงจับจ้องเรือเล็กลำนั้น

ราวกับเป็นการตอกย้ำการสันนิษฐานของเขา บุรุษที่มีความสามารถในการว่ายน้ำไม่ด้อยไปกว่าลู่ฉี เมื่อช่วยฉู่อวิ๋นหานได้แล้วก็ไม่ได้ขอความช่วยเหลือจากพวกอวิ๋นหลิง ซึ่งอยู่ใกล้ที่สุด แต่กลับพาฉู่อวิ๋นหลิงไปริมแม่น้ำอีกด้าน

เห็นได้ชัดว่ากลุ่มช่วยคนตกน้ำทำตามแผนเท่านั้น แต่ไม่รู้ว่ากำลังช่วยใครอยู่

“ฮ่าๆ เอาก้อนหินทุบเท้าตัวเองชัดๆ ทำเองรับเคราะห์เอง”

อวิ๋นหลิงเห็นภาพนี้แล้วก็หัวเราะหน้าบาน

สีหน้าเซียวปี้เฉิงแปรเปลี่ยน ดูแย่ถึงขีดสุด

หากฉู่อวิ๋นหานมีแผนยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวจริง เช่นนั้นจิตใจนางก็โหดเหี้ยมเกินกว่าจินตนาการเขา

งานเลี้ยงชมดอกไม้ไฟคืนนี้ ภาพลักษณ์อันดีงามของฉู่อวิ๋นหานบดสลายในใจเซียวปี้เฉิงแล้ว

อวิ๋นหลิงยิ้มมาได้สักพัก พลังจิตก็สามารถจับตำแหน่งของไป๋ลู่ในความมืดมิดได้

เห็นได้ชัดว่าสาวใช้ผู้นี้มีวรยุทธ์ สามารถแฝงกายเข้าออกเรือสำราญได้อย่างไร้สุ้มไร้เสียง ฝีมือคงไม่ธรรมดา

นางเก็บรอยยิ้ม ก่อนจะหรี่ตาถกแขนเสื้อ จากนั้นก็ใช้เกาทัณฑ์แขนเสื้อเพ่งเล็งไปยังไป๋ลู่

ใต้ต้นหลิวข้างแม่น้ำ ไป๋ลู่มองฉู่อวิ๋นหานโดนผู้อื่นช่วยขึ้นฝั่งด้วยความร้อนใจ

“คุณหนู...”

แผนเกิดความผิดพลาดครั้งใหญ่ ไม่น่าเป็นแบบนี้นี่!

สถานะนางพิเศษ ฮูหยินเหลียนกำชับไม่ให้เปิดเผยต่อหน้าผู้อื่น ดังนั้นยามที่ฉู่อวิ๋นหานโดนอวิ๋นหลิงถีบลงน้ำ แม้นางจะเห็น ถึงกระนั้นก็ไม่อาจเข้าไปช่วยได้

ไป๋ลู่มัวแต่สนใจฉู่อวิ๋นหาน ย่อมไม่เห็นอวิ๋นหลิงที่ยืนบนเรือสำราญกำลังใช้ลูกธนูเล็งมายังนาง

“เปรี้ยง”

วินาทีต่อมาไป๋ลู่ก็ส่งเสียงโอดครวญแล้วเอามือกุมคอด้วยความตกใจ ก่อนจะรู้สึกมือไม้ชาจนล้มไปกองกับพื้น

“ท่านอ๋อง สาวใช้คนนั้นอยู่ใต้ต้นหลิวต้นที่สามของริมแม่น้ำ นางโดนเข็มพิษของข้า ยามนี้เส้นลมปราณด้านชา ขยับตัวไม่ได้”

ก้นบึ้งนัยน์ตาของอวิ๋นหลิงเผยประกายแสงเย็นเยียบ ก่อนจะเก็บเกาทัณฑ์แขนเสื้อ

“ท่านส่งคนไปจับตัวนางไว้ ข้าจะไปดูหรงฉานก่อนว่าเป็นยังไงบ้าง?”

ริมแม่น้ำ ฉู่อวิ๋นหานที่ร่างกายเปียกปอนหายใจหอบถี่ ใบหน้าเล็กซีดขาว สีหน้าตื่นตระหนกยิ่ง

เพราะกลัวจมน้ำตาย นางจึงกอดชายที่ช่วยนางไว้แน่น แม้นจะขึ้นฝั่งแล้วยังจับไม่ปล่อยมือ

ร่างกายนางสั่นเทิ้ม รู้สึกตกใจ โกรธและหวาดกลัวในเวลาเดียวกัน

ไอ้อวิ๋นหลิงผู้วิปลาส กล้าถีบนางถีบน้ำต่อหน้าเซียวปี้เฉิงและลู่ฉี

“ใช่คุณหนูรองฉู่หรือเปล่า?”

“ใช่แล้ว ทำไมถึงตกลงน้ำได้?”

รอบข้างเริ่มมีคนมามุงดูเยอะขึ้นอย่างต่อเนื่อง ฉู่อวิ๋นหานรู้ตัวก็หน้าถอดสี รีบผลักบุรุษที่ช่วยนางออกแรงๆ

“ไปให้พ้น ไป...อย่ามาดู พวกเจ้าห้ามดู”

บัดนี้กำลังย่างเข้าสู่ฤดูร้อน ทุกคนล้วนสวมเสื้อตัวบาง ฉู่อวิ๋นหลิงตกน้ำแล้วเสื้อภาพจึงแนบกาย เผยส่วนโค้งส่วนเว้าออกมาได้อย่างชัดเจน

เมื่อเห็นสายตาไม่บันยะบันยังและสายตาแปลกๆมองมา นางก็โกรธจนควันออกหู เสียงก่นด่าเจือความสะอื้นเล็กน้อย

“ไปให้พ้น”

ไม่น่าเป็นเยี่ยงนี้เลย คนที่ชื่อเสียงมัวหมองในคืนนี้ควรจะเป็นหรงฉาน เหตุไฉนจึงกลายเป็นนางได้?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ