ถึงแม้สี่บทความด้านหลังนี้ นอกจากประวัติของพระเจ้าหลวงแล้ว นอกนั้นสามเรื่องจะเป็นการปั้นน้ำเป็นตัวก็ตาม ทว่าก็ไม่ส่งผลกระทบต่อความสนใจอันท่วมท้นของประชาชน
หลังจากวางจำหน่ายหนังสือพิมพ์ประชาชนแล้วก็สร้างความคึกคักให้แก่เมืองหลวงอีกครั้ง
ระหว่างที่ประชาชนหารือเนื้อหาในหนังสือพิมพ์ ก็เริ่มสนใจการเปิดกิจการของสวนสัตว์ ได้ยินว่าบัตรจองเข้าชมหมดในค่ำคืนนั้นเลย
วันที่เปิดสวนสัตว์อย่างเป็นทางการ ประชาชนไปต่อแถวยาวรอตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง มีคนเดินพลุ่งพล่านอย่างมืดฟ้ามัวดิน
แต่สวนสัตว์มีพื้นที่จำกัด หลิวฉิงจึงต้องเปลี่ยนกฎการเข้าชมกะทันหัน คนหนึ่งอยู่ในสวนสัตว์ได้ไม่เกินครึ่งชั่วยาม แล้วให้คนงานแจกซาลาเปาแก่ผู้เข้าชมเพื่อแทนคำขอโทษด้วย
ถึงกระนั้น จวบจนพลบค่ำ ก็ยังมีประชาชนบางส่วนไม่ได้ยลโฉมเทพอสูร ต้องกลับบ้านด้วยความผิดหวัง
มีประชาชนเที่ยวชมสวนสัตว์อย่างคับคั่งติดต่อกันสามวัน วันที่สี่ถึงจะมีคนเข้าน้อยลงเล็กน้อย
หลิวฉิงที่ปกติชอบทำหน้าบอกบุญไม่รับ ช่วงหน้ามีแต่รอยยิ้ม เดินเหินอย่างกระฉับกระเฉง
นางสวมอาภรณ์ตัดสั้นสีเทา รองเท้าแตะที่ทำจากหวาย ล้วนเป็นรูปแบบการแต่งกายที่ผ่านการดักแปลง
หลิวฉิงเดินเข้าตำหนักบูรพาก็พับแขนเสื้อกับขากางเกงเพื่อความเย็นสบาย ก่อนจะกล่าวทักทายพวกเขา
“อุ๊ย น้องเขยก็อยู่ด้วยรึ?”
“ศิษย์พี่ใหญ่ พวกท่านมาแล้วหรือ?”
เซียวปี้เฉิงกระแอมเสียง แล้วละสายตาสั่งให้ตงชิงชงน้ำชา
ถึงแม้อวิ๋นหลิงจะเคยเล่าให้ฟังว่าโลกยุคใหม่ ไม่ว่าจะชายหญิงเด็กเล็กหรือคนเฒ่าคนแก่ การเผยแขนขาเป็นเรื่องปกติ ทว่าจวบจนถึงตอนนี้เขาก็ยังรู้สึกไม่ชิน รู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อย
ต้องหาเวลาบอกเจ้าอ๋องหน่อยแล้ว ให้อีกฝ่ายคุมภรรยาดีๆ
อวิ๋นหลิงเห็นรอยตามแขนขาของหลิวฉิงด้วยสายตาอันเฉียบแหลม บางจุดเป็นรอยม่วงแดง บางจุดเป็นเขียวอ่อนๆ
เมื่อนางเห็นร่องรอยชวนค้นหานี้แล้วก็ต้องเบิกตาโพลงด้วยความตะลึง
ไม่คิดว่าเจ้าอ๋องที่ภายนอกดูสุขุม ผู้ใหญ่หลังเกษียณ แท้จริงแล้วคือเสือตัวดีๆนี่เอง แม้แต่หญิงแกร่งอย่างพี่ฉิงยังโดนเล่นงานเป็นสภาพนี้
ชั่วขณะนี้อวิ๋นหลิงต้องมองกู้ฉางเซินในอีกมุมหนึ่ง
“น้องสาว พวกเรามาเยี่ยม”
หลงเย่ติดตามหลังหลิวฉิงเข้ามา พร้อมกับวางตะกร้าใส่ผลไม้สดบนโต๊ะ
เซียวปี้เฉิงรู้เจตนาการมาเยือนของพวกนาง รีบถามอย่างอดรนทนไมไหว “เป็นอย่างไรบ้าง ช่วงนี้สวนสัตว์ทำเงินได้เท่าไหร่?”
“สามวันได้สามหมื่นตำลึง”
เซียวปี้เฉิงไดยินก็ดีใจจนดอกไม้เบ่งบานในใจ
ก่อนหน้านี้เขาแอบอวิ๋นหลิงขายยาทลายเวทให้แก่ศาลต้าหลี่จนเก็บสะสมเป็นเงินก้อนได้ จากนั้นก็ใช้ชื่อเฉียวเย่ร่วมลงทุนกับสวนสัตว์เมืองหลวง ถือเป็นหุ้น่สวนร้อยละหนึ่ง ต่อจากนี้เขาจะได้เงินปันผลทุกๆเดือนแล้ว
“ก่อนหน้านี้พี่รองยังบอกว่าไม่ถนัดทำการค้า ที่แท้ก็เป็นเพียงคำถ่อมตัวนี่เอง ข้าว่าต่อจากนี้จะมีเงินไหลเข้ามาเป็นเทน้ำเทท่าแน่”
หลิวฉิงแย้มยิ้ม สีหน้ายากจะอำพรางความตื่นเต้น “ไม่กล้าหวังให้เงินเข้าเป็นเทน้ำเทท่าหรอก เพราะเพิ่งเปิดกิจการก็จะได้รับความนิยมสูง แต่หลังจากนี้ก็จะค่อยๆลดลง”
“เจ้าอ๋องคำนวณคร่าวๆให้ข้าฟังแล้ว ต่อไปสวนสัตว์จะมีรายได้สองหมื่นล้านต่อเดือน หลังหักค่าคนงานกับภาษีแล้วก็น่าจะมีกำไรเดือนละหนึ่งหมื่นตำลึงขึ้นไป”
เซียวปี้เฉิงได้ยินก็ตัวลอย แสดงว่าต่อจากนี้เขาจะได้รับเงินปันผลเดือนละหนึ่งพันตำลึงขึ้นไป
รวยแล้ว รวยแล้ว
คงเป็นเพราะดีใจเกินไป ความดีใจที่ซ่อนเร้นในใจลอยเข้าหูของหลงเย่
นางหรี่ตาพูดแล้วอมยิ้ม “น้องรองทำเงินได้เยอะ ปี้เฉิงเหมือนจะดีใจแทนนางมากเชียวนะ”
เมื่อลั่นประโยคนี้ออกมา อวิ๋นหลิงจึงจะเห็นว่าเซียวปี้เฉิงยิ้มแก้มฉีกจนมุมปากเกือบถึงติ่งหูแล้ว เกิดความสงสัยขึ้นมาภายในใจทันที
สมกับที่เป็นท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการที่มีวิชากระบี่ล้ำเลิศสุดในปฐพีจริงๆ
หลงเย่ปรายตามองก็รู้ว่านางคิดสิ่งใดอยู่ จึงพูดเสียงเย็นเยียบ “ไม่ใช่เอวเคล็ด เพราะนางไปนอนบนกองเงินสามคืนเต็มๆ ร่างกายจึงมีแต่รอยฟกช้ำ”
อวิ๋นหลิง “...”
เซียวปี้เฉิงเกือบสำลักน้ำชา เขาคิดว่าตัวเองชอบเงินสุดแล้ว ไม่คิดว่าจะมีคนอาการหนักกว่าเขา
อวิ๋นหลิงมองหลิวฉิงด้วยแววตายากจะบรรยาย “พี่ฉิง มีสามีให้นอนด้วยไม่เอา ไปนอนกับเงินทำไม?”
หลิวฉิงที่กำลังพลิกบัญชีดูชะงักงัน “ข้าชวนให้เจ้าอ๋องนอนกับเงินด้วยกันแล้ว แต่เขาปฏิเสธ ข้าคงฝืนใจไม่ได้”
อวิ๋นหลิงเริ่มจับทางได้แล้ว ท่าทางโง่เง่าเต่าตุ่นของพี่ฉิงไม่ต่างจากเมื่อก่อนสักนิด
หรือว่าหลังจากพวกเขาสองคนแต่งงานกัน แต่ยังไม่เคยเข้าเรือนหอ?
นางถามหยั่งเชิง “ชวน? ก่อนหน้านี้ไม่ใช่นอนด้วยกันหรอกหรือ?”
หลิวฉิงส่ายหน้า “เปล่านะ”
“พวกพี่แต่งงานกันแล้ว ไยจึงไม่นอนด้วยกัน?”
“เมื่อก่อนข้าทำงานในสวนสัตว์ นอนกระท่อมที่เคยเป็นคอกหมา ช่วงก่อนก็อยู่แต่ป่าแต่เขา กลัวเขาจะเหม็นกลิ่นของข้า”
เซียวปี้เฉิงในฐานะบุรุษเพศ อดเห็นใจกู้ฉางเซินไม่ได้ “พี่กู้ไม่รังเกียจเดียดฉันท์พี่รองหรอก ตอนที่พี่รองไปตามล่าท่านปู่งูเหลือม ตอนเขาทำงานในสวนสัตว์แทนท่าน ก็เคยนอนกระท่อมหลายคืนเหมือนกัน”
อวิ๋นหลิงรับฟังมาถึงตอนนี้ก็ต้องตะลึงงัน
จากที่คิดว่าเจ้าอ๋องได้เชยชมภรรยาในดวงใจสักที ไหนเลยจะคิดว่ายังคงต้องขยันคว้าหัวใจภรรยาต่อไป
เป็นถึงผู้สำเร็จราชการแห่งแคว้นเป่ยฉิน แต่กลับยอมนอนโรงเลี้ยงหมาเพื่อความรัก ทำเอาคนรู้เรื่องนี้ถึงกับน้ำตาตกในกันเลยทีเดียว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
เติมเหรียญอย่างไร...
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...