พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 834

ท่านพ่อเฟิงกล่าวด้วยความตื่นเต้นฮึกเหิมจบลง ว่าแล้วก็หยิบผ้าเช็ดหน้าปักลายสีชมพูผืนเก่าออกมาจากอกเสื้อ ซับน้ำตาอุ่นๆ จากหางตา

สังเกตเห็นสายตาที่แปลกไปบ้างของเซียวปี้เฉิงกับหลี่เมิ่งชู เขาก็แย้มยิ้มอย่างเก้อเขิน พับผ้าเช็ดหน้าสีชมพูอย่างระมัดระวังก่อนเก็บกลับไป

“นี่เป็นของแทนใจระหว่างข้ากับแม่ของจีเอ๋อร์ จำได้ว่าตอนที่ข้าขี่ม้าผ่านไปตามถนนสายยาว นางก็ชื่นชมอากาศยามฤดูใบไม้ผลิอยู่บนหอสูง ลมพัดผ้าเช็ดหน้าปลิวหลุดจากมือ ตกเข้ามาในอกเสื้อข้า ก่อเกิดบุพเพสันนิวาส...ภาษิตกล่าวว่าชายชาตรีจะไม่เสียน้ำตาง่ายๆ ข้าอายุปูนนี้กลับมาทำเสียมารยาทเสียเอง ทำให้รัชทายาทขบขันแล้ว

เซียวปี้เฉิงผงกศีรษะเล็กน้อย กล่าวยอมรับว่า “ท่านเป็นผู้ที่มีความรักมั่นคง จีเอ๋อร์ได้ท่านมาเต็มๆ”

เขาเหลือบมองท่านพ่อเฟิง ต้องบอกเลยว่าอีกฝ่ายดูสุภาพและหล่อเหลา มองออกถึงความสง่างามสมัยหนุ่มๆ ได้ เค้าโครงใบหน้าของเฟิงอู๋จีก็เหมือนกับเขาราวกับพิมพ์เดียวกัน

ท่านพ่อเฟิงปรับอารมณ์แล้วมองไปทางหลี่เมิ่งชูอย่างใจดีมีเมตตา

“นางหนูอย่าเพิ่งกังวลไป ขอบคุณเจ้าที่ช่วยชีวิตจีเอ๋อร์ไว้ เขาโชคดีที่ได้พบกับสตรีที่ดีเช่นเจ้า ลุงเองก็รู้เรื่องราวทางฝั่งห้องใหญ่ตระกูลหลี่มาบ้าง ต่อไปหากมีปัญหาอะไร จีเอ๋อร์จะร่วมทุกข์ร่วมสุขไปกับเจ้าด้วย หากเจ้าเด็กคนนี้ออกนอกลู่นอกทางไป เจ้ามาฟ้องข้าได้เสมอ”

ยิ่งท่านพ่อเฟิงเห็นดรุณีผู้นี้ก็ยิ่งพอใจมากขึ้น รูปโฉมโนมพรรณและชาติกำเนิดล้วนไร้ที่ติ ดูนางเป็นคนสงบ มีไหวพริบและสติปัญญา

เขารู้แก่ใจดีว่าถ้าห้องใหญ่ตระกูลหลี่ไม่เกิดเรื่องเกิดราว ลูกชายของเขาก็คงเอื้อมไม่ถึงสตรีผู้นี้

หลี่เมิ่งชูได้ยินแล้วก็ขมวดคิ้วอยู่นาน ก่อนจะเผยรอยยิ้มแปลกใจระคนตื้นตันใจออกมาในที่สุด

“ขอบคุณท่านลุงที่เอ็นดูและเป็นห่วง!”

หากก่อนหน้านี้นางว้าวุ่นใจถึงเก้าส่วน แต่หลังจากได้รับการยอมรับจากท่านพ่อเฟิง ความว้าวุ่นใจก็ลดลงเหลือสามส่วน

ไม่ว่าจะเป็นคำสั่งของพ่อแม่หรือคำพูดของแม่สื่อ เขาย่อมมีสิทธิ์พูดถึงการแต่งงานของเฟิงอู๋จีมากกว่าเสนาบดีซ้ายเฟิงอยู่แล้ว

ขอเพียงท่านพ่อเฟิงยอมรับ ยินดีสนับสนุนพวกเขาอย่างเต็มที่ เช่นนั้นความกดดันของเสนาบดีซ้ายเฟิงก็จะน้อยลงไปมาก

ขอบตาเฟิงอู๋จีแดงก่ำ “ท่านพ่อ โปรดรับการคำนับจากลูกด้วย!”

พูดจบ เขาก็คุกเข่าโขกศีรษะคำนับบิดาโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย

แม้ว่าหลี่เมิ่งชูจะยังไม่ได้เข้าประตูวิวาห์ แต่ก็คุกเข่าลงข้างๆ เขาแล้วคำนับตามไปด้วย

“ลูกเอ๋ย...ลุกขึ้น ลุกขึ้นเร็วเข้า!”

ท่านพ่อเฟิงประคองหลี่เมิ่งชูขึ้นแล้วกำชับอย่างจริงจัง “จีเอ๋อร์ วันครบรอบที่แม่เจ้าจากไปใกล้จะมาถึงแล้ว เตรียมหาวันพาเมิ่งชูไปสักการะหลุมศพด้วยกัน ให้นางเห็นว่าที่ภรรยาของเจ้า นางจะได้อยู่ในปรภพอย่างสมปรารถนาและสบายใจ”

เฟิงอู๋จีพยักหน้ารับคำ เหลือบมองหลี่เมิ่งชูอย่างเงียบๆ แวบหนึ่ง ฝ่ายหลังสบตาเขาอย่างปลาบปลื้มยินดีด้วยใบหน้าแดงเรื่อ

ทันใดนั้นเซียวปี้เฉิงก็รู้สึกว่าขืนยืนอยู่ที่นี่ต่อไปจะกลายเป็นก้างขวางคอเอาได้

ครั้นเห็นว่าเสนาบดีซ้ายเฟิงกับเสนาบดีขวาหลี่ค่อยยังชั่วแล้ว และมีคนที่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้อยู่ด้วย เขาก็กลับวังก่อน

อวิ๋นหลิงได้รู้เรื่องที่เสนาบดีทั้งสองทะเลาะกันในโรงยาเมื่อเช้า กระทั่งยามพลบค่ำเซียวปี้เฉิงกลับมาถึงตำหนักบูรพา นางก็รีบซักถามเขาว่าเรื่องราวเป็นมาอย่างไร

เซียวปี้เฉิงเล่าเหตุการณ์ให้ฟังรอบหนึ่ง แล้วกล่าวอย่างออกรสออกชาติที่ได้ชมละครฉากเด็ด “ตอนนี้ทั้งคู่พักอยู่ในโรงยา ข้าจัดให้พวกเขาอยู่ห้องผู้ป่วยห้องเดียวกันโดยเฉพาะ ไม่รู้ว่าจะทะเลาะกันอีกหรือเปล่า ถ้าทะเลาะกันละก็ ให้พวกเขาจ่ายสิบเท่าที่ทำให้ทรัพย์สินของหลวงเสียหาย”

อวิ๋นหลิงฟังแล้วก็ถอนใจด้วยความโล่งอก “ดีที่พ่อของเฟิงอู๋จีเป็นคนมีเหตุผล เมื่อครู่ข้ายังกังวลอยู่ เรื่องที่พวกเขาสองคนลอบคบหากันจะความแตกเร็วขนาดนี้ เรื่องราวเพียงชั่วข้ามคืนสายเกินแก้เสียแล้วเหมือนข้าวสารกลายเป็นข้าวสุก”

ตอนที่ถูกล็อก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ