การแต่งงานของหลี่เมิ่งเอ๋อร์เป็นสิ่งที่เจ็บปวดสำหรับหลี่หยวนเส้า
เขาเคยรู้สึกเสียใจนับครั้งไม่ถ้วน ตอนนั้นไม่สามารถสั่งสอนน้องสาวให้ดี และไม่สามารถป้องกันคนเลวที่มีจิตใจคิดนอกลู่นอกทางอย่างจางอวี้ซูได้
เมื่อมีบทเรียนมาแล้ว เขาจึงใส่ใจในความรักของหลี่เมิ่งชูมากเป็นพิเศษ
สำนักศึกษาชิงอี้มีผู้ชายมากกว่าผู้หญิง หลี่หยวนเส้าเป็นห่วงว่าน้องสาวที่งดงามต้องปะปนอยู่ในนั้น เลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกพวกผู้ชายนิสัยไม่จับตาดู
ดังนั้นตอนที่ดื่มเหล้าและพูดคุยกับเฟิงอู๋จี เขามักจะแอบถามเรื่องของหลี่เมิ่งชูตอนที่อยู่ในสำนักศึกษาเสมอ
ถ้าหากมีเจ้าหนุ่มคนไหนที่ไม่รู้จักชั่วดีกล้าเข้าใกล้ เขาจะอาศัยสายสัมพันธ์และแผนการเล็กน้อยที่เคยเรียนรู้และสะสมไว้ก่อนหน้านี้ ทำการสั่งสอนอีกฝ่ายซะบ้าง ให้รู้ว่ายากและหลีกหนีไปเอง
ไหนเลยจะคิดว่าสิ่งที่ตนเองคิดว่าทำได้ดีเสมอมา จะล้มเหลวเพราะความประมาทเลินเล่อของตนเอง
หลี่หยวนเส้าคิดถึงตอนที่ดื่มเหล้ากับเฟิงอู๋จีใต้แสงจันทร์ก่อนหน้านี้ เขายังเคยขอร้องอีกฝ่ายด้วยความจริงใจว่า
“อู๋จี ได้ยินมาว่าหลังจากที่สำนักศึกษาชิงอี้เปิดภาคเรียนแล้ว นักเรียนเก่ากับนักเรียนใหม่จะถูกแบ่งระดับชั้นไม่เหมือนกัน แม้ข้าจะสอบผ่านแต่ก็จะช้ากว่าเมิ่งชูหนึ่งรุ่น ไม่เหมือนพวกเจ้าที่เป็นเพื่อนร่วมชั้น ปกติก็จะได้เรียนด้วยกัน ดังนั้นข้าจะขอให้เจ้าช่วยข้าสักเรื่อง ดูแลเมิ่งชูแทนข้าด้วย ถ้าหากมีชายหนุ่มที่คิดไม่ซื่อเข้าใกล้นาง ต้องบอกให้ข้ารู้ทันที”
“พี่หยวนเส้าเกรงใจเกินไปแล้ว ต้องบอกแน่นอน”
คิดถึงภาพในตอนนั้น หลี่หยวนเส้ารู้สึกว่าตัวเองเหมือนตัวตลก แทบอยากจะตบหน้าตัวเองสักฉาด
โกรธจนเขาระงับอารมณ์เอาไว้ไม่อยู่ อยากจะไปหาเฟิงอู๋จี และลงมือสั่งสอนเขาสักตั้ง
หลี่เมิ่งเอ๋อร์ตาไวมือเร็วขวางเขาเอาไว้ “ท่านพี่จะไปไหน คงไม่ได้จะไปหาเรื่องเฟิงอู๋จีใช่หรือไม่ ช้าก่อนช้าก่อน อย่าเพิ่งพูดถึงท่านปู่กับเสนาบดีซ้ายเฟิงที่ยังอยู่ในโรงยาโหยวเจียนเลย ถ้าถูกท่านพี่รู้เข้า จะไม่เป็นการทำให้นางลำบากใจหรือ”
หลี่หยวนเส้าคิดไม่ถึงว่านางจะพูดเข้าข้างเฟิงอู๋จี รู้สึกประหลาดใจขึ้นมาทันที
“เมิ่งเอ๋อร์......ก่อนหน้านี้เจ้าเกลียดเฟิงอู๋จีที่สุดไม่ใช่หรือ”
หลี่เมิ่งเอ๋อร์ถอนหายใจยาวออกมา จากนั้นก็หมุนตัวไปอุ้มเสี่ยวเติงเพ่าที่กึ่งหลับกึ่งตื่น และกำลังส่งเสียงร้องไห้อย่างอ่อนแอขึ้นมาตบเบาๆ
“ล้วนเป็นเรื่องที่ผ่านไปแล้ว เดิมก็เป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด อีกอย่าง......ตอนนี้เขานับว่าเป็นผู้มีพระคุณของพวกเราพี่น้อง ท่านพี่ก็จับมือคืนดีกับเขาแล้ว ข้าไหนเลยจะมีเหตุผลที่จะยึดไว้ไม่ปล่อยวางเล่า”
หลี่หยวนเส้าได้ยินถึงตรงนี้ ก็ได้สติและในเย็นลงมาก เขาสะกดกลั้นคลื่นอารมณ์ในจิตใจ มองหลี่เมิ่งเอ๋อร์ด้วยแววตาสับสนและสงสาร
หลังจากผ่านเหตุการณ์เลวร้ายในหนึ่งปีมานี้ น้องเล็กโตขึ้นมากแล้ว เปลี่ยนเป็นผู้ใหญ่ที่เข้าใจเหตุผลมากขึ้น แตกต่างจากนางในตอนนั้นที่ทั้งเอาแต่ใจและชอบเอาชนะเป็นคนละคนเลย
“เมิ่งเอ๋อร์ เจ้าคิดว่าคนอย่างเฟิงอู๋จีเป็นอย่างไร เขามีใจต่อเมิ่งชู......แล้วเจ้ามีความคิดเห็นอย่างไร”
หลี่เมิ่งเอ๋อร์ยิ้มมุมปาก เอ่ยเสียงเรียบว่า “ท่านพี่ ตอนนี้ข้าไม่มีความคิดใดๆต่อผู้ชายบนโลกนี้แล้ว พูดอธิบายไม่ออก นอกจากท่านแล้ว ในสายตาของข้าพวกเขาไม่ได้แตกต่างอะไรเลย ถ้าหากจะบีบให้ข้าพูด เขาย่อมดีกว่าจางอวี้ซูไม่รู้ตั้งกี่เท่า”
“ยิ่งไปกว่านั้นท่านพี่ก็ดูจะชอบเฟิงอู๋จี แล้วข้ายังจะพูดอะไรได้อีกเล่า เพราะสายตาของนางดีกว่าข้ามาแต่ไหนแต่ไร อีกอย่างนั่นก็เป็นเรื่องของพี่สาว ความคิดของข้าไม่สามารถโน้มน้าวการตัดสินใจของนางได้”
“ถ้าหากถามข้าว่าทำไมจึงเลือกที่จะยอมรับ ก็คงเป็นเพราะท่านปู่กระมัง เขายิ่งไม่อยากได้ ข้าก็ยิ่งอยากจะทำตรงกันข้ามกับเขา”
น้ำเสียงของหลี่เมิงเอ๋อร์แฝงแววเย็นชาอยู่สองส่วน
แค่ท่าทีของเสนาบดีขวาหลี่ เรื่องระหว่างเฟิงอู๋จีกับหลี่เมิ่งชูนางก็มีความสุขที่อยากจะให้บรรลุผลสำเร็จจริงๆ
หลี่หยวนเส้านิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง เมื่อละทิ้งประเด็นอื่นไม่ต้องพูดถึง ในกายของเขาก็มีความต่อต้านอยู่เช่นเดียวกัน
หลี่หยวนเส้ามองนางอย่างนิ่งอึ้ง ในใจมีความรู้สึกขมขื่นสายหนึ่งที่ยากจะเอื้อนเอ่ยกรูขึ้นมา ทำให้ดวงตาเขาร้อนผ่าวขึ้นมาทันที อดไม่ได้ที่จะหันหลังกลับไป
“ท่านพี่ ท่านเป็นอะไร”
หลี่เมิ่งชูจับไหล่ของหลี่หยวนเส้าพลางเดินอ้อมไปตรงหน้าเขา พบว่าพี่ชายถึงกับตาแดงก่ำและมีน้ำตาไหลออกมา ก็รู้สึกนิ่งอึ้งไปเล็กน้อย
นางไม่กลัวเสนาบดีขวาหลี่คัดค้าน แต่กลับรู้สึกกังวลใจหากพี่ชายไม่สนับสนุน
“......ท่านพี่คงไม่ได้ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้กระมัง”
หลี่หยวนเส้ามองนางที่ถามด้วยท่าทีระมัดระวัง ก็เค้นรอยยิ้มออกมาอย่างฝืนใจ เอ่ยปากด้วยเสียงแหบแห้งว่า
“เจ้าเป็นน้องสาวแท้ๆของข้า ข้าย่อมหวังว่าเจ้าจะสามารถแต่งงานกับผู้ชายที่ดีที่สุดในโลก เฟิงอู๋จีชาติกำเนิดต่ำต้อย แล้วยังปากหนักพูดจาไม่น่าฟัง......แม้ว่าพี่จะไม่พอใจเขาสักเท่าไหร่ แต่ใครใช้ให้เจ้าชอบเขาจากใจจริงเล่า ถ้าหากเขาสามารถปฏิบัติต่อเจ้าอย่างจริงใจ พี่จะมีเหตุผลอะไรมาคัดค้านเล่า”
ได้ยินดังนั้น หลี่เมิ่งชูก็มองเขาอย่างตื่นเต้นยินดี “ถ้าอย่างนั้นก็แปลว่า ท่านพี่ยอมรับเรื่องนี้แล้วใช่หรือไม่”
หลี่หยวนเส้าอดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย พยายามให้น้ำตาไหลย้อนกลับไป ถอนหายใจก่อนจะเอ่ยว่า “เด็กโง่ เมื่อก่อนพี่เคยบอกกับเจ้าแล้ว ถ้าหากเจ้าไม่อยากจะแต่งงาน ก็ไม่ต้องใส่ใจสายตาของคนภายนอก ถ้าหากต้องพบเจอกับคนอย่างจางอวี้ซู ไม่สู้ไม่แต่งงานจะดีกว่า เป็นสาวแก่แล้วจะทำไม มากสุดพี่ก็เลี้ยงดูเจ้าตลอดชีวิต หรือถ้าข้าสอบได้จอหงวนแล้ว ช่วยเจ้าหาสามีที่ซื่อสัตย์และเชื่อฟังสักคน......”
“พี่ไม่ใช่ท่านปู่ ชาตินี้ไม่หวังสิ่งอื่นใด หวังแค่เจ้ากับเมิ่งเอ๋อร์จะมีชีวิตที่ดี สิ่งที่สำคัญและอยู่เป็นอันดับแรกย่อมเป็นความสุขของพวกเจ้า”
ดังนั้นถ้าหากหลี่เมิ่งชูชอบเฟิงอู๋จีจากใจจริง เขาก็ไม่ขัดขวาง คงได้แต่จับตาดูอยู่ข้างๆ ไม่ให้เฟิงอู๋จีมีโอกาสได้รังแกน้องสาวอย่างเด็ดขาด
“พี่แค่รู้สึกเศร้าใจชั่วขณะ แค่ชั่วพริบตากับเมิ่งเอ๋อร์ก็โตขนาดนี้แล้ว คิดถึงวันเวลาที่พวกเจ้าไล่ตามพี่เพื่อให้พี่แบกพวกเจ้า เอะอะโวยวายจะกินขนมถั่วตัด เหมือนเพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อวานนี้เอง”
“ตอนนี้นางมีลูกแล้ว เจ้าก็มีหวานใจแล้ว......หลังจากนี้หากแต่งงานออกเรือนไป ก็จะเหลือแค่พี่คนเดียวเท่านั้น”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
ทำไมซื้อตอนไม่ได้คะ...
เติมเหรียญอย่างไร...
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......