เข้าสู่ระบบผ่าน

พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 843

ข่าวลือในหมู่ประชาชนสับสนวุ่นวาย อวิ๋นหลิงที่อยู่ในตำหนักบูรพากลับไม่รู้อะไรเลย

นางถูกคนในวังและนอกวังปิดบังไว้อย่างแน่นหนา จึงคิดว่าเรื่องราวได้สงบลงแล้วจริงๆ

เวลาล่วงเลยเข้าสู่เดือนเก้า อากาศก็ค่อยๆเริ่มเย็นลง

ต้นไม้นอกตำหนักจากที่มีหิมะปกคลุมเต็มไปหมดจนใบไม้เปลี่ยนเป็นสีเหลืองอ่อน นางพักบำรุงครรภ์อยู่ในตำหนักเกือบจะหนึ่งปีแล้ว

อวิ๋นหลิงอุ้มท้องที่กลมโต ในใจอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกังวล

ถ้าหากสามารถเชิญไข่เหล็กมาช่วยทำนาย ว่าครรภ์นี้จะคลอดเมื่อไหร่คงดี

จะให้นางตั้งครรภ์ยาวนานเหมือนตั้งครรภ์นาจาจริงหรือ นางยินดีที่จะผ่าตัดคลอดเสียดีกว่า

แต่เมื่อมีความคิดเช่นนี้ผุดขึ้นมา อวิ๋นหลิงก็รับรู้ได้ถึงคลื่นพลังจิตสายหนึ่ง เป็นการต่อต้านอย่างรุนแรงจากลูกในท้อง

นางถอนหายใจออกมาอย่างจนใจ “ลูกเอ๋ย เจ้าจะทรมานแม่ไปถึงเมื่อไหร่......”

ลูกทั้งสองคนที่เล่นอยู่ข้างๆก็รับรู้ได้ถึงคลื่นพลังด้วยความหลักแหลมเช่นเดียวกัน ต่างก็วิ่งเข้ามาหา ล้อมรอบตัวอวิ๋นหลิงทั้งซ้ายขวา

ฮั่วถวนคว้ามือของอวิ๋นหลิงเอาไว้ เอ่ยเตือนด้วยเสียงอ้อแอ้ว่า “น้องสาวยังออกมาเล่นตอนนี้ไม่ได้ ไม่อย่างนั้นท่านแม่จะเจ็บมาก”

ลูกทั้งสองคนแม้จะอายุน้อย เหมือนจะเข้าใจแต่ก็ไม่เข้าใจในสิ่งที่คนในวังต่างวิพากษ์วิจารณ์กัน แต่กลับไม่มีความรู้สึกกังวลและตื่นเต้นเหมือนพวกผู้ใหญ่

ร่างของอวิ๋นหลิงชะงักค้างไป เหลือบตาไปมองลูกชายทั้งสองคน “พวกเจ้ารู้ได้อย่างไร”

ฮั่วถวนกะพริบตาปริบๆ “เมื่อครู่น้องสาวบอก”

เสวี่ยถวนก็พยักหน้าและพูดอย่างจริงจังว่า “ท่านแม่ต้องเชื่อฟังน้องสาว”

อวิ๋นหลิงนิ่งเงียบ คิดว่าคงเป็น”ภาษาเด็ก”ซึ่งเป็นวิธีการสื่อสารเฉพาะระหว่างเด็ก แม้ว่านางเองก็จะรับรู้ได้ถึงอารมณ์ของลูกที่อยู่ในท้อง แต่ไม่ได้ละเอียดแม่นยำเท่ากับพวกลูกชาย

แต่คำพูดของลูกชายทั้งสองกลับทำให้นางอดไม่ได้ที่จะคิดมากขึ้นมาหลายส่วน

ทำไมหากนางคลอดลูกตอนนี้ นางจะรู้สึกเจ็บมาก

อวิ๋นหลิงอดไม่ได้ที่จะนึกถึงตอนที่คลอดลูกสองคนที่อยู่ตรงหน้านี้ ตอนนั้นสุขภาพร่างกายของนางดีมาก แม้จะเป็นการคลอดลูกแฝดก่อนกำหนดก็ยังอดทนได้

แทบจะเป็นการเอาชีวิตของนางจริงๆ ตอนที่เด็กสองคนคลอดได้บีบเค้นเอาพลังจิตในร่างกายแม่อย่างบ้าคลั่ง

ตอนนั้นถ้าเซียวปี้เฉิงเองพลังจิตไม่ตื่นขึ้นมา ช่วยนางแบกรับส่วนหนึ่ง ไม่แน่ว่าอาจจะตายไปแล้วก็ได้

หรือว่าจะเป็นสาเหตุอย่างเดียวกัน ลูกในท้องจึงไม่ยอมออกมา

อวิ๋นหลิงคิดถึงตรงนี้ ลูกในท้องก็ดิ้นขึ้นมาอีกครั้ง ส่งกระแสพลังจิตออกมาเล็กน้อย

เด็กคนนี้กำลังปลอบใจนาง เห็นทีนางจะเดาถูก

อวิ๋นหลิงเข้าใจขึ้นมาทันที พลังจิตของนางในตอนนี้ไม่แข็งแกร่งพอ อย่างน้อยก็ไม่เพียงพอที่จะสนับสนุนให้นางคลอดลูกที่”ไม่ธรรมดา”คนนี้ออกมาได้

ขณะที่กำลังใช้ความคิด ตงชิงก็เดินเข้ามารายงาน

“พระชายารัชทายาท แม่นางโม่มาแล้ว ท่านต้องการพบหรือไม่”

ผ่านไปครู่ใหญ่กว่าอวิ๋นหลิงจะนึกขึ้นได้ว่า”แม่นางโม่”คนนี้เป็นใคร จากนั้นก็พยักหน้า “ให้นางกำนัลเตรียมน้ำชากับของว่าง เจ้าไปพานางเข้ามาเถอะ”

หลังจากที่เกิดเรื่องครั้งที่แล้ว นางก็ไม่ค่อยได้เห็นโม่อี้ซือ ก่อนหน้านี้ยังมาน้อมทักทายและเยี่ยมนางพร้อมกับองค์หญิงอี๋อันอยู่บ่อยๆ แต่ช่วงที่ผ่านมากลับไม่เห็นนางเลย

หลังจากที่หลงเย่ได้ทราบข่าว ก็ทำการประสานให้โม่อี้ซือรู้จักกับยินถังทันที

แผนการราบรื่นอย่างที่คาดคิดเอาไว้ หลังจากที่ยินถังซึ่งเป็นคนที่แพ้ความสวยความงามได้พบกับโม่อี้ซือ ก็เกิดความสนใจต่อนางอย่างมาก

หลายวันมานี้ ทั้งสองมีความใกล้ชิดสนิทสนมกันมาก

ทางด้านจวนอ๋องจินมักจะเขียนจดหมายมารายงานเสมอ เฉียงเวยจะสบถด่าโม่อี้ซืออย่างบ้าคลั่งทุกครั้งในจดหมาย

【เด็กสาวคนนี้น่าเบื่อมาก หญิงสาวหน้าตางดงามมากมายพูดคุยกับนางแต่นางกลับไม่ตอบไม่สนใจ กลับไปคลุกคลีอยู่กับผู้ชายไม่ดี】

โม่อี้ซือว่าแล้ว สายตาก็จ้องมองไปที่ท้องของนางด้วยความกังวล มีแววไม่สบายใจและหวาดกลัวแฝงอยู่สองส่วน “พระชายารัชทายาท ตอนนี้ประชาชนพูดถึงข่าวลือกันรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งเมื่อวานยังมีประชาชนมาขอเข้าเฝ้าที่หน้าประตูวังหลวง หวังว่า......”

ยังไม่ทันพูดจบประโยค ตงชิงที่คอยปรนนิบัติอยู่ข้างๆสีหน้าเปลี่ยนไปทันที มองโม่อี้ซือด้วยสีหน้าบึ้งตึง ตัดบทนางด้วยน้ำเสียงตักเตือน

“ท่านหญิงระวังคำพูดด้วย องค์รัชทายาทได้จัดการเรื่องนี้เรียบร้อยแล้ว ไม่จำเป็นที่ท่านจะต้องเอ่ยถึงให้พระชายารัชทายาทต้องเป็นกังวล”

นางรู้สึกโกรธมา โม่อี้ซือคนนี้กำลังคิดจะทำอะไร องค์รัชทายาทกำชับเป็นการเฉพาะไม่ให้ใครบอกเรื่องนี้กับพระชายารัชทายาท ทำไมนางจึงกล้ามาพูดต่อหน้าถึงตำหนักบูรพา

แต่อวิ๋นหลิงเป็นคนฉลาดมาก แค่เสี้ยวเวลาที่ขมวดคิ้วก็สามารถเดาเรื่องราวได้หลายส่วนแล้ว “ตงชิง ข้าอยากกินนมผสมแปดธัญพืช เจ้าไปสั่งให้ห้องเครื่องทำมาให้สองถ้วยเถอะ”

ตงชิงกัดริมฝีปาก ยังอยากจะพูดอะไรบางอย่าง กลับถูกสายตาของอวิ๋นหลิงห้ามเอาไว้ ได้แต่ถอยออกไปอย่างเชื่อฟัง

นางมองไปทางโม่อี้ซือ เอ่ยขึ้นช้าๆว่า “เมื่อครู่เจ้าบอกว่า ประชาชนขอเข้าเฝ้าที่หน้าประตูวังทำไม”

โม่อี้ซือกัดริมฝีปาก รวบรวมความกล้าเอ่ยอย่างจริงจังว่า “ประชาชนหวังว่าท่านจะคิดเผื่อสุขภาพร่างกายของตนเองและแคว้นต้าโจว รีบทำแท้งครรภ์ปีศาจนี่ซะ และตอนนี้ในราชสำนักก็มีการถกเถียงกันถึงเรื่องอย่างไม่สิ้นสุด แต่ท่านน้ารัชทายาทเป็นห่วงว่าจะกระทบต่อความรู้สึกของท่าน จึงไม่อนุญาตให้ใครเอ่ยเรื่องเหล่านี้ต่อหน้าท่าน”

“แต่ว่า......พระชายารัชทายาทไม่สามารถเห็นแก่ตัวเช่นนี้ได้ หลายวันนี้มาท่านน้ารัชทายาทต้องแบกรับความกดดันตั้งเท่าไหร่ ทำไมท่านจึงไม่คิดเผื่อท่านน้ารัชทายาท คิดเผื่อแคว้นต้าโจวบ้างเล่า”

โม่อี้ซือพูดอย่างน้ำใสใจจริง เรื่องเหล่านี้นางได้รับรู้อย่างต่อเนื่องจากการไปมาหาสู่กับยินถังในช่วงนี้

เดิมทีนางรู้สึกแค่ว่าอวิ๋นหลิงไม่ยอมคลอดเสียทีเป็นเรื่องที่น่ากลัว แต่หลังจากที่อยู่กับยินถังพักใหญ่ ก็ถูกปลุกปั่นให้คิดว่าน่าจะออกมาพูดเรื่องนี้

นางหวังดีต่อรัชทายาทและแคว้นต้าโจว เรื่องนี้ไม่ผิด

ได้ยินสิ่งที่พูดมา สายตาของอวิ๋นหลิงก็มีแววนิ่งอึ้งจนถึงแววประหลาดใจ สุดท้ายก็ใช้สายตาที่มองคนปัญญาอ่อนจ้องมองโม่อี้ซือ

“เจ้าขาดสมองกระมัง”

โม่อี้ซือนิ่งอึ้ง “อะ อะไร”

“ไม่สบายก็ไปหาหมอ ถ้าหากปัญญาอ่อนก็อ่านหนังสือให้มาก ฝีมือการแพทย์ของข้าจะดีแค่ไหนก็รักษาปัญญาอ่อนไม่ได้”

หมดคำพูด

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ