เข้าสู่ระบบผ่าน

พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 844

บางทีอาจคิดไม่ถึงว่าอวิ๋นหลิงจะพูดจาเช่นนี้ออกมา โม่อี้ซือนั่งนิ่งอยู่กับที่ มองนางด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ

ต้องรู้ว่าท่าทีที่อวิ๋นหลิงปฏิบัติต่อนางก่อนหน้านี้ มีแต่ความใจดีสุภาพและมีน้ำใจ

ตอนนี้กลับด่านางว่าสมองมีปัญหา

อวิ๋นหลิงพิงอยู่กับเก้าอี้หวาย เชิดคางขึ้นมาเล็กน้อย เอ่ยเสียงเรียบว่า “เอาล่ะ กลับไปเถอะ อย่ามาเกะกะสายตาข้าเลย”

โม่อี้ซือรู้สึกจมูกตื้อตันขึ้นมา น้ำตาไหลออกมาในชั่วพริบตา เอ่ยอย่างน้อยใจว่า “คำพูดเหล่านี้ไม่น่าฟัง พระชายารัชทายาทฟังแล้วจะรู้สึกไม่สบายใจก็เป็นเรื่องปกติ แต่หม่อมฉันก็แค่เห็นแก่ส่วนรวม คิดเผื่อแคว้นต้าโจว ใยพระชายารัชทายาทต้องหยามหยัน และพูดสิ่งที่ไม่น่าฟังเช่นนั้นออกมาด้วย”

หลายปีมานี้เวลาที่คลุกคลีอยู่ในกลุ่มของหญิงสาว โม่อี้ซือใช่ว่าจะไม่เคยได้ยินคำพูดหยาบคายมาก่อน แต่ส่วนใหญ่ล้วนเป็นคำพูดเหน็บแนมแฝงการเสียดสีมากกว่า ไม่มีใครฉีกหน้ากันง่ายๆเช่นนี้

อวิ๋นหลิงยิ้มเย็น “พอวิจารณ์เจ้าแทนที่จะยอมรับกลับแสดงท่าทีไม่พอใจ รู้ว่าข้าฟังแล้วจะรู้สึกไม่สบายใจก็ยังจะพูด ไม่ใช่หาเรื่องด่าแล้วอะไร ก่อนหน้านี้เป็นเพราะเสด็จพี่ ข้าไว้หน้าเจ้าทุกเรื่อง สมองเจ้าคิดไม่ได้ยังจะมาเสแสร้งต่อหน้าข้า ยังไม่สามารถด่าเจ้าได้อีกหรือ”

“เจ้าน่าจะดีใจที่ตอนนี้ข้าท้องโตไม่สามารถลงไม้ลงมือได้ มิเช่นนั้นคงจะจับเจ้าโยนลงไปในทะเลสาบ ล้างความเลอะเทอะในสมองของเจ้าซะ”

คำพูดประหลาดอย่างคำว่าปัญญาอ่อน ไม่เคยได้ยินมากก่อน ช่างเปิดหูเปิดตาจริงๆ

จากนั้นอวิ๋นหลิงก็ให้นางกำนัลไปเรียกตัวเยี่ยเจ๋อเฟิงมา ส่งโม่อี้ซือกลับไปยังตำหนักโยวซิน ให้องค์หญิงอี๋อันสั่งสอนให้ดี

มองดูท่าทีร้องไห้เสียใจของโม่อี้ซือ อวิ๋นหลิงอดไม่ได้ที่จะเหลือกตามองบน

ก่อนหน้านี้ที่ปฏิบัติต่อนางอย่างเกรงใจ เพราะโม่อี้ซือก็ไม่เคยล่วงเกินนางมาก่อน แต่นี่พออ้าปากมาก็บอกว่าลูกในท้องของนางเป็น”ครรภ์ปีศาจ” นี่ไม่เท่ากับหาเรื่องหรอกหรือ

เพียงแต่นางไม่จำเป็นต้องลงไม้ลงมือ ย่อมมีคนช่วยนางจัดการคนปัญญาอ่อนคนนี้

ช่วงพลบค่ำ ตอนที่เซียวปี้เฉิงกลับมา เยี่ยเจ๋อเฟิงได้รายงานเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงเย็นทันที

สีหน้าเขาไม่น่าดูเอาเสียเลย เท้าที่กำลังเดินกลับตำหนักบูรพาเปลี่ยนทิศทางทันที ตรงไปยังตำหนักโยวซิน

ตอนที่ก้าวเข้าไปในตำหนัก ในตำหนักมีเสียงสะอื้นไห้ดังขึ้นมาอย่างเลือนราง เห็นองค์หญิงอี๋อันนั่งอยู่ข้างในด้วยสีหน้าหนักใจอย่างยากจะพบเห็น โม่อี้ซือดวงตาบวมเบ่ง บนใบหน้ายังมีรอยฝ่ามือสีแดงปรากฏอยู่

เห็นเซียวปี้เฉิงมา องค์หญิงอี๋อันก็รู้แล้วว่าเขารู้เรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว รีบเดินเข้าไปต้อนรับ เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้ารู้สึกผิด

“ปี้เฉิง ล้วนโทษข้าที่สั่งสอนซือซือได้ไม่ดี คิดไม่ถึงว่านางจะกล้าไปพูดถึงข่าวลือเหลวไหลต่อหน้าอวิ๋นหลิง พูดไม่คิด......ไม่นานมานี้ข้าก็ได้ตักเตือนนางแล้ว ซือซือ ยังไม่รีบมายอมรับผิดอีก”

โม่อี้ซือสูดจมูก รีบเทน้ำชาและยกเข้าไปหา “ท่านน้ารัชทายาท ซือซือไม่ควรตัดสินใจไปหาพระชายารัชทายาทด้วยตนเอง แต่ข้าทำเพื่อ......”

ยังไม่ทันพูดจบแก้วน้ำชาก็ถูกผลักออก ทำให้หลุดมือกระแทกกับพื้นจนแตกเป็นเสี่ยง ทำเอานางตกใจหน้าซีด ไม่แม้แต่จะกล้าหายใจแรง

“ข้าได้สั่งการเป็นพิเศษว่าไม่ให้ใครไปเอ่ยเรื่องภายนอกต่อหน้าอวิ๋นหลิง แม้แต่พระเจ้าหลวงยังปิดปากไม่พูด ใครบังอาจให้เจ้าไปพูดจาเหลวไหลต่อหน้านาง คำว่าครรภ์ปีศาจเจ้ายังกล้าเอ่ยออกมาได้ มีเจตนาอะไรกันแน่”

เซียวปี้เฉิงเป็นคนทำงานใจเย็น แต่ถ้าเป็นเรื่องของอวิ๋นหลิง ไม่เคยมีคำว่ายอมหรืออดทนเลย อารมณ์ปะทุขึ้นมาทันที

โม่อี้ซือไหนเลยจะเคยเห็นท่าทีเช่นนี้ของเขา จึงรู้สึกตกใจจนร้องไห้ออกมาทันที “ท่านน้า ข้าผิดไปแล้ว......ข้าก็แค่ไม่อยากให้ท่านต้องแบกรับความกดดันจากราชสำนักและวังหลังรวมไปถึงประชาชน......”

เซียวปี้เฉิงรู้สึกน่าขัน “เจ้ามีสิทธิ์และตำแหน่งอะไรมาคิดแทนข้า หรือว่าอยากจะเพิ่มปัญหาให้ข้า”

โม่อี้ซือได้ยินดังนั้น สีหน้าซีดขาวกัดริมฝีปากเอาไว้ สายตาเต็มไปด้วยแววเจ็บปวด

นางเป็นคนขี้อายเสมอมา และไม่ชอบอยู่กับอวิ๋นหลิง ที่ไปพูดเรื่องนี้ที่ตำหนักบูรพา ก็เพราะคิดเผื่อเขา

ไหนเลยจะคิดว่าการรวบรวมความกล้าในการกระทำครั้งนี้ ท่านน้ารัชทายาทไม่เห็นแก่ความดีของนางสักนิด

องค์หญิงอี๋อันเห็นดังนั้นก็เดินเข้าไป เอ่ยอย่างตื่นเต้นว่า “ปี้เฉิง ซือซืออายุยังน้อย ไม่มีความสามารถในการตัดสินใจถูกผิด พอไปเจอผู้คนได้ยินอะไรมาก็คิดว่าเป็นเรื่องจริง หลังจากนี้ข้าจะสั่งสอนนางให้ดี”

เซียวปี้เฉิงสะบัดแขนเสื้อ เอ่ยด้วยสีหน้าเย็นยะเยือก “ไม่แปลกที่หลิงเอ๋อร์บอกว่าสมองเจ้าไม่ปราดเปรื่อง ไม่รู้จักแยกแยะถูกผิดก็อ่านหนังสือให้มาก มิเช่นนั้นภายหน้าเกิดเรื่องอับอายขายหน้านั้นเรื่องเล็ก แต่ถ้าทำให้เกิดหายนะคงเป็นเรื่องใหญ่”

เห็นแก่องค์หญิงอี๋อัน รวมไปถึงไม่ต้องการใช้ประโยชน์จากหมากอย่างโม่อี้ซือแล้ว เขาพยายามสะกดกลั้นความโกรธเอาไว้ แต่สายตากลับยิ่งเย็นชามากขึ้น

ด้วยนิสัยของโม่อี้ซือ คงคิดไม่ได้ว่าต้องไปพูดเรื่องเหล่านี้ต่อหน้าอวิ๋นหลิง ต้องมีคนยุยงแน่

ได้ยินอะไรมาก็คิดว่าเป็นเรื่องจริง แล้วเรื่องนี้มาจากไหน ก็ไม่ต้องเดาให้เสียเวลา

ตระกูลยินตัวดี เป็นพวกเขาจริงๆด้วย

คิดเรื่องต่างๆอยู่ในใจ หลังจากที่เซียวปี้เฉิงตำหนิโม่อี้ซือเสร็จ ก็ไม่มองนางเลยแม้แต่แวบเดียว หมุนตัวจากไปทันที

ราคาของเราเพียงแค่ 1/4 ของผู้ให้บริการรายอื่น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ