เข้าสู่ระบบผ่าน

พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 847

ตงชิงหอบหายใจพลางตอบว่า “คนผู้นั้นดูเหมือนจะยังหนุ่ม...เอ่อ เป็นนักพรต?”

เดิมทีนางจะเอ่ยว่าไต้ซือ แต่ถึงแม้เขาจะสวมชุดนักบวช แต่ก็ไม่ได้โกนผม นางจึงเปลี่ยนคำพูดใหม่

ความสุขบนใบหน้าของเซียวปี้เฉิงพลันเหือดหายไป หันไปมองนางด้วยความแปลกใจ “หมายความว่าอะไร เป็นผู้ชายหรือ”

ชายร่างใหญ่คนหนึ่งถ่อดั้นด้นมาบอกว่าทำคลอดได้ ซ้ำยังเป็นนักพรตหนุ่ม ความคิดแรกของเขาคือเป็นนักต้มตุ๋นในยุทธภพที่กล้าอวดอ้างว่าขับไล่ภูตผีปีศาจร้ายได้เพื่อจะหลอกเอาเงินหรือเปล่า

ลองคิดดูแล้วก็รู้สึกทะแม่งๆ หัวหน้าองครักษ์เมืองหลวงจะปล่อยให้คนที่ไม่รู้ว่าเป็นใครมาจากไหนเข้ามาในตำหนักได้อย่างง่ายดายโดยไม่แจ้งให้เขาทราบได้อย่างไร

อวิ๋นหลิงโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อยแล้วถามว่า “นักพรตผู้นั้นอยู่ที่ใด”

“ทูลพระชายา เขากำลังเดินมาพร้อมกับพระเจ้าหลวง”

ตำหนักฉางหนิงเคลื่อนไหวช้า นางจึงตั้งใจวิ่งกลับมาแจ้งข่าวก่อน

ขณะที่หลายคนกำลังพูดคุยกัน เกี้ยวของพระเจ้าหลวงก็มาถึงด้านนอกตำหนักบูรพาอย่างรวดเร็ว ตามมาด้วยเสียงรายงานของนางกำนัล พระเจ้าหลวงกับจักรพรรดิจาวเหรินก็เสด็จเข้ามาท่ามกลางองครักษ์ที่รายล้อม

เซียวปี้เฉิงพินิจมองก็เห็นชายหนุ่มผู้หนึ่งที่สวมชุดนักบวชสีเทาน้ำเงิน ดูเหมือนจะอายุยี่สิบกว่าๆ อยู่ในฝูงชน

ใบหน้าของอีกฝ่ายไม่โดดเด่น ท่วงท่าดุจเซียนเทพแผ่รัศมีออกมา

พระเจ้าหลวงกับจักรพรรดิจาวเหรินเดินขนาบข้างซ้ายขวาของชายหนุ่มด้วยท่าทางพินอบพิเทาและตื่นเต้น

ไม่รอเซียวปี้เฉิงเอ่ยถาม หลิวฉิงก็เป็นฝ่ายชิงเอ่ยด้วยความตะลึงงัน “ท่านนี่เอง!”

ชายหนุ่มผู้นั้นที่ชี้แนะนางให้พิชิตคู่รักอินทรีจินเตียวตอนที่กลับไปแคว้นเป่ยฉิน!

จะว่าไปก็น่าแปลกที่นางลืมรูปร่างหน้าตาของคนผู้นั้นไปเสียสนิทนับตั้งแต่กล่าวคำอำลากัน แต่เมื่อเห็นเขาอีกครั้ง นางก็จำได้ในพริบตา

อวิ๋นหลิงอดจ้องมองอีกฝ่ายตรงๆ ไม่ได้ ดวงตาเบิกกว้างเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจ

จริงๆ แล้วคือนักบวชผู้ล้ำเลิศที่นางเคยเห็นบนถนนแวบหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว...

สังเกตเห็นสายตาของสองพี่น้องแล้ว เต้าหวู๋ซินก็ระบายยิ้มบางๆ ให้พวกนาง

ที่หว่างคิ้วมีแต้มชาดสีแดงเม็ดงามราวกับบุปผาช่อตูม

“พี่เอ้อร์หลีว์ พวกท่านรู้จักกันหรือเปล่า” สายตาที่นึกสงสัยของเซียวปี้เฉิงมองไปมาระหว่างพวกเขา ก่อนถาม “เสด็จปู่ ไม่ทราบว่าผู้นี้คือ...”

พระเจ้าหลวงเคาะกล้องยาสูบ ขึงตาใส่เขาปราดหนึ่งแล้วพูดว่า “เสียมารยาท ยังไม่รีบคารวะหวู๋ซินไต้ซืออีก!”

ทันทีที่คำนี้ออกมา คนอื่นๆ ในตำหนักก็ตกตะลึง

อวิ๋นหลิงกับหลิวฉิงมองหน้ากันโดยไม่รู้ตัว หายใจติดขัดไปตามๆ กัน

หวู๋ซินไต้ซือ!

บุคคลลึกลับที่เป็นข่าวลือโจษจันว่าทำนายการข้ามมิติของพวกนางมายังอีกโลกหนึ่งได้ผู้นั้น

ที่แท้พวกเขาเคยพบกันมาก่อนที่ไหนสักแห่ง

เซียวปี้เฉิงได้สติหลุดจากภวังค์ ความสงสัยกับความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจเมื่อครู่ปลาสนาการหายไปสิ้น เขารีบประสานมือคำนับด้วยสีหน้าเคร่งขรึมและให้เกียรติ

“ปี้เฉิงคารวะหวู๋ซินไต้ซือ ไต้ซือโปรดช่วยให้หลิงเอ๋อร์คลอดบุตรอย่างปลอดภัยโดยเร็วที่สุดด้วยเถิด!”

เต้าหวู๋ซินผงกศีรษะเล็กน้อย กล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “พระชายาตั้งครรภ์ครั้งนี้เปี่ยมด้วยบุญบารมีล้นเหลือ ได้รับพรจากสวรรค์ย่อมคลอดอย่างปลอดภัยไร้กังวล ทุกท่านโปรดรออย่างใจเย็น”

พูดจบ เขาก็โบกมือให้นางกำนัลพยุงอวิ๋นหลิงขึ้นเตียง ดูเหมือนจะทำคลอดให้นาง

พระเจ้าหลวงทรงมีพระบัญชาทันที ตรัสอย่างจริงจัง “พระชายากำลังจะคลอด สั่งการโรงหมอหลวงกับห้องเครื่องหลวงให้เตรียมพร้อมทันที!”

อวิ๋นหลิงรอคอยให้ลูกคลอดมาเนิ่นนาน บัดนี้ใกล้จะคลอดเต็มที นางก็รู้สึกหนักใจอยู่บ้างไปครู่หนึ่ง รู้สึกว่าไม่ใช่ความจริงราวกับล่องลอยอยู่ในห้วงความฝัน

จากนั้นตงชิงก็รีบประคองนางไปขึ้นเตียง

ขณะที่เขารู้สึกประหลาดใจและงุนงง ไม่ทันไรก็พบว่าเขาจำอะไรที่เกี่ยวกับหวู๋ซินไต้ซือไม่ค่อยได้

นอกจากคำที่อีกฝ่ายพูดแล้ว นอกนั้นข้าจำไม่ได้เลยแม้แต่เรื่องเดียวว่าเขามาและจากไปเมื่อใด รูปร่างหน้าตาเป็นเช่นไร และอายุเท่าไร

พระเจ้าหลวงถูมือไปมา สายตาจับจ้องไปทางอวิ๋นหลิง แล้วตรัสอย่างตื่นเต้น “เทพเซียน จะต้องเป็นเทพเซียนแน่ๆ! เมื่อครู่หวู๋ซินไต้ซือเพิ่งบอกไปว่าที่นางหนูหลิงตั้งท้องครั้งนี้ไม่ใช่เด็กธรรมดา!”

มิน่าถึงไม่มีวี่แววจะคลอดนานขนาดนี้ หรือว่าจะตั้งท้องเทพเซียนตัวน้อย?

สายตาของทุกคนในที่นั้นชักเริ่มอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาครู่หนึ่ง

……

ในห้อง อวิ๋นหลิงนอนบนเตียงนุ่มๆ มองไปยังเต้าหวู๋ซินด้วยความตกประหม่าเล็กน้อยโดยไม่มีสาเหตุ

ขณะนี้ ในใจนางมีข้อสงสัยมากมาย ความคิดฟุ้งซ่านประดังประเดเข้ามาในจิตใจ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มถามจากตรงไหน

เหตุใดการทะลุมิติของพวกนางจึงถูกทำนายไว้เมื่อร้อยปีก่อน

ไฉนจู่ๆ จึงมาปรากฏตัวในวังหลวง

เหตุใดจึงบอกว่านางจะคลอดลูกคนนี้ได้อย่างราบรื่น

เต้าหวู๋ซินรับรู้อารมณ์จากก้นบึ้งดวงตาของอวิ๋นหลิง เขาวางมือที่ขาวเนียนไร้ที่ติราวกับหยกมันแพะบนไหล่ของนางเบาๆ

“ไม่ต้องกลัว ถึงเด็กจะดูดซับพลังจิตตอนจะคลอด แต่เจ้าจะไม่เป็นไร”

น้ำเสียงของเขาอ่อนโยนเหลือแสน นัยน์ตาซ่อนอารมณ์ที่ต่างออกไปซึ่งอวิ๋นหลิงไม่อาจเข้าใจได้

อวิ๋นหลิงฟังแล้วสะดุ้ง เอ่ยถามโดยไม่รู้ตัว “ท่าน...ท่านเป็นใครกันแน่...”

เขารู้เรื่องพลังจิตได้อย่างไร

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ