หากตั้งชื่อลูกสาวว่า ‘อาจวี๋’ จริงๆ มีหวังอวิ๋นหลิงคงตีเขาตายแน่
โชคดีที่เวลานี้ เด็กหญิงตัวน้อยเบะปากเริ่มร้องไห้งอแง คงเป็นเพราะถูกเสียงโลกภายนอกรบกวน
พระเจ้าหลวงดูลนลาน รีบลูบเบาๆ พลางกล่อม “อาจวี๋เด็กดี อาจวี๋อย่าร้องไห้...”
เด็กหญิงตัวน้อยยิ่งร้องไห้โฮ
เซียวปี้เฉิงสบโอกาสนี้เสริมว่า “เสด็จปู่ ดูเหมือนนางจะไม่ค่อยชอบชื่อนี้”
อาจวี๋เป็นชื่อที่พระเจ้าหลวงอุตส่าห์คิดล่วงหน้ามาตั้งหลายเดือน เขาจึงคิดชื่อดีๆ ไม่ออกไปชั่วขณะ ก่อนเกาผมหงอกขาวโพลนอย่างร้อนใจ
“...เช่นนั้นก็ตั้งชื่อว่าเสี่ยวฟางดีหรือไม่”
สมัยที่พวกเขาเป็นเด็ก หญิงสาวที่งามสะคราญที่สุดในหมู่บ้านจะตั้งชื่อว่าอาฟาง ความหมายก็คือกลิ่นหอม เหมาะกับเอกลักษณ์พิเศษของเด็กหญิงตัวน้อยด้วย
“…”
แล้วมันต่างกับอาจวี๋ตรงไหน
เซียวปี้เฉิงตัดสินใจอย่างรวดเร็ว รีบรับลูกสาวจากมือของพระเจ้าหลวงมาอุ้มไว้ และใช้พลังจิตปลอบขวัญ ก่อนเอ่ย “ในเมื่อเกิดมาพร้อมกลิ่นหอมแปลกๆ ข้าว่าตั้งชื่อเซียงถวนจะดีกว่า จะได้เหมือนกับพี่ชายทั้งสองของนางด้วย เซียงถวนเอ๋อร์ เจ้าฟังพ่อพูดอยู่หรือไม่”
แม้ว่าชื่อนี้จะโพล่งออกมาในชั่วประกายหินเหล็กไฟ แต่ก็ดีกว่า ‘อาจวี๋’ และ ‘เสี่ยวฟาง’ หลายสิบล้านเท่า!
เดิมพระเจ้าหลวงคิดจะแย้งว่าชื่อที่เขาตั้งให้นั้นทั้งเรียบง่ายและมีความนัย แต่ไม่นึกว่าเด็กหญิงตัวน้อยจะขานอ้อแอ้สองทีแล้วก็หยุดร้องไห้ไป มองเซียวปี้เฉิงอย่างอยากรู้อยากเห็นด้วยนัยน์ตางามพิสุทธิ์ที่เปียกชุ่มโชก
ถึงแม้สองพ่อลูกจะ ‘พบกัน’ เป็นครั้งแรก แต่จะว่าไปพวกเขาอยู่ด้วยกันมานานแล้ว
ก่อนที่เสี่ยวเซียงถวนจะลืมตาดูโลก เซียวปี้เฉิงมักจะใช้พลังจิตพูดคุยกับลูก ด้วยเหตุนี้ลูกจึงรู้สึกผูกพันและสบายใจกับพลังนี้เป็นพิเศษ
โม่อ๋องไม่ค่อยชอบชื่อที่พระเจ้าหลวงตั้งให้สักเท่าใด แต่เขาไม่กล้าหักหน้าเสด็จปู่ จึงพูดเอาใจว่า “ดูท่าเซียงถวนเอ๋อร์จะชอบชื่อนี้ ไม่เช่นนั้นจะเป็นลูกสาวของพี่สามได้อย่างไร!”
เยียนอ๋องก็พูดเออออไปสองสามคำ ก่อนหันไปกระซิบกระซาบกับตี้หวู่เหยาอย่างเงียบๆ
“ดูเหมือนเราทั้งคู่จะต้องเตรียมตัวล่วงหน้า ต้องเตรียมชื่อเล่นลูกทั้งเด็กชายเด็กหญิงเพิ่มอีกสักสองสามชื่อ อย่ารอจนลูกเกิดแล้วค่อยคิด ไม่เช่นนั้นจะเปิดโอกาสให้เสด็จปู่ตั้งชื่อเอาได้”
“เจ้าสี่นี่เจ้าพึมพำบ้าบออะไรอยู่ ข้าไม่ได้หูหนวกตาบอดนะ!”
เยียนอ๋องหัวเราะฮ่าๆ แล้วพูดว่า “เสด็จปู่ ท่านหูฝาดไปกระมัง เมื่อครู่ข้าไม่ได้เผยอปากเลย เป็นอวี้เหอที่อยู่ข้างๆ ต่างหากที่พูด”
ทันใดนั้นองค์ชายหกที่ถูกขานชื่อ ใบหน้าพลันบึ้งตึง รีบพูดแก้ “ข้าแค่บอกว่าพี่สามตั้งชื่อเล่นได้ดีทีเดียว!”
พระเจ้าหลวงเห็นว่าไม่มีใครไว้หน้าให้เลย ใบหน้าพลันแดงฉานด้วยความโมโห เคาะกล้องยาสูบที่ว่างเปล่าด้วยความกรุ่นโกรธ
แต่เมื่อเห็นท่าทีว่านอนสอนง่ายของเสี่ยวเซียงถวนเอ๋อร์ เขาก็ยอมรับชื่อเล่นนี้ไปโดยปริยาย
เวลานี้เอง จักรพรรดิจาวเหรินเดินเข้ามาด้วยพระพักตร์แจ่มใส “เสด็จพ่อ เห็นคุยกันครึกครื้นเช่นนี้ กำลังคุยอะไรกันอยู่หรือ”
“กำลังตั้งชื่อว่าเซียงถวนเอ๋อร์!”
“เซียงถวนเอ๋อร์หรือ ชื่อดีไม่เลวเลย”
พระเจ้าหลวงตรัสถามอย่างจริงจัง “เมื่อครู่เจ้าพูดอะไรกับหวู๋ซินไต้ซือ”
ฉับพลันนั้นพระพักตร์ของจักรพรรดิจาวเหรินก็เคร่งเครียด แต่ดวงตาไม่อาจซ่อนความตื่นเต้นไว้ได้ “ข้าเพิ่งถามหวู๋ซินไต้ซือตามลำพังว่าเหตุใดจึงมาช่วยนางหนูหลิงทำคลอดเป็นพิเศษ หวู๋ซินไต้ซือกล่าวว่าลูกศิษย์กำลังเดือดร้อน เขาในฐานะอาจารย์ที่เปรียบเสมือนพ่อคนหนึ่ง ย่อมต้องมาช่วยปกป้องนางหนูหลิง!”
ทันทีที่คำนี้หลุดออกมา นอกจากเซียวปี้เฉิงแล้ว ทุกคนล้วนตกตะลึงไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็รู้สึกซาบซึ้งใจ
พระเจ้าหลวงโพล่งออกมา “ท่านเซียน เขาต้องเป็นท่านเซียนแน่ๆ!”
เขาจำได้ตลอดว่าเป็นท่านเซียนที่มาเข้าฝันอวิ๋นหลิง แคว้นต้าโจวจึงได้แผนภาพการผลิตปืนคาบศิลา และงานฝีมืออย่างการทำดินสอ
มิน่าหวู๋ซินไต้ซือที่ทิ้งคำทำนายไว้เมื่อหลายร้อยปีก่อน ที่ภายนอกดูเด็กเช่นนี้ ที่แท้อีกฝ่ายเป็นเซียนนี่เอง
ดวงตาของเยียนอ๋องเปล่งประกายเลื่อมใส จุปากชมเปาะ “ว้าว อาซ้อสามเป็นเทพธิดาลงมาจุติจริงๆ ภูตหมูป่าที่กลับชาติมาเกิดอย่างพี่สามสามารถแต่งงานกับภรรยาที่เพียบพร้อมเช่นนี้ได้ คงต้องสั่งสมฝึกบำเพ็ญเพียรมาสักสิบชาติกระมัง!”
“…”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
เติมเหรียญอย่างไร...
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...