เต้าหวู๋ซินเป็นคนที่มีความรู้สึกลึกซึ้งยาวนาน หลังจากที่เขาไปอยู่ในโลกหนึ่ง ปกติจะหยุดอยู่ที่แห่งนั้นนานมาก
กระทั่งคนคุ้นเคยคนสุดท้ายเสียชีวิตไป หลังจากที่ไม่มีพันธะใดๆต่อไปแล้ว จึงจะเดินทางไปยังโลกต่อไปเพื่อค้นหาความหวังใหม่
โลกใบนี้แตกต่างกับโลกก่อนหน้านี้ที่เต้าหวู๋ซินเคยไป
ไม่มีราชวงศ์ และไม่มีจักรพรรดิ ผู้คนมีชีวิตอย่างเท่าเทียมกัน
แม้จะเป็นคนธรรมดาที่ไร้พลังอำนาจ แต่กลับสามารถนั่งอยู่กับที่และเดินทางไปได้ไกลหมื่นลี้ คุยกันต่อหน้าแม้จะห่างกันเป็นพันลี้
พวกเขาไม่มีพลังจิต กลับสามารถบินอยู่บนท้องฟ้า กระทั่งขึ้นไปบนดวงจันทร์
ในเมืองเหล็กกล้าที่เต็มไปด้วยตึกสูง เป็นครั้งแรกที่เต้าหวู๋ซินรู้สึกเกิดความสนใจอย่างมากต่อโลกแห่งนั้น
เพื่อทำความเข้าใจในสิ่งที่เรียกว่า”วิทยาศาสตร์” เขาตัดสินใจจะหยุดใช้ชีวิตที่นี่
แต่บางทีอาจเป็นเพราะความเคยชินในการใช้ชีวิตแตกต่างจากคนที่นี่อย่างสิ้นเชิง ไม่ว่าเขาจะระวังตัวมากแค่ไหน สุดท้ายก็ถูกคนฉลาดสังเกตเห็นความผิดปกติจนได้
“ผู้ชายคนนั้นชื่อว่าฉีไหวเซิง เขาเป็น เขาเป็นอัจฉริยะที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในวงการแพทย์ในขณะนั้น ก่อตั้งสมาคมทางการแพทย์ที่เรียกว่ามอยเร”
อวิ๋นหลิงไม่ได้รู้สึกไม่คุ้นเคยกับชื่อ”ฉีไหวเซิง”
หรือจะพูดว่าในยุคปัจจุบันซึ่งเป็นศตวรรษที่ยี่สิบสาม ไม่มีใครไม่รู้จักชื่อของเขา นั่นเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลที่ถูกเขียนเอาไว้ในตำราทางการแพทย์
ไม่เพียงแต่มีอายุสามสิบปี ก็ก่อตั้งสมาคมทางการแพทย์แล้ว และยังเป็นตัวตายตัวแทนขององค์กรผิดกฎหมาย
“เขาเคยบอกว่ามอยเรเป็นเทพีแห่งโชคชะตาในตำนานของกรีซ แม้แต่ซุสซึ่งเป็นบิดาแห่งสรรค์ก็ไม่สามารถฝ่าฝืนการกำหนดโชคชะตาของนางได้ และชาวกรีซต่างก็คิดว่าทุกคนล้วนมีเทพีแห่งโชคชะตาของตนเอง ด้วยเหตุนี้เขาจึงหวังว่าคนไข้ทุกคนจะสามารถกำหนดโชคชะตาชีวิตของตัวเอง เอาชนะโรคภัยได้”
“ในบ้านเกิดของข้า มีความเชื่อในเหตุผลที่ว่า‘ชีวิตข้าข้ากำหนดเอง’เหมือนกัน ดังนั้นพวกเราต่างก็ชื่นชมซึ่งกันและกัน จนกลายเป็นเพื่อนสนิท”
“ไม่ช้า เขาก็สังเกตเห็นความผิดปกติของข้า สังเกตเห็นพลังพิเศษของข้า และได้รับรู้ประวัติของข้า รู้สึกอัศจรรย์ใจที่โลกใบนี้มีสิ่งที่เรียกว่า‘รากเหง้าแห่งจิตวิญญาณ’อยู่จริง”
“ฉีไหวเซิงอยากจะรู้มากว่า สิ่งที่เรียกว่า‘รากเหง้าแห่งจิตวิญญาณ’อยู่ในส่วนไหนของร่างกายมนุษย์ จึงได้เชิญข้าเข้าร่วมกับมอยเรเพื่อทำการวิจัยทางการแพทย์”
“เริ่มจากการแลกเปลี่ยน เขาจะใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ล้ำสมัยที่สุด ช่วยข้าแก้ไขปัญหาเรื่องที่ไม่สามารถมีทายาทได้”
เต้าหวู๋ซินตอบตกลง
ในวันเวลาที่ยาวนาน เขาพเนจรมานานมากเกินไปแล้ว เหนื่อยมากเกินไปแล้ว เขาต้องการที่พักพิงสักแห่งให้จิตวิญญาณได้หยุดพัก
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เขาร่วมมือกับฉีไหวเซิงในการสืบค้นความลับ‘รากเหง้าแห่งจิตวิญญาณ’ ฉีไหวเซิงช่วยเขาค้นคว้าวิจัยปัญหาการสืบพันธุ์
【......น่าสนใจมาก ในร่างกายของคุณไม่ได้มีอวัยวะอะไรเพิ่มขึ้น แล้วรากเหง้าแห่งจิตวิญญาณอยู่ที่ไหน】
【อีกอย่าง คุณบอกว่าจิตวิญญาณของคุณติดอยู่ในร่างของคนบนโลกใบนี้ ทำไมตัวชี้วัดต่างๆของร่างกายนี้กลับเปลี่ยนแปลงไป ไม่มีวิญญาณที่แท้จริง กลับสามารถกระทบร่างกายที่มีอยู่จริง อืม...... คนโบราณมักจะกล่าวว่าสิ่งทั้งหลายเกิดจากจิต ไม่แน่ว่าจะซ่อนปรัชญาเทววิทยาเอาไว้】
【ผมได้ทดลองใช้อสุจิของคุณผสมกับเซลล์ไข่ ทำการปฏิสนธิในหลอดทดลอง น่าเสียดายมากที่ล้มเหลว......เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นอสุจิที่มีความแข็งแรงจนสามารถฆ่าเซลล์ไข่ให้ตายได้ ช่างเป็นเรื่องเหลือเชื่อจริงๆ ถ้าหากเผยแพร่เรื่องนี้ออกไป วงการแพทย์ทั่วโลกต้องสะเทือนแน่】
【แต่อย่าเพิ่งท้อใจ การแพทย์กำลังก้าวหน้า ตอนนี้การโคลนไม่ใช่เรื่องที่พบเห็นได้ยากอีกต่อไปแล้ว รอให้ผมทำการวิจัยคัพภวิทยาและพันธุศาสตร์พัฒนาการอย่างต่อเนื่อง ต้องมีวิธีการแน่ๆ...... 】
【หาเจอแล้ว หาเจอแล้ว ที่แท้สิ่งที่เรียกว่า‘รากเหง้าแห่งจิตวิญญาณ’ซ่อนอยู่ในสมอง ......ระดับการพัฒนาสมองของมนุษย์ทั่วไปอยู่ที่ร้อยละสิบเท่านั้น เป็นอย่างนี้นี่เอง ต้นกำเนิดของพลังแห่งจิตวิญญาณอยู่ที่สมอง......วิทยาศาสตร์กับเทววิทยาเป็นเรื่องเชื่อมโยงกัน...... 】
【คุณคิดว่า ถ้าหากวันหนึ่งสมองของมนุษย์สามารถพัฒนาจนเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ จะเป็นยังไง】
ฉีไหวเซิงเป็นอัจฉริยะคนหนึ่ง
อัจฉริยะกับคนบ้า มีเส้นบางๆกั้นอยู่เสมอมา
การศึกษาวิจัยร่างกายและสมองมนุษย์ทำให้เขาหมกมุ่นคลั่งไคล้ การปรากฏตัวของเต้าหวู๋ซินทำให้เขาตื่นเต้นอย่างหยุดยั้งไม่ได้
เพื่อสืบค้นหาคำตอบที่ไม่รู้ เขายอมละทิ้งสิ่งต่างๆมากมาย ทั้งสติปัญญา กระทั่งความเป็นคน
ตอนที่พวกนางเกิดมา ก็มีผู้ที่มีพลังจิตจากการพัฒนาของคนอยู่เป็นจำนวนมากแล้ว แม้ว่าระหว่างการทดลองจะมีเปอร์เซ็นต์การตายสูงมาก แต่ก็ต้านทานคนที่กระโจนเข้ามาอย่างไม่ขาดสายไม่ได้
“อืม เป็นข้าที่ประมาทเกินไป ไม่เคยคิดว่าในมือของฉีไหวเซิงจะยังมีเลือดของข้าอยู่หนึ่งขวด”
ที่สุดแล้วเต้าหวู๋ซินก็รู้จักกับโลกใบนั้นไม่มากพอ ทิ้งภัยแอบแฝงเอาไว้
ฉีไหวเซิงเป็นอัจฉริยะ เขายังมีชีวิตอยู่ ในมือยังมีเลือดของเต้าหวู๋ซินอีกด้วย การวิจัยทุกอย่างจึงหวนกลับมาอีกครั้ง
หลังจากที่เต้าหวู๋ซินหายตัวไป โครงการรากเหง้าแห่งจิตวิญญาณถูกระงับ เขาทำการประกาศอย่างเป็นทางการว่าพลังเช่นนี้มีชื่อว่า พลังจิต
หลงเย่ขมวดคิ้วเล็กน้อย เอ่ยเสียงเบาว่า “พวกเราแตกต่างกับคนพวกนั้น......เพราะใช้เลือดของท่านอย่างนั้นหรือ”
“ถูกต้อง แม้ว่าข้าจะจากโลกนั้นมาแล้ว แต่เพื่อป้องกันสิ่งที่ไม่คาดคิด จึงทิ้งจิตสำนึกที่สามารถดำรงอยู่ได้เป็นร้อยปีเอาไว้ สามารถรับรู้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นั่น”
“หลังจากที่ฉีไหวเซิงตาย คนอื่นๆในองค์กรมอยเรก็รับช่วงต่อในการวิจัยพลังจิต แต่ไม่ช้าพวกเขาก็พบว่า แม้ว่ารากเหง้าแห่งจิตวิญญาณเทียมจะสามารถปรับปรุงสมรรถภาพของร่างกายให้สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่ก็ไม่มีความสามารถที่จะควบคุมช่องว่างและกาลเวลาเหมือนข้าได้”
หลิวฉิงเอามือกอดอก เอ่ยต่อด้วยสีหน้าเย็นชาว่า “พวกเขาอยากจะได้รับพลังที่แท้จริง ดังนั้นจึงได้ใช้เลือดขวดนั้นของท่าน และให้กำเนิดพวกเรา”
เต้าหวู๋ซินพยักหน้าช้าๆ
อวิ๋นหลิงเข้าใจในทันที ถึงว่าพวกนางนอกจากจะมีพลังจิตแล้ว ต่างก็มีพลังพิเศษอื่นๆที่แตกต่างกันไป เข้ากับคนอื่นไม่ได้เลย......
เสวียนจีย่นจมูก แต่ดวงตากลับแดงก่ำ จู่ๆก็ร้องไห้เสียงดังออกมา
“ฮือๆๆ ข้าคิดมาตลอดว่าตัวเองเป็นเด็กที่ถูกพ่อแม่ทอดทิ้ง......ที่แท้ข้าไม่มีพ่อแม่ ไม่มีอะไรเลย......”
นางเป็นแค่สิ่งทดลอง สิ่งทดลองที่กำเนิดจากการทดลองที่ไม่ได้รับการเคารพยกย่อง
นี่เป็นความจริงที่โหดร้ายยิ่งกว่าการถูกทอดทั้ง

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
ทำไมซื้อตอนไม่ได้คะ...
เติมเหรียญอย่างไร...
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......