มองดูเต้าหวู๋ซินที่นั่งอยู่ข้างหน้า อวิ๋นหลิงหัวใจสั่นไหว ยากจะสงบลงได้
ที่แท้นี่ต่างหากที่เป็นเบื้องหลังแท้จริงที่พวกนางทะลุมิติมา
นางกัดริมฝีปากเบาๆ “ไม่ว่าอย่างไร ท่านเป็นคนให้ชีวิตพวกเราถึงสองครั้งและพลังที่ไม่ธรรมดา ให้พวกเรามีทุกสิ่งทุกอย่างในตอนนี้......พวกเราจะจดจำภารกิจที่ท่านมอบหมายให้ขึ้นใจ”
แม้จะรู้จักกับเต้าหวู๋ซินแค่ช่วงเวลาสั้นๆ แต่ตัวเขาแฝงไปด้วยความอบอุ่นและเป็นกันเองอย่างที่ไม่มีใครปฏิเสธได้
ความรู้สึกรุนแรงเช่นนี้ นอกจากผลของสายเลือดแล้ว น่าจะมีสาเหตุมาจากการสืบทอดพลัง
หลงเย่พยักหน้าอย่างเห็นด้วย แล้วถามขึ้นว่า “ก่อนหน้านี้ทำไมท่านต้องรอให้พวกเรารวมตัวกันก่อนจึงจะปรากฏตัว”
“ที่ไม่ปรากฏตัว เพราะข้ากำลังทำการทดสอบและสังเกตพวกเจ้าแต่ละคน ตอนนี้เห็นแล้วว่าพวกเจ้าทำได้ดีมาก”
แม้เขาจะไม่ปรากฏตัว แต่ลูกๆทำอะไรอยู่ เขารู้ทุกอย่าง
เพราะเป็นพ่อคน ย่อมต้องให้ลูกๆได้มีโอกาสพัฒนาตนเอง
เสวียนจีอดไม่ได้ที่จะโผเข้าไปเกาะขาของเต้าหวู๋ซิน เงยหน้าเล็กๆมองเขาตาปริบๆ
“เช่นนั้นข้าก็มีพ่อแล้วใช่ไหม ท่านจะอยู่บนโลกนี้ อยู่กับพวกเราตลอดไปใช่หรือไม่”
สายตาของเต้าหวู๋ซินแฝงรอยยิ้มขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว พยักหน้าอย่างอบอุ่น “แน่นอน โลกใบนี้เป็นบ้านของข้า และเป็นบ้านของพวกเจ้าด้วย”
เสวียนจีได้ยินถึงตรงนี้ ก็ดีใจจนกระโดดโลดเต้นขึ้นมา
แม้ว่าจะเหลือเชื่อมากก็ตาม แต่นางมีพ่อแล้วจริงๆ
มีพ่อที่ทั้งอายุน้อยหน้าตาหล่อเหลา ร้ายกาจราวกับเทพด้วย
เซียวปี้เฉิงได้ยินถึงตรงนี้ กลับอดไม่ได้ที่จะเอียงคอมองเขา
“ท่านเซียน เมื่อครู่ท่านบอกว่า......ตอนนี้บ้านเกิดของท่านไม่ได้ล่มสลาย ยังคงเป็นเหมือนดังกับโลกในตอนนี้ คำพูดประโยคนี้หมายความว่าไง”
เต้าหวู๋ซินเอ่ยอธิบายขึ้นมาช้าๆว่า “อวิ๋นหลิงน่าจะเคยเล่าเรื่องเกี่ยวกับทฤษฎีจักรวาลคู่ขนานให้พวกเจ้าฟังแล้วกระมัง โลกใบนี้ ก็คือมิติคู่ขนานของบ้านเกิดข้า”
บ้านเกิดที่แท้จริงของเขาได้ล่มสลายไปในสงครามตั้งนานแล้ว แต่โลกใบนี้ อยู่ในสภาพที่ไม่ได้ถูกทำลายหลังจากเกิดสงคราม
หลังจากที่ออกมาจากศตวรรษที่ยี่สิบสามด้วยความผิดหวัง เต้าหวู๋ซินมาถึงโลกใบนี้
ต้องรู้ว่าจักรวาลนั้นไร้ที่สิ้นสุด มีมิติเวลาอยู่นับไม่ถ้วน เขาสามารถมาถึงโลกขนานของบ้านเกิดแห่งนี้โดยไม่ตั้งใจ เป็นโชคชะตาที่ยากจะจินตนาการถึงได้
เกี่ยวกับทฤษฎีโลกคู่ขนาน ที่จริงกู้ฉางเซินไม่เคยได้ยินมาก่อน น้อยมากที่หลิวฉิงจะพูดถึงเรื่องพวกนี้
แต่เขาก็เป็นคนฉลาดมาก ขอเพียงใช้ความคิดอีกสักนิด ก็เข้าใจความหมายของเต้าหวู๋ซินแล้ว
กู้ฉางเซินเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่แฝงแววประหลาดใจว่า “ท่านเซียน ขอถามได้หรือไม่ว่าบ้านเกิดของท่านเป็นอย่างไร”
“นรกบนดิน ผู้แข็งแกร่งเป็นใหญ่ ประชาชนอ่อนแอเหมือนมด”
เต้าหวู๋ซินเอ่ยเสียงขรึม
“ในโลกใบนั้น เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งจิตวิญญาณ ทุกสรรพสิ่งบนโลกล้วนสามารถบำเพ็ญเพียร ต้นไม้ใบหญ้ากลายเป็นปีศาจ สัตว์ประหลาดเพ่นพ่าน แม้แต่หวีหนึ่งอันก็อาจจะแปลงร่างเป็นปีศาจได้ แม้จะมีผู้มีเมตตาช่วยเหลือผู้คน แต่ก็จนใจต่อความโง่เขลาของผู้คน จึงถูกทำลายจนสูญสิ้น”
สำหรับการล่มสลายของบ้านเกิด ดวงตาของเต้าหวู๋ซินมีแววโศกเศร้าอยู่บ้าง
อวิ๋นหลิงคิดในใจ ผู้มีเมตตาที่ว่านั้น เต้าหวู๋ซินก็คงจะเป็นหนึ่งในนั้นกระมัง
เขาสามารถเป็นผู้โชคดีที่รอดชีวิต ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นการตอบแทนจากสวรรค์
“ในโลกใบนี้ หลังจากผ่านสงครามทุกหนแห่งแม้จะไม่ล่มสลาย แต่พลังแห่งจิตวิญญาณก็เบาบางลงเรื่อยๆ ไม่เพียงพอที่จะให้สรรพสิ่งบำเพ็ญเพียร และค่อยๆถูกคนทั่วไปครอบงำ”
“เพียงแต่อาจจะมีพืชแห่งจิตวิญญาณที่เขียวขจีปรากฏขึ้นมาบ้างเป็นบางครั้ง หรือไม่ก็มีสัตว์ที่สามารถเข้าใจมนุษย์ได้ ในสวนสัตว์ที่พวกเจ้าสร้างขึ้นมาก็มีสัตว์เทพทั้งสี่เป็นตัวอย่าง ถ้าหากไปอยู่ในสมัยดึกดำบรรพ์ คิดว่าก็คงจะเป็นสัตว์ประหลาดตัวใหญ่ที่ทำให้ผู้คนตื่นกลัวเช่นกัน”
คำพูดนี้เข้าใจได้ง่ายมาก
อวิ๋นหลิงนึกถึงตนเองที่ใช้พลังจิตเร่งให้สมุนไพรเติบโต ตอนนั้นนางก็รู้สึกมึนงง ในโลกโบราณนี้ก็มีสิ่งที่น่าสนใจอยู่
มีสมุนไพรที่มีสรรพคุณน่าตกตะลึงมากมาย ล้วนเป็นสิ่งที่โลกปัจจุบันในศตวรรษที่ยี่สิบสามไม่มี
เขาเอ่ยปากพูดว่า “เจ้าเกิดมาก็มีพิษเย็น ยังสามารถทำให้สำนักทิงเสวี่ยเจริญรุ่งเรืองได้ถึงเพียงนี้ ภายใต้ความทรมานจากความเจ็บปวด นี่ไม่ใช่เรื่องที่คนธรรมดาทั่วไปจะสามารถทำได้”
แม้ว่าปกติแล้วกงจื่อโยวมักจะแสดงท่าทีเหมือนคนหล่อแต่โง่ แต่คนที่สามารถนั่งในตำแหน่งได้อย่างมั่นคง จะเป็นคนที่มีบทบาทที่ไม่ได้รับความสนใจได้อย่างไร
กงจื่อโยวถูกชมจนรู้สึกดีใจ เขาชื่นชมกลับอย่างปากหวานว่า “น้องเขยรองชมกันเกินไปแล้ว จะว่าไป ท่านต่างหากที่เป็นคนร้ายกาจกว่าข้า”
ความทุกข์ที่กู้ฉางเซินได้รับไม่น้อยไปกว่าเขาเลย อีกทั้งยังต้องช่วยเหลือแคว้นเป่ยฉิน
เต้าหวู๋ซินหัวเราะเสียงต่ำ ไม่ได้พูดมากอะไร
วันนี้ผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขาเหล่านี้ ล้วนเป็นคนแห่งโชคชะตาที่สามารถใช้ความสามารถของตนเองส่งอิทธิพลต่อชะตากรรมของราชวงศ์
คนแห่งโชคชะตาอย่างพวกเขา ส่วนใหญ่จะเป็นเหมือนเซียวปี้เฉิง ในร่างกายมีรากเหง้าแห่งจิตวิญญาณที่หลับใหลไม่ตื่นอยู่
หากเปลี่ยนเป็นคนทั่วไป คนหนึ่งก็มีพิษเย็นในร่างกายตั้งแต่ออกมาจากครรภ์มารดา คนหนึ่งก็มีหนอนพิษกู่ประหลาดมากมายในร่างกาย ไม่มีทางมีชีวิตรอดมาจนถึงตอนนี้
ที่พวกเขาสามารถยืนหยัดมาจนถึงตอนนี้ได้ และได้รับการรักษาจากอวิ๋นหลิงจนหายดี ไม่ใช่เพราะมีพลังนี้หรอกหรือ
แต่ว่า การปลุกพลังให้ความสำคัญกับจุดหัวเลี้ยวหัวต่อและสภาพร่างกาย
ร่างกายของพวกเขาเคยขาดสมดุลถึงเพียงนั้น ถ้าอยากจะปลุกพลังขึ้นมา ความหวังช่างริบหรี่จริงๆ
เวลานี้เอง อวิ๋นหลิงเหมือนจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ “ใช่แล้ว......เอ่อ คือว่า......”
ชั่วขณะนั้นนางไม่รู้ว่าควรจะเรียกเต้าหวู๋ซินว่าอะไร
เต้าหวู๋ซินเหมือนจะเข้าใจในความกังวลของนาง เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ข้าบอกกับคนภายนอกว่าพวกเจ้าคือลูกศิษย์ของข้า ดังนั้นเรียกข้าว่าอาจารย์ก็พอ”
อาจารย์ก็คือพ่อ เป็นอาจารย์หนึ่งวัน นับถือเหมือนพ่อตลอดชีวิต
อวิ๋นหลิงกระแอมเบาๆ พยักหน้าก่อนจะพูดว่า “อาจารย์ ท่านรู้หรือไม่ว่าเซียงถวนมีพลังอะไร”
นางรู้สึกว่าความสามารถของลูกสาวเหมือนจะไม่ธรรมดา

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
ทำไมซื้อตอนไม่ได้คะ...
เติมเหรียญอย่างไร...
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......