เข้าสู่ระบบผ่าน

พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 855

สายตาของเต้าหวู๋ซินอ่อนโยนลง เอ่ยด้วยน้ำเสียงอบอุ่นว่า “เด็กคนนี้มีพรสวรรค์ไม่ธรรมดา เกิดมาก็มีพลังที่สามารถรักษาสรรพสิ่งได้ เป็นความสามารถที่หาได้ยากยิ่ง หากได้รับฝึกฝนชี้แนะ ภายหน้าสามารถไปถึงขั้นฟื้นชีพคนตายได้”

เมื่อพูดจบ ในห้องมีก็เสียงสูดลมหายใจเข้าอย่างแรงด้วยความตกตะลึง

กงจื่อโยวคิดถึงเรื่องประหลาดเมื่อเช้า ถอนหายใจก่อนจะเอ่ยว่า “ถึงว่าทำไมเมื่อเช้าดอกไม้ในสวนหลวงจึงได้เบ่งบานสวยงามนัก”

กลางดึกเมื่อวานยังได้ยันนางกำนัลต่างถอนหายใจอย่างเสียดาย บอกว่าดอกไม้ที่ปลูกในสวนหลวงช่างน่าสงสารเหลือเกิน ถูกฝนที่กระหน่ำตกลงมาทำให้กระจัดกระจายไปหมด แม้แต่กิ่งก้านของดอกไม้ก็หักงอ

ตื่นมาตอนเช้า กลับเห็นภาพดอกไม้บานสะพรั่งเต็มไปหมด มีชีวิตชีวากว่าช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน

เสวียนจีเอ่ยอย่างตื่นเต้นยินดีว่า “เจ้าตัวเล็กร้ายกาจขนาดนั้นเชียว ไม่เสียแรงที่เป็นลูกของพี่สาม มีความสามารถโดดเด่นกว่าจริงๆ”

เห็นได้ชัดว่า ความสามารถของเซียวถวนได้รับการถ่ายทอดมาจากมารดา

พลังจิตของอวิ๋นหลิงสร้างความสามารถใหม่ในการเร่งการเจริญเติบโตของพืช พูดตามตรงมันไม่เป็นอันตรายอะไรเลย เป็นแค่ความสามารถที่ใช้ช่วยเหลือเท่านั้น เมื่อก่อนตอนที่อยู่ในองค์กรก็มีตำแหน่งเป็นผู้รักษาพยาบาล

แต่นางคิดไม่ถึงเลยว่า การฝึกฝนความสามารถนี้ให้ไปถึงจุดสูงสุด จะสามารถแข็งแกร่งจนน่าตกใจเช่นนี้

อวิ๋นหลิงอดไม่ได้ที่จะลูบท้องตัวเอง หลังจากที่นางคลอดลูกเสร็จก็สามารถใช้ชีวิตเหมือนคนปกติได้ทันที น่าจะเป็นเพราะได้รับผลกระทบจากเซียงถวน

เต้าหวู๋ซินยิ้มบางๆ ไม่ได้บอกพวกนาง ถ้าอยู่ในยุคโบราณที่มีพลังแห่งจิตวิญญาณหนาแน่น ความสามารถของเซียงถวนหากฝึกฝนไปถึงจุดสูงสุด การฟื้นคืนชีพคนตายเป็นแค่เรื่องง่ายเหมือนดีดนิ้วเท่านั้น กระทั่งยังสามารถเสริมสร้างวิญญาณที่ได้รับความเสียหายได้

พรสวรรค์ที่ยากจะพบเห็นเช่นนี้ ย่อมหนีไม่พ้นที่นางมีพ่อแม่ที่มีความสามารถไม่ธรรมดา

รากเหง้าแห่งจิตวิญญาณของฮั่วถวนกับเสวี่ยถวนก็บริสุทธิ์มาก เพียงแต่ตอนที่พวกเขาอยู่ในครรภ์ พลังของเซียวปี้เฉิงยังไม่ได้ถูกปลุกให้ตื่น ดังนั้นความสามารถของเซียงถวนจึงดีกว่า

เซียวปี้เฉิงสีหน้าหวั่นไหวเล็กน้อย เรียบเรียงถ้อยคำอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยถามว่า “ใช่แล้วท่านอาจารย์ ท่านเคยบอกว่ายิ่งคนที่มีพลังจิตแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ก็ยิ่งมีทายาทได้ยาก เป็นอย่างนั้นใช่หรือไม่”

เต้าหวู๋ซินรู้ว่าเขาอยากจะถามอะไร พยักหน้าพูดว่า “สรรพสิ่งมีกฎเกณฑ์ในการแพร่พันธุ์ของตนเอง ยิ่งพลังของพวกเจ้าแข็งแกร่งมากขึ้นเท่าไหร่ หลังจากนี้ก็จะมีทายาทได้ยากมากขึ้นเท่านั้น”

อวิ๋นหลิงสามารถตั้งครรภ์เซียงถวน เป็นเรื่องโชคดีที่ได้มาไม่ง่ายเลย

เซียวปีเฉิงได้ยินก็พยักหน้า “หลิงเอ๋อร์ตั้งครรภ์ลำบากมาก พวกเรามีลูกสามคนนี้ก็พอใจมากแล้ว”

เขาพอจะเดาถึงบทสรุปนี้ได้ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจมากนัก เพราะการมีลูกสาวก็ต้องพึ่งโชควาสนาเช่นเดียวกัน อวิ๋นหลิงลำบากน้อยลงก็ดี

กงจื่อโยวได้ยินถึงตรงนี้ กลับไม่มีความรู้สึกอิจฉาคนที่มีพลังจิตเหมือนเมื่อครู่แล้ว เขายังอยากมีลูกกับหลงเย่อีกหลายคนเลย

กู้ฉางเซินอดไม่ได้ที่จะเหลือบไปมองหลิวฉิงแวบหนึ่ง นางหลุบตาลงไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

“เอาล่ะ สิ่งที่ควรพูดก็พูดหมดแล้ว ข้าจะอยู่ในเมืองหลวงของแคว้นต้าโจวสองสามวัน จากนั้นยังมีเรื่องสำคัญที่ต้องจากไปอีกสักพัก”

เต้าหวู๋ซินเอ่ยกำชับด้วยสีหน้าจริงจัง “พวกเจ้าต่างก็มีพลังที่ไม่ธรรมดา จำไว้ให้ดีว่าต้องทำความดีให้มาก อย่าได้ใช้พลังรังแกคนอ่อนแออย่างเด็ดขาด มิเช่นนั้นข้าจะไม่นิ่งดูดายแน่”

น้ำเสียงของเขามีแฝงความเข้มงวดอย่างหากได้ยาก พวกอวิ๋นหลิงต่างก็พยักหน้าอย่างเชื่อฟัง “อาจารย์โปรดวางใจ พวกเราจะจำให้ขึ้นใจ”

สายตาของเต้าหวู๋ซินจึงมีแววดีใจผุดขึ้นมา

เสวียนจีรู้สึกเสียดายอยู่บ้าง นางเพิ่งจะรู้จักกับคนเป็นพ่อ ยังไม่ทันได้ออดอ้อน ทำไมเขาจึงรีบร้อนจะไปอีกแล้ว

“เรื่องอะไรทำไมต้องรีบร้อนไป แล้วท่านจะกลับมาเมื่อไหร่”

“ไปไม่นานมาก”

เต้าหวู๋ซินตบศีรษะของเสวียนจีเบาๆ กลับไม่ได้ตอบคำถามของนางโดยตรง ได้แต่มองนางด้วยท่ามีเหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้ม

ทางด้านตะวันออกที่แสนไกล ยังมีคนคนหนึ่งที่ตกอยู่ในห้วงความทุกข์แห่งรัก รอให้เขาไปชี้แนะ

เสวียนจีเห็นเขาไม่ตอบ และรู้ว่าตัวเองถามไปก็คงไม่ได้อะไร จึงเปลี่ยนหัวข้อสนทนา

กู้ฉางเซินได้ยินเช่นนั้นก็มีสีหน้าประหลาดใจ เอ่ยย้ำว่า “......ลืมไป”

“ขอโทษด้วย ช่วงที่แต่งงานกันมีงานยุ่งมากจนเวียนหัวไปหมด ไม่ทันได้สนใจเรื่องพวกนี้”

ใบหน้าของหลิวฉิงยากมากที่จะเผยแววไม่เป็นธรรมชาติออกมา แอบมองกู้ฉางเซินแวบหนึ่งอย่างรู้สึกผิดเล็กน้อย

ตอนที่นางยากจนข้นแค้น แต่งงานสายฟ้าแลบกับกู้ฉางเซินทั้งที่เต็มไปด้วยหนี้สิน แม้แต่งานเลี้ยงก็ไม่ได้จัด ปรากฏว่าหลังจากแต่งงานเพียงสามวันก็ต้องวิ่งออกไปข้างนอกเป็นเวลาหนึ่งเดือน เพราะเรื่องของท่านปู่งูเหลือม หลังจากกลับมาก็ยุ่งอยู่กับเรื่องการเปิดสวนสัตว์ ปล่อยอีกฝ่ายให้อยู่ในบ้านอย่างเย็นชา

จู่ๆนางก็รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นหญิงสารเลว

กู้ฉางเซินนิ่งเงียบไปชั่วขณะ จู่ๆก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร

ในสามวันแรกของการแต่งงาน พวกเขาสองคนได้แต่ห่มผ้าและนอนหลับไปเท่านั้น แม้แต่โอกาสในการพูดคุยกันยังมีน้อย ทุกครั้งที่หลิวฉิงกลับมาจากสวนสัตว์ ก็เหนื่อยจนหลับสนิท

กู้ฉางเฉินเป็นอ่อนโยนและเก็บอาการมาแต่ไหนแต่ไร ย่อมไม่มีทางทรมานนางในยามค่ำคืนแน่นอน

หลังจากนั้นหลิวฉิงก็ออกจากบ้านเป็นเวลาหนึ่งเดือน กลับมาแล้วก็ยุ่งกับเรื่องของสวนสัตว์จนถึงตอนนี้ ยากมากที่ช่วงนี้การเปิดสวนสัตว์จะราบรื่น ทุกอย่างเข้าสู่ขั้นตอนที่ถูกต้อง ในที่สุดก็มีเวลาว่าง แต่ก็ไม่เคยแสดงเจตนาทางด้านนั้นออกมาให้เห็นเลย

กู้ฉางเซินอดไม่ได้ที่จะคิดมาก แม่นางซื่อบื้อคนนี้คงไม่ได้รู้สึกว่าแต่งงานกันเร็วเกินไป ทั้งสองคนยังไม่พัฒนาถึงขั้นจะสามารถทำเรื่องเช่นนั้นได้

เขามีความอดทนพอ รอมาตั้งนานแล้ว ย่อมไม่รีบร้อนในตอนนี้ และไม่เคยเอ่ยปากพูดขึ้นมาเอง แค่ให้นางคุ้นเคยกันและกันไปก่อน

แต่ตอนนี้กลับบอกเขาว่า สาเหตุที่หลิวฉิงไม่เอ่ยถึงเรื่องเข้าหอเพียงเพราะลืมไปเท่านั้นเอง

อวิ๋นหลิงได้ยินสิ่งที่หลิวฉิงพูด โจ๊กที่อยู่ในปากเกือบจะพุ่งออกมา ยกนิ้วโป้งให้กับนาง

ไม่รู้จะพูดอะไร ก็อวยพรอยู่ในใจแล้วกัน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ