เสวียนจีที่ตรงไปตรงมา เอ่ยอย่างประหลาดใจว่า “อะไรนะ เรื่องอย่างนี้ก็ลืมได้อย่างนั้นหรือ พวกท่านคงไม่ได้ยังหยุดอยู่แค่ขั้นจับมือกัน จูบกันแค่นั้นใช่ไหม”
น่าเสียดาย นางพูดตรงกับความจริงแค่ครึ่งเดียว
เห็นทั้งสองคนต่างก็เงียบกริบไม่พูด เสวียนจีก็ยิ่งฮึกเหิม “พวกท่านแต่งงานกันทำไม หรือว่าเป็นเพราะต้องการจะมีทะเบียนบ้านในแคว้นต้าโจวเพื่อจะได้ซื้อบ้านในราคาถูกและไม่ต้องจ่ายภาษีใช่หรือไม่ คงไม่ได้อยากเล่นเกมแต่งก่อนเดี๋ยวก็รักกันเองอะไรเทือกนั้นใช่ไหม”
นางยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าน่าจะเป็นข้อแรกมากกว่า
ตอนที่หลิงฉิงแต่งงานเสวียนจีไม่อยู่ในแคว้นต้าโจว ตอนที่นางเพิ่งมาถึงจวนอ๋องจิน ได้รับรู้เรื่องนี้จากปากของสองสามีภรรยาหลงเย่ ก็รู้สึกตกตะลึงมาก
เพราะนายท่านหลีว์ไม่ใช่ผู้หญิงที่ใฝ่ฝันถึงความรักและการแต่งงานมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ที่เอ่ยถึงเรื่องแต่งงานขึ้นมาด้วยตนเอง แปดในสิบส่วนน่าจะมีเหตุผลอื่น
หลิวฉิงสีหน้าเหลืออด ใช้สายตาเย็นชาเตือนนาง “เด็กดื้อที่โสดมาตั้งแต่อยู่ในท้องแม่มายุ่งอะไรด้วย สละโสดเมื่อไหร่ค่อยมายุ่งเรื่องของคนอื่น”
เสวียนจีเบะปากก่อนจะพูดว่า “ข้ายังเด็ก ไม่มีความรักก่อนวัยอันควร ความรักจะกระทบต่อผลการเรียน”
เมื่อนับรวมแล้ว นางเพิ่งจะอายุสิบเจ็ดปีเท่านั้น ควรจะทุ่มเทความสนใจทั้งหมดไปที่การวิจัยระเบิด สร้างประโยชน์ให้กับประเทศชาติ
กงจื่อโยวเอ่ยเตือนขึ้นมาด้วยความหวังดี เกลี้ยกล่อมนางราวกับเป็นป้าแก่ๆคนหนึ่ง “เจ้าอายุไม่น้อยแล้ว ตอนที่พระชายารุ่ยอ๋องอายุเท่ากับเจ้า ก็เป็นแม่คนแล้ว เจ้าควรจะเลิกเล่นได้แล้ว ใส่ใจเรื่องใหญ่ในชีวิตบ้าง ในสำนักศึกษาชิงอี้มีผู้ชายดีๆตั้งมากมาย ถ้าหากเจ้าชื่นชอบใคร ก็ให้ฉางเซินช่วยเชื่อมสัมพันธ์ให้กับเจ้า ตอนนี้เขาเป็นถึงหัวหน้าสำนักศึกษาแล้ว พวกเราย่อมได้เปรียบเพราะมีคนที่อยู่ในตำแหน่งสูงเช่นนี้”
“ข้าไม่อยากมีความรักไม่อยากแต่งงาน ข้าจะช่วยโลก ทำภารกิจที่ท่านพ่อหวู๋ซินมอบให้ข้าให้สำเร็จ”
เสวียนจีพูดด้วยอารมณ์ที่เต็มไปด้วยความฮึกเหิม ในสายตามีแววคึกคะนอง
อวิ๋นหลิงอดไม่ได้ที่จะฟาดฝ่ามือลงไปที่หน้าผากของนาง “เอาล่ะเอาล่ะ ของกินมากมายเช่นนี้ยังอุดปากของเจ้าไม่ได้ เจ้าอยากจะแต่งงานยังไม่แน่ว่าจะมีคนชอบเจ้าหรือไม่ แนะนำนักเรียนในสำนักศึกษาให้เจ้าดูตัว ข้ายังกลัวว่าพวกเขาจะถูกเจ้านำภัยมาให้ด้วยซ้ำ”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ นางหนูคนนี้เข้าใจได้ยากกว่าหลิวฉิง แต่งงานยากกว่า
พี่ฉิงก็แค่เผชิญหน้ากับความรู้สึกด้วยท่าทีที่ค่อนข้างใจเย็นและมีสติ ไม่ใช่คนโง่ที่ไม่รู้เรื่องความรักเลยสักนิด เสวียนจีต่างหากที่”ไร้เดียงสา”อย่างแท้จริง ผ่านไปตั้งหลายปีแล้ว ก็ยังคงเป็นเด็กหญิงที่ไร้ประสบการณ์เรื่องความรักอยู่ดี
อีกอย่าง พี่ฉิงกับเจ้าอ๋องมีความรับผิดชอบและให้ความสำคัญกับครอบครัวเหมือนกัน เสวียนจีขอเพียงออกห่างจากพวกนาง ถ้าไม่ทำตัวซุกซนเกเรก็ก่อเรื่องวุ่นวาย
ถ้าหากนางแต่งงานกับใคร อวิ๋นหลิงเกรงว่าอีกฝ่ายจะถูกทำให้โกรธตายตั้งแต่อายุยังน้อย
ในใต้หล้านี้ น่าจะมีแค่ผู้ชายอย่างไข่เหล็กเท่านั้นที่ฝึกฝนจนมีจิตใจที่สงบนิ่ง สามารถอดทนต่อนิสัยของเสวียนจีได้
อวิ๋นหลิงรู้สึกอยู่ลึกๆในใจ เมื่อพระเจ้าช่วยเปิดประตูบางบานให้พวกนาง ก็ต้องปิดหน้าต่างบางบานอย่างแน่นอน
สมองที่ใหญ่มากของนางหนูคนนี้ น่าจะแลกด้วยสิ่งเหล่านี้ ไม่เพียงแต่ร่างกายที่เติบโตได้ช้า การเจริญเติบโตทางจิตใจช้ายิ่งกว่า
หลังจากกินข้าวเสร็จ ตำหนักบูรพาก็กลับความเรียบร้อยเหมือนก่อนหน้านี้ ต่างก็ยุ่งกับงานของตนเองขึ้นมา
เสวียนจีตามติดทางด้านหลังเซียวปี้เฉิงพลางพูดว่า “พี่เขยพี่เขย ตอนนี้ข้าเป็นคนที่ไม่มีชื่อในทะเบียนบ้าน ท่านใช้เส้นสายช่วยทำใบรับรองพลเมืองดีให้ข้าที มิเช่นนั้นข้าจะไปทำอะไรที่ไหนก็ไม่สะดวก ครั้งนี้ข้าก็แอบลักลอบเข้ามาด้วยหุๆๆ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
เติมเหรียญอย่างไร...
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...