เข้าสู่ระบบผ่าน

พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 858

เดือนเก้าฤดูใบไม้ร่วง ท้องฟ้าสดใสอากาศเย็นสดชื่น

หลังจากที่พลังของเซียงถวนถูกสะกดเอาไว้ ดอกไม้ที่เบ่งบานนอกฤดูกาลก็ทยอยกันเข้าสู่ห้วงแห่งการหลับใหล เหลือเพียงดอกเบญจมาศที่ไหวเอนไปตามสายลมเย็น

เข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงอีกปีแล้ว วันคล้ายวันเกิดของสองพี่น้องถวนถวนใกล้จะมาถึงแล้ว

เพราะการเกิดของเซียงถวน ทำให้งานเลี้ยงวันเกิดปีนี้คึกคักกว่าปีที่ผ่านมาหลายส่วน ทุกตำหนักต่างก็ได้รับของขวัญ ยินดีปรีดาตั้งแต่เจ้านายจนถึงบ่าวไพร่

มีเพียงองค์หญิงอี๋อันที่มีสีหน้าเป็นทุกข์เพราะเรื่องของโม่อี้ซือ

ใช้ข้ออ้างว่าจะมาเยี่ยมเด็กๆ นางก็เอ่ยเรื่องนี้กับอวิ๋นหลิงอีกครั้ง

“น้องสะใภ้สาม......ซือซือถูกขังอยู่ในศาลต้าหลี่ห้าเดือนเต็มแล้ว ข้าได้ไปสอบถามกับหลายคน ต่างก็บอกว่าเป้าหมายที่สิ่งชั่วร้ายเข้าสิงนั้นคือบ่าวรับใช้ของคุณชายยิน ซือซือถูกดึงเข้าไปเกี่ยวข้องอย่างไม่มีเหตุผล ทำไมจึงยังไม่สามารถปล่อยนางออกมาได้เล่า”

ก่อนหน้านี้หลังจากที่นางได้รับข่าว รู้สึกตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อจริงๆ ไม่ทันสนใจเรื่องที่โม่อี้ซือเป็นลมไปในอ้อมแขนของยินถังต่อหน้าสายตาประชาชนมากมาย รีบไปดูสถานการณ์ที่ศาลต้าหลี่ทันที

แต่ใต้เท้าเฉิงกลับไม่ให้นางพบโม่อี้ซือ และไม่ยอมปล่อยตัว บอกว่าไม่รู้ว่าสิ่งชั่วร้ายซ่อนตัวอยู่ในร่างใคร เกรงว่าจะหนีไปได้

รออย่างทุกข์ใจอยู่หลายวัน ในที่สุดศาลต้าหลี่ก็มั่นใจแล้วว่าสิ่งชั่วร้ายซ่อนอยู่ในตัวบ่าวรับใช้ของยินถัง แต่ก็ยังไม่ยอมปล่อยอีกสองคนที่เหลือออกมา

อวิ๋นหลิงกำลังกินขนมกุ้ยฮัว ได้ยินเช่นนั้นก็เอาผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดคราบน้ำตาลที่มุมปาก ก่อนจะเอ่ยปลอบใจว่า

“เสด็จพี่ไม่ต้องเป็นห่วง ศาลต้าหลี่เห็นแก่ความปลอดภัยของนางจึงได้ขังเอาไว้ แม้ว่าร่างที่สิ่งชั่วร้ายเข้าสิงไม่ใช่ซือซือ แต่ว่าตอนนั้นนางอยู่กับยินถัง และใกล้ชิดกันมาก เลี่ยงไม่ได้ที่จะแปดเปื้อนสิ่งชั่วร้ายอยู่บ้าง ปี้เฉิงได้สั่งให้คนไปเชิญใต้ซือจากวัดหานซานมาเป็นการเฉพาะ รอให้สวดมนตร์อีกไม่กี่วัน สิ่งชั่วร้ายที่ติดตัวนางสลายหายไปแล้ว ก็สามารถกลับมาได้อย่างปลอดภัย”

เรื่องนี้ย่อมเป็นเจตนารมณ์ของเซียวปี้เฉิง

ตระกูลยินแอบกระทำการก่อกวนลับหลัง ทำให้ข่าวลือเรื่องครรภ์ปีศาจแพร่กระจายไปทั่วทั้งเมืองหลวง ยินถังตกอยู่ในมือของเขา ไหนเลยจะมีเหตุผลให้ปล่อยไปง่ายๆ

ก่อนหน้านี้โม่อี้ซือมาล่วงเกินอวิ๋นหลิงต่อหน้า เซียวปี้เฉิงก็ต้องคิดบัญชีกับนางให้สาสม

ปกติเป็นเพราะความรู้สึกผิดและความลำเอียงของจักรพรรดิจาวเหริน นอกจากการด่าสองสามคำก็ไม่สามารถทำอะไรอีกฝ่ายได้ แต่ครั้งนี้เป็นโอกาสที่สมเหตุสมผล

ต้องขอบคุณพี่เอ้อร์หลีว์ที่ให้เขาได้มีโอกาส”ชำระแค้น”

เดิมทีองค์หญิงอี๋อันแค่เป็นห่วงความปลอดภัยของโม่อี้ซือเท่านั้น พอได้ยินว่าตอนนั้นนางอยู่กับยินถัง และใกล้ชิดกันมาก สีหน้าก็เขียวคล้ำลง

“น้องสะใภ้สาม ซือซือยังเป็นแค่หญิงสาวที่ยังไม่ออกเรือน นางกับคุณชายยินทำเรื่องเช่นนั้นต่อหน้าธารกำนัล ไม่ดีต่อความบริสุทธิ์ของนางเลย วันหน้าหากต้องหาคู่เกรงว่าจะถูกยกมาพูดจนเป็นเรื่องลำบากใจ แล้วนี่จะทำอย่างไรกันดี”

รอยยิ้มที่มุมปากของอวิ๋นหลิงผุดขึ้นมาและหายไปในพริบตา เอ่ยต่อด้วยความใจเย็นว่า “เมื่อวานปี้เฉิงได้เอ่ยเรื่องนี้กับเสด็จพ่อเป็นการส่วนตัวแล้ว พอดีคุณชายยินคนนั้นก็ไม่เคยแต่งภรรยามาก่อน ความหมายของเขาก็คือไม่สู้ให้ทั้งคู่ตกลงเรื่องแต่งงานกันซะ”

องค์หญิงอี๋อันนิ่งอึ้งไปชั่วครู่ ใบหน้าไม่มีแววยินดีเลยสักนิด กลับขมวดคิ้วแน่นขึ้น

“น้องสะใภ้สาม ซือซือเป็นเด็กอย่างไร ข้าเข้าใจดีกว่าใครทั้งหมด ตอนนี้แม้นางจะมีสถานะเป็นท่านหญิง แต่ที่สุดก็เป็นแค่ลูกบุญธรรม และไม่มีพ่อหรือพี่ชายให้พึ่งพาอาศัย แต่งเข้าตระกูลยินไม่เหมาะสมกระมัง อีกฝ่ายจะเห็นด้วยหรือ”

อวิ๋นหลิงชะงักไป ราวกับฟังความหมายในคำพูดของนางไม่เข้าใจ เอ่ยปลอบใจว่า “มีอะไรไม่เหมาะสม เดิมก็เป็นเพราะยินถังทำให้ซือซือต้องลำบากไปด้วย ให้เขารับผิดชอบก็เป็นเรื่องที่สมควรแล้ว อีกอย่างข้าได้ยินมาว่าเขาเองก็มีใจต่อซือซืออยู่บ้าง คิดว่าคงไม่กล้าปฏิเสธ”

ที่องค์หญิงอี๋อันพูดเช่นนี้ อวิ๋นหลิงก็ไม่ได้รู้สึกประหลาดใจ เพราะนางเคยถูกอ๋องไหวเซียงหย่ามาแล้ว

รับรู้เรื่องที่ทั้งสองคนพูดคุยกัน เขาก็เลิกคิ้วขึ้นมา “ความพยายามของเสด็จพี่ครั้งนี้ มาจากมุมมองขอคนเป็นพ่อแม่ คำนึงถึงโม่อี้ซือทุกอย่าง แต่น่าเสียดายยิ่งนักที่โม่อี้ซือจะทำให้นางผิดหวังอย่างแน่นอน”

“หมายความว่าอย่างไร”

“ตอนที่ศาลต้าหลี่สอบสวนทั้งสามคน ข้าจงใจให้ผู้คุมเผยข้อมูลให้โม่อี้ซือรู้ บอกว่าตอนที่นางเป็นลมอยู่ในอ้อมแขนของยินถังประชาชนต่างก็มองเห็น ตอนนี้ต่างก็พูดถึงกันไปทั่ว นางร้องไห้ออกมาทันทีและบอกว่าจะเอาหัวชนกำแพงฆ่าตัวตาย บอกว่าความบริสุทธิ์ถูกทำลาย ไม่มีหน้าพบใครอีกแล้ว ทำเอาทุกคนตกใจกันไปหมด ตอนนั้นยินถังกำลังขึ้นศาล ขวางโม่อี้ซือเอาไว้ทันที และรับปากว่าจะแต่งงานรับนางเป็นภรรยาเอก เรื่องนี้จึงถือว่าจบไป”

ตอนที่พูดถึงเรื่องนี้ เซียวปี้เฉิงรู้สึกหมดคำพูดอยู่บ้าง

การกระทำของโม่อี้ซือช่างเป็นการเปิดหูเปิดตาเขาจริงๆ ปกติเป็นคนว่านอนสอนง่าย ดูเหมือนปฏิบัติตนอยู่ในกรอบระเบียบ ที่จริงกลับไม่รักษากฎระเบียบเลยสักนิด

อวิ๋นหลิงนิ่งอึ้งไป อดไม่ได้ที่จะพูดยิ้มๆว่า “เห็นทีผู้หญิงอ่อนแอคนนี้ไม่ได้โง่เหมือนที่คิดเอาไว้ ช่วงที่ผ่านมาคงเรียนรู้วิธีการต่างๆจากหญิงผู้สูงศักดิ์ในเมืองหลวงไปไม่น้อย”

เห็นได้ชัดว่านางอยากจะแต่งงานกับยินถัง จงใจแสดงละครให้อีกฝ่ายดู

เล่นละครไม่ได้เรื่อง สู้ความคิดชั่วร้ายที่อยู่ในใจของยินถังไม่ได้ ไม่พูดพร่ำทำเพลงก็รับบทต่อจากนางไป

“ข้าจะเล่าเรื่องสนุกให้เจ้าฟังอีกเรื่อง หลังจากที่คุณหนูของตระกูลลู่ได้ยินข่าวของยินถัง ก็ไปเยี่ยมที่คุกของศาลต้าหลี่ทุกวัน อาศัยว่ามีเงินสามารถใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เข้าออกศาลต้าหลี่ได้อย่างอิสระ ปรากฏว่าเห็นเข้ากับละครฉากนี้พอดี”

ตอนนั้นลู่หยินซีมีสีหน้าตกตะลึง แทบจะฉีกโม่อี้ซือให้เป็นชิ้นๆเลยทีเดียว

เซียวปี้เฉิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงมั่นใจว่า “ต่อไป ทั้งในและนอกวังต้องมีเรื่องสนุกให้ดูแน่”

เพียงแต่ครั้งนี้ คนที่ทรมานไม่ใช่พวกเขาแล้ว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ