แจกันดอกไม้ว่างเปล่า
สีหน้าฉู่อวิ๋นหานย่ำแย่ หัวใจหล่นวูบทันที
เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของอวิ๋นหลิง เซียวปี้เฉิงสั่งให้คนทุกซอกทุกมุม แต่ก็ยังไม่พบหลักฐานที่น่าสงสัยเลย
รุ่ยอ๋องถามว่า “แน่ใจน่ะว่าไม่มี?”
อวิ๋นหลิงพูดเสียงเรียบเฉย “ทำไม เหมือนท่านปรารถนาว่าเป็นข้าจังนะ ท่านอยากให้พวกเราสองพี่น้องแตกคอกันเพียงนั้นเชียวหรือ?”
รุ่ยอ๋องทำหน้าบูดเบี้ยว เขารู้ตัวดีว่าหากต้องการทะเลาะเบาะแว้ง เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอวิ๋นหลิง จึงตัดสินใจปิดปากเงียบ
ตรงมุมห้อง ฉู่อวิ๋นหานที่อยู่ในภาพเส้นผมรุงรังพูดเสียงเบากับตัวเองว่า “เป็นแบบนี้ได้อย่างไร?”
นางเป็นคนใส่กระดาษแผ่นนั้นกับมือ ทำไมถึงหายไปแบบนี้ได้?
นางมั่นใจว่าไม่มีคนเห็น มีเพียงเซียวปี้เฉิงที่เดินผ่านมาเท่านั้น
หรือว่า...
ราวกับฉู่อวิ๋นหานฉุกคิดอะไรบางอย่างได้ แววตาเผยความตกใจและเหลือเชื่อ
นางเงยหน้ามองไปยังเซียวปี้เฉิง หัวใจเต้นรัวแรงจนเกือบกระดอนออกมา
เซียวปี้เฉิงยังคงมองมายังนางด้วยสีหน้านิ่งเฉย แต่แม้ดวงตาสีดำขลับยังคงล่องลอยเหมือนเมื่อก่อน ทว่าฉู่อวิ๋นหานกลับสัมผัสได้ว่าเป็นแววตาที่อ่านทะลุจิตใจนางแล้ว
เวลาต่อมาเซียวปี้เฉิงก็สั่งให้ทหารคุ้มกันนำตัวชาวประมงชายที่ช่วยฉู่อวิ๋นหานมา
“ทุกท่านโปรดอย่าได้โมโหเลย ข้าน้อยไม่รู้อะไร แค่ทำตามคำสั่งเท่านั้น”
ชาวประมงเป็นคนปอดแหก เห็นไป๋ลู่โดนจับก็สารภาพด้วยความกระวนกระวายใจ
“พระชายาจิ้งอ๋องบอกว่าคืนงานเลี้ยงเรือจะมีคนตกน้ำ สั่งให้ข้าน้อยเข้าไปช่วย จากนั้นก็พาไปยังจุดที่มีคนเยอะๆ จะมอบเงินสอบตำลึงเป็นค่าตอบแทนพ่ะย่ะค่ะ”
แววตาเย็นยะเยือกของเซียวปี้เฉิงมองเขา “แน่ใจน่ะว่าพระชายาจิ้งอ๋องเป็นคนสั่งเอง?”
ชาวประมงชะงักงัน ตอบว่า “ไม่ใช่พ่ะย่ะค่ะ แม่นางไป๋ลู่คนนี้เป็นคนถ่ายทอดคำสั่งกับข้า นางบอกว่าเป็นสาวใช้ข้างกายของพระชายาจิ้งอ๋องพ่ะย่ะค่ะ”
เขาไม่เคยเจออวิ๋นหลิงมาก่อน
เซียวปี้เฉิงโบกมือ สั่งให้ลูกน้องนำตัวชาวประมงออกไป
“พี่ใหญ่ จวนจิ้งอ๋องไม่เคยมีสาวใช้ชื่อไป๋ลู่ ยามนี้มั่นใจได้ว่าผู้บงการเป็นคนอื่น ส่งตัวนางไปยังศาลต้าหลี่ก่อนเถอะ”
เรื่องมาถึงขั้นนี้ แม้แต่คนโง่เง่าเต่าตุ่นก็ดูออกว่าเรื่องนี้ไม่ชอบมาพากล
หรงจั้นทำหน้าเย็นเยียบ “ท่านอ๋องทั้งสองโปรดอนุญาตให้ข้าเข้าร่วมการไต่สวนคดีนี้ด้วยเถิด ข้าอยากรู้ว่าผู้ใดบังอาจปองร้ายจวนเจิ้นกั๋วกงกัน”
แม้ใบหน้าเขาจะแลดูอ่อนโยน ทว่ายิ่งเหมือนดอกไม้บนยอดเขาหิมะ สามารถแช่คนเป็นน้ำแข็งและทิ่มมือยิ่ง
สิ้นเสียงหัวใจของฉู่อวิ๋นหานก็เต้นตึกตัก
อวิ๋นหลิงอดมองหรงจั้นไม่ได้ หรงฉานเป็นคนไร้เดียงสาจริง ส่วนพี่ชายของนางไม่ใช่คุณชายขี้โรค ผู้อ่อนแอเหมือนภายนอกแน่
หรงจั้นรับรู้ถึงการมองของอวิ๋นหลิง จึงหันมาสบตากับนาง แววตาของเขาเจือความหดหู่และซับซ้อนไว้ร่วมกัน
เซียวปี้เฉิงเห็นพวกเขาสบตากันแล้วก็รู้สึกตำตาตำใจยิ่ง
“เจ๋อเฟิง จับตัวนางผู้นี้ไปส่งที่ศาลต้าหลี่ หากคุณชายหรงต้องการเข้าร่วมก็ไปด้วยกันได้”
ใบหน้าหล่อของเขามืดครึ้ม ก้าวเข้าไปยืนกึ่งกลางระหว่างอวิ๋นหลิงกับหรงจั้น
“พระชายาของข้ากำลังท้อง เรื่องในคืนนี้รบกวนจิตใจนาง จำเป็นต้องกลับไปพักผ่อนในจวนแล้ว”
ถึงแม้รุ่ยอ๋องจะไร้เดียงสา แต่ก็ไม่ได้โง่ดักดานจนไม่มียารักษา และตระหนักได้ว่าหากไม่มีหลักฐานมัดตัวความผิดฉู่อวิ๋นหลิง เขาจะจับตัวนางไม่ได้
แต่เมื่อเห็นฉู่อวิ๋นหานทำหน้าหมดอาลัยตายอยาก เขาก็เรียกเซียวปี้เฉิงด้วยความโกรธ
“ช้าก่อน พวกเจ้าคิดจะไปง่ายๆเช่นนี้หรือ?”
เซียวปี้เฉิงเลิกคิ้ว “พี่ใหญ่?”
รุ่ยอ๋องทำหน้าโหดแล้วมองมายังอวิ๋นหลิง พลางกล่าวอย่างดื้อด้านว่า “หากฉู่อวิ๋นหลิงไม่เกี่ยวข้องเรื่องที่แม่นางหรงตกน้ำ แล้วอวิ๋นหานล่? นางเป็นคนยอมรับเองว่าเป็นคนทำอวิ๋นหานตกน้ำ”
อวิ๋นหลิงหัวเราะคิกคัก “ข้ายอมรับตอนไหน?”
“เมื่อครู่เจ้าบอกเองว่าเรื่องที่อวิ๋นหานตกน้ำเกี่ยวข้องกับเจ้า”
“นางตกบนเรือของข้า ย่อมเกี่ยวข้องกับข้าอยู่แล้ว แต่ข้าไม่ได้บอกว่าข้าถีบนางลงไปนะ”
รุ่ยอ๋องเขม็งตาใส่นาง พลางพูดเสียงฉุนเฉียว “คนมีตาก็ดูออกว่าเจ้าเป็นคนทำ เจ้ายังไม่ยอมรับอีก”
“แล้วใครเห็นบ้าง? ทำไมต้องกล่าวหาว่าข้าเป็นคนทำด้วย แน่จริงก็เอาหลักฐานมาสิ”
อวิ๋นหลิงยกมุมปากขึ้น หรี่ตายิ้มอย่างโอหัง
“ตอนนั้นท่านอ๋องอยู่ข้างกายข้าง ท่านอ๋องเห็นหรือไม่ว่าข้าเป็นคนทำ?”
เซียวปี้เฉิงกระตุกมุมปาก สีหน้าจนปัญญา
“ดวงตาข้า...มองไม่เห็น”
ความหมายก็คือเขาไม่เห็นนางผลักฉู่อวิ๋นหาน
เมื่อเห็นเซียวปี้เฉิงเข้าข้างและลำเอียงจนออกหน้าเพียงนี้ ฉู่อวิ๋นหานก็กระตุกมุมปาก เมื่อเทียบกับความโกรธและความน้อยใจแล้ว นางรู้สึกใจคอไม่ดีมากกว่า
นางอดสงสัยไม่ได้ว่าเซียวปี้เฉิงไปรู้อะไรมา จึงปล่อยให้อวิ๋นหลิงเย่อหยิ่งเช่นนี้
รุ่ยอ๋องโมโหจนเกือบเป็นบ้า เขาเกิดใหม่สิบชาติก็ไม่อาจจินตนาการได้ว่าอวิ๋นหลิงจะไร้ยางอายเพียงนี้
ยิ่งไม่อาจจินตนาการว่าเซียวปี้เฉิงจะปกป้องคนทำความผิดด้วย
เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พูดด้วยความปวดร้าวว่า “เจ้าสาม ไยเจ้าถึงเปลี่ยนไปขนาดนี้...”
“พอแล้ว พอแล้ว ให้น้อยๆหน่อย เมื่อไหร่จะจบจะสิ้นเนี่ย”
อวิ๋นหลิงไม่อยากมองรุ่ยอ๋องคนโง่ต่อแล้ว รีบแทรกเขาพูดทันที
“หลานชายผู้โง่เขลาของข้า ท่านเอาเวลาหาตัวคนทำฉู่อวิ๋นหานตกน้ำนี้ ไปสืบดูว่าใครชักใยอยู่เบื้องหลังไม่ดีกว่าหรือ ควรสืบว่าผู้ใดต้องการทำร้ายว่าที่พระชายารุ่ยของท่าน”
แม้หรงฉานจะโง่ไปบ้าง แต่ก็เป็นสตรีจิตใจงาม ไม่คุ้มเลยที่ต้องแต่งงานกับรุ่ยอ๋องจอมโง่ผู้นี้
ตั้งแต่เกิดเรื่อง รุ่ยอ๋องก็มัวแต่สนใจฉู่อวิ๋นหาน ไม่เคยห่วงใยหรือปลอบใจหรงฉานสักคำ
เมื่ออวิ๋นหลิงเตือน รุ่ยอ๋องที่โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงจึงใจเย็นลง และเห็นสายตาอันไม่พอใจของหรงจั้น
แม้กระทั่งหรงฉานผู้ที่ว่านอนสอนง่ายในยามปกติ เวลานี้ก็มองเขาด้วยแววตาเย็นชา
“ต้องขอบคุณพระชายาจิ้งอ๋องที่ช่วยฉานเอ๋อร์ ข้าไม่เป็นอะไรแล้ว”
บัดนี้หรงฉานอดผิดหวังไม่ได้
อนที่จักรพรรดิจ้าวเหรินพระราชทานสมรส นางก็เพ้อฝันและรอคอยด้วยความดีใจ เพราะรุ่ยอ๋องมีชื่อเสียงด้านการศึกษาและสุภาพอ่อนโยน ทั้งยังมีเมตตากับผู้คนด้วย
คนที่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับเขาล้วนชมเป็นเสียงเดียวกัน
ทว่าเมื่อเจอเหตุการณ์ในคืนนี้ ความเพ้อฝันด้วยความดีใจของนางก็พังทลายลง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...
ชอบมากเลยค่ะ นางเอกเก่ง❤...
สนุกมากค่ะ...
5555555 ตลก พ่อพระเอก...
สะใจนางเอกทันตลอด ชอบค่ะ...
I awaiting your update new chapter...
ตบได้ดี ฮ่าๆๆ สนุกๆๆ...