เข้าสู่ระบบผ่าน

พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 862

สมองของหลิวฉิงเชื่องช้าทึ่มทื่อ ความคิดเดียวในตอนนี้ก็คือ ทำไมจึงมีคนที่มีประจำเดือนมาสองครั้งภายในครึ่งเดือน

ไม่เป็นวิทยาศาสตร์เลย ประเดี๋ยวต้องไปหาน้องหลิงให้นางช่วยดูอาการเสียหน่อย

พิลึกไปกว่านั้นก็คือ ทำไมกู้ฉางเซินจึงเอามือไปสัมผัส

“รอข้าก่อน ข้าจะไปหาผ้าอนามัย ท่านรีบล้างมือเถอะ......”

พูดจบ หลิวฉิงยังไม่ทันได้หมุนตัวจากไป ก็หมุนคว้างรอบหนึ่งก่อนจะนอนหงายลงบนตั่งนุ่ม

ตรงหน้าเป็นใบหน้าหล่อเหลาของกู้ฉางเซินที่ใกล้มาก ใกล้จนสามารถมองเห็นขนตาที่งอนยาวเล็กน้อยได้อย่างชัดเจนทุกเส้น

ในดวงตาดำขลับอบอุ่นคู่นั้น ราวกับแอ่งน้ำลึกที่มองไม่เห็นก้นบึ้ง สะท้อนใบหน้าสับสนมึนงงของนาง

“ฉิงเอ๋อร์ ไม่ใช่ประจำเดือน”

นิ้วเรียวยาวจรดลงที่สาบเสื้อบริเวณหน้าอก หลิวฉิงสังเกตเห็นได้อย่างเชื่องช้าว่าปลายนิ้วเปียกชุ่มนั้นไม่ได้เป็นสีแดง

หลิวฉิงนิ่งเงียบไป

แม้ว่าฤทธิ์ของยาจะกระทบความสามารถในการตัดสินใจของนาง แต่นางก็ไม่ได้โง่ ไม่ช้าก็รับรู้ได้ทันทีว่านั่นคืออะไร

“ข้าข้า......ท่าน......ยานั่นมีปัญหา”

ใบหน้าของหลิวฉิงเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ ร่างกายสั่นเทาไปหมด เบิกตากว้างมองกู้ฉางเซิน

ปลายนิ้วของกู้ฉางเซินที่กำลังเล่นกับเสื้อชะงักไป แต่ก็ไม่หยุดการเคลื่อนไหว มองสายตาที่ทั้งอายและโกรธของนาง เสี้ยววินาทีนั้นก็เล่าเรื่องเสวียนจีออกไปจนหมดอย่างบริสุทธิ์ใจ

“ไม่ใช่ข้า เมื่อครู่แม่สาวน้อยเอายามาให้ข้าโดยเฉพาะ ข้าไม่รู้เรื่องอะไรเลย”

“เจ้าลิงตัวนี้ช่างบังอาจนัก แม้แต่ข้าก็กล้าคิดร้าย คงต้องได้เฆี่ยนด้วยแส้ซะแล้ว”

หลิวฉิงสีหน้าขุ่นเคือง อยากจะดีดตัวขึ้นมากบุกไปที่จวนอ๋องจินทันที จะได้หนีจากสถานการณ์ตอนนี้ด้วย

บางทีอาจเป็นเพราะอารมณ์ตื่นเต้นเกินไป ร่างกายมีความร้อนวูบหนึ่งจู่โจมขึ้นมาทันที

ร่างกายของนางแข็งค้างราวกับท่อนไม้

หลิวฉิงเคยเผชิญสถานการณ์ใหญ่ๆมามากมาย แต่ประสบการณ์เช่นนี้เป็นครั้งแรก มีความรู้สึกหมดอาลัยตายอยากอยู่บ้าง

“......ข้า ข้าอยากจะไปอาบน้ำอีกครั้ง”

ถ้าขืนยังเป็นเช่นนี้ต่อไป คืนนี้คงไม่ต้องนอนกันแล้ว

ดวงตาอบอุ่นของกู้ฉางเซินที่สะกดกลั้นความปรารถนาเอาไว้จ้องมองมาที่นาง ไม่ได้ปล่อยร่างกายออกจากพันธนาการ

ครั้งนี้ ไม่มีทางให้นางใช้ข้ออ้างหนีไปได้อีก

“ฉิงเอ๋อร์ อาบไม่สะอาดหรอก แต่ว่า .....”

กู้ฉางเซินเอ่ยเสียงต่ำข้างใบหูของนาง หลิวฉิงรู้สึกเสียวสันหลังขึ้นมา จากนั้นก็ไม่มีเรี่ยวแรงจะต่อต้าน

หลิวฉิงรู้สึกเวียนหัวตาลาย เสียงที่ดังขึ้นในหูเดี๋ยวใกล้เดี๋ยวไกล ความรู้สึกนี้เหมือนคนที่เมาเหล้า ทำให้นางแยกแยะไม่ออกว่าเป็นความฝันหรือความจริง

เมื่อได้สติกลับมาอีกครั้ง นางก็เห็นว่าเสื้อตัวในของกู้ฉางเซินที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆของต้นสนหล่นอยู่บนพื้นแล้ว หลังจากนั้นสายตาก็จ้องเขม็ง

“......”

ไม่เหมือนกับร่างมนุษย์ที่เคยเห็นในห้องทดลองเลย

ผิวขาวหยกแฝงความอบอุ่น เปล่งประกายเบาบางใต้แสงไฟสีเหลืองนวล

ไม่เหมือนกับผู้ชายขายตัวที่เคยเห็นในบาร์นีออน

กล้ามหน้าท้องเป็นเส้นทรงพลัง แค่ดูก็รู้ว่าเป็นคนฝึกยุทธสม่ำเสมอ ไม่ใช่กล้ามเนื้อของคนที่จงใจฝึกฝนจากโรงยิมจะเทียบได้

เดี๋ยวก่อน ภาพเช่นนี้นางสามารถมองได้โดยไม่ต้องเสียเงินอย่างนั้นหรือ

เสี้ยววินาทีนั้น สติที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในสมองของหลิวฉิง ถูกยึดครองด้วยความคิดวุ่นวายที่ยากจะเข้าใจ

กู้ฉางเซินรับรู้ถึงร่างกายที่แข็งเกร็งและลมหายใจที่รัวเร็ว ทุกปฏิกิริยาตอบโต้ล้วนเผยความตื่นเต้นอย่างชัดเจน อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเสียงต่ำออกมา

“เจ้ามักจะมีท่าทีไม่เกรงกลัวอะไรเลย ข้าคิดว่าโลกนี้คงไม่มีเรื่องอะไรที่จะทำให้เจ้าตื่นเต้นวุ่นวายได้ ไม่เคยคิดเลยว่าที่แท้......แต่ว่า ข้าชอบมาก”

บนโลกนี้ไม่มีผู้ชายคนใด ต้านทานด้านที่เผยให้เห็นถึงความหวั่นไหวเขินอายอย่างลูกผู้หญิง ของหญิงอันเป็นที่รักต่อหน้าตนเองได้

กู้ฉางเซินหลงรักท่าทีของนางเช่นนี้มาก

“ฉิงเอ๋อร์ ยังจำได้ไหม เจ้าเคยบอกสูตรกระบวนท่าฟันดาบกับข้า......”

“มี มีด้วยหรือ”

เช้านี้นางเพิ่งจะรู้ว่า ยาเม็ดสีฟ้าที่อวิ๋นหลิงให้หลงเย่นั้นเผด็จการมาก

หากกินไปแล้ว ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วยามจะมีกำลังวังชามาก ไม่เพียงแต่จะสามารถกระตุ้นความคิดเรื่องอย่างว่าให้กับคนกิน ยังช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งทางร่างกายอีกด้วย

นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมต้องให้ทั้งคู่กินยาพร้อมกัน

เมื่อคืนคู่ที่อยู่ในจวนอ๋องจินเพื่อได้อยู่กันตามลำพังสองคน หลังกินอาหารค่ำเสร็จก็ไล่นางออกไป วันนี้ไปหาสามรอบแล้วก็ยังไม่ตื่น เห็นได้ชัดว่ายาแรงมาก

ร่างกายที่แข็งแกร่งของหลิวฉิง เดิมทีก็ไม่สามารถเทียบกับคนทั่วไปได้อยู่แล้ว ไม่รู้ว่ากู้ฉางเซินจะเป็นอย่างไรบ้าง

“พี่เขยจ๋าพี่เขย ท่านต้องทนรับการย่ำยีจากพี่เอ้อร์หลีว์ให้ได้นะ......”

ถ้าอวิ๋นหลิงรู้เข้า คงต้องตีนางให้ตายแน่ๆ

เสวียนจีย่อไปจนถึงบริเวณหน้าต่างแกะสลัก แอบเจาะรูเล็กๆหนึ่งรู สามารถมองดูสถานการณ์ภายในห้องได้อย่างเลือนราง

ให้ตายเถอะ เสื้อผ้าเกลื่อนเต็มพื้น โต๊ะเก้าอี้ล้มระเนระนาดไม่เป็นที่เป็นทาง เห็นได้ชัดว่าเมื่อคืนเกิดศึกที่ดุเดือดมาก

นางกำลังคิดจะเคลื่อนไหว กู้ฉางเซินที่อยู่ในห้องจู่ๆก็ลืมตาขึ้นมา น้ำเสียงเย็นเหยียบ

“ใคร”

เสวียนจีตกใจจนร่างสั่นเท่า ไม่พูดไม่จาก้าวเท้าวิ่งหนีทันที

พี่เขยรองก็คือพี่เขยรอง ไม่เสียแรงที่เป็นนักดาบอันดับหนึ่งในใต้หล้า ไม่ใช่เทพบุตรอย่างเศรษฐีหนุ่มจะเทียบได้ คิดไม่ถึงว่าตื่นเร็วเช่นนี้

กู้ฉางเซินมองเห็นร่างเล็กที่แอบมองผ่านหน้าต่างนั้นอย่างเลือนราง หรี่ตาลงเล็กน้อย ร่างกายที่แข็งเกร็งผ่อนคลายลง

หลิวฉิงที่อยู่ในอ้อมแขนกลับถูกปลุกให้ตื่นขึ้น ลืมตาด้วยอาการปวดหัวแทบระเบิด พบว่ากู้ฉางเซินกำลังก้มมองตนเองอยู่

“ฉิงเอ๋อร์ เจ้าตื่นแล้วหรือ”

ร่างกายครึ่งท่อนของเขามีรอยสีแดงเข้มและอ่อนกระจายเต็มไปหมด มีหลายจุดที่มีเลือดไหลซิบออกมา ราวกับรอยแตกที่มีความสวยงามอย่างแปลกประหลาด

หลังจากที่เห็นรอยฟันหลายจุดบนร่างกายของกู้ฉางเซิน สมองของหลิวฉิงก็เกิดเสียงปะทุดังขึ้น ชิ้นส่วนความทรงจำทั้งหมดเมื่อคืนนี้หลั่งไหลเข้ามาในสมอง

หญิงสาวที่ราวกับสัตว์ป่าคนนั้นเป็นตนเองจริงๆหรือ

นางตกอยู่ในห้วงแห่งความสงสัยในตัวเอง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ