กู้ฉางเซินแววตาอ่อนโยน เอ่ยยิ้มๆว่า “ไม่ลากิจแต่ลาหยุดประจำปี ไม่จำเป็นต้องผ่านการอนุญาตจากอาจารย์ ส่งจดหมายไปบอกกล่าวผู้ดูแลก็พอ แต่งงานมาสามเดือน ข้ายังไม่เคยอยู่เป็นเพื่อนเจ้าดีๆเลย”
สิ่งที่ติดค้างและพลาดโอกาสไปก่อนหน้านี้ ได้รับการชดเชยกลับมาไม่มากก็น้อยแล้ว
หลิวฉิงหวั่นไหวในใจ พยักหน้าให้เขา ยังไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดวางแผนจะกลืนกินนางอย่างไรให้หมดเกลี้ยง
เพราะรู้สึกเจ็บบริเวณที่เป็นแผลไม่สะดวกในการเดินเหิน หลิวฉิงใช้ชีวิตทั้งวันอยู่บนเตียง
ที่จริงนางไม่ได้บอบบางขนาดนั้น อย่าว่าแต่บาดแผลเล็กเช่นนี้เลย แม้แต่ขาหัก ความมุ่งมั่นที่แรงกล้ายังสามารถทำให้นางยืนหยัดที่จะเดินต่อไปได้
แต่หลิวฉิงรู้สึกว่า จะใช้ชีวิตที่อ่อนแอเช่นนี้บ้างก็ไม่เป็นไร
เป็นครั้งแรกที่นางไม่ได้ตื่นขึ้นในรุ่งเช้าเพื่อออกกำลังกาย แม้แต่ของกินกู้ฉางเซินยังยกมาถึงตรงหน้า
เกรงว่านางจะเบื่อ ยังกอดนางและอ่านหนังสือฆ่าเวลาด้วยกัน
ตอนที่แสงแดดในฤดูใบไม้ร่วงสาดส่องเข้ามาจากนอกหน้าต่าง หลิวฉิงขดตัวนอนหลับอยู่ในอ้อมแขนของกู้ฉางเซินอย่างเกียจคร้าน วันเวลาเช่นนี้ช่างเงียบและสงบสุขมาก
นางเข้าใจขึ้นมาทันที ทำไมหลังจากที่อวิ๋นหลิงและหลงเย่แต่งงาน รอยยิ้มบนใบหน้าให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากเมื่อก่อนมาก
ความรู้สึกเช่นนั้น ที่แท้ก็มีชื่อว่าความสุขนี่เอง
……
ฤดูใบไม้ร่วงท้องฟ้าแจ่มใส ห่านป่าโผบินไปทางทิศใต้
พูดถึงทางด้านอวิ๋นหลิง หลังจากที่ส่งยาให้สองสามีภรรยาหลงเย่แล้ว ก็พาลูกพาสามีนั่งรถเดินทางไปยังสำนักศึกษาชิงอี้
ปลายเดือนเก้าอากาศเย็นเล็กน้อย แต่ไม่ถือว่าหนาว ลูกชายทั้งสองคนต่างก็สวมเสื้อผ้าฝ้ายบางเบาสีแดง เหมือนลูกบอลกลมๆ
เป็นครั้งแรกที่สองพี่น้องได้เดินทางไกล ยืนกระดกก้นน้อยๆอยู่ข้างหน้าต่าง มองไปทั่วอย่างรู้สึกตื่นเต้น
ไม่นานนัก ฮั่วถวนก็ร้องตะโกนขึ้นมาอย่างตกใจ
“ท่านแม่ท่านแม่ ในป่ามีไฟไหม้”
“พี่ไม่ต้องกลัว ข้าจะปกป้องท่านเอง”
อวิ๋นหลิงมองตามนิ้วอ้วนกลมของฮั่วถวนที่ชี้ออกไป หลุดเสียงหัวเราะออกมา “ไม่ใช่ไฟไหม้ เป็นใบเฟิงที่แก่แล้ว”
ทอดสายตามองไป สีแดงเต็มผืนป่า ป่าถูกย้อมไปด้วยสีแดง งดงามมาก
ฮั่วถวนกะพริบตาปริบๆ “ท่านแม่ท่านแม่ ทำไมใบไม้ถึงเป็นสีแดง ข้ารู้ว่าใบไม้ของต้นไม้เป็นสีเขียว”
“เพราะฤดูใบไม้ร่วมมาถึงแล้ว ใบหน้าของต้นเฟิงก็จะกลายเป็นสีแดง”
ฮั่วถวนพยักหน้าเหมือนรู้ “ถ้าอย่างนั้นข้าก็ชอบใบเฟิง ใบเฟิงสวยมาก สวยเหมือนดอกไม้ จะเอากลับไปให้น้องสาว”
เรื่องที่เซียงถวนไม่สามารถไปสำนักศึกษาพร้อมกันได้ สองพี่น้องรู้สึกเศร้าใจอยู่บ้าง
ได้ยินลูกชายพูดเช่นนี้ เซียวปี้เฉิงจึงให้ลู่ฉีหยุดรถ พาลูกทั้งสองคนไปยังชายป่าที่อยู่ข้างๆเก็บใบเฟิงที่สวยงามมากำใหญ่
อวิ๋นหลิงไม่มีอะไรทำ จึงสอนพวกเขาทำใช้ใบเฟิงซ้อนกันเป็นดอกไม้ แม้ว่ามืออวบอ้วนจะเคลื่อนไหวได้ไม่คล่องแคล่ว แต่ก็เล่นอย่าสนุกสนาน ไม่นานก็เดินทางมาถึงสำนักศึกษาชิงอี้
มองดูประตูใหญ่ที่ห่างหายไปนาน อวิ๋นหลิงอดไม่ได้ที่จะทอดถอนใจกับเวลาที่ผ่านไปเร็วมาก
ไม่รู้ว่าผ่านไปกว่าครึ่งปีแล้ว ไม่รู้หนุ่มสาวที่อยู่ในสำนักศึกษาจะเติบโตเป็นอย่างไรกันบ้าง
สองสามีภรรยาเพิ่งจะพาลูกชายทั้งสองคนก้าวเข้าไปในสำนักศึกษา ผู้ดูแลเจิ้งที่กำลังคุยอยู่กับกู้ฮั่นม่อตรงใต้ศิลาจารึกบนลานกว้าง รีบก้าวเท้าเดินเข้ามาต้อนรับ
“องค์รัชทายาท พระชายารัชทายาททรงพระเจริญ”
กู้ฮั่นม่อยืนนิ่งอยู่กับที่ คิดไม่ถึงว่าอวิ๋นหลิงจะมาที่สำนักศึกษาอย่างกะทันหัน เพราะตอนนี้น่าจะเป็นเวลาที่นางต้องอยู่เดือนในวังจึงจะถูก
นางรีบมองอวิ๋นหลิงอย่างวิเคราะห์แวบหนึ่ง เห็นนางร่างกายอ้อนแอ้น ผิวพรรณเปล่งประกาย สีหน้าดูดีกว่าก่อนหน้านี้มาก คิ้วของเขาก็คลายลงทันที เดินเข้าไปหาด้วยรอยยิ้มยินดีแกมประหลาดใจ
ฮั่วถวนเป็นคนใจกล้า พบบุคคลใหม่ที่น่าสนใจ ดวงตาก็เปล่งประกายขึ้นมาทันที โผเข้าไปหาพร้อมเสียงอ้อแอ้
“พี่ชาย ดอกไม้สีแดงให้ท่าน”
เขาล้วงเอาดอกไม้อวิ๋นหลิงทำจากใบเฟิงออกมาจากกระเป๋าสะพาย
อวิ๋นหลิงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาทันที “ฮั่วถวนอยากจะเป็นเพื่อนกับเสี่ยวกู้”
นางเคยสั่งสอนลูก ถ้าอยากจะคบกับอีกฝ่ายเป็นเพื่อน ก็ต้องเรียนรู้ที่จะแบ่งปันของเล่นและลูกอมของตัวเองก่อน
กู้ฮั่นม่อได้ยินเช่นนั้น ก็ยิ้มพลางล้วงเอาขนมกระยาสารทสองชิ้นออกมาจากแขนเสื้อ มอบให้พวกเขาคนละหนึ่งชิ้น
“เช่นนั้นตอนนี้ข้ากับพวกถวนถวนก็เป็นเพื่อนกันแล้ว”
เสวี่ยถวนเดิมทียังระแวงอยู่บ้าง เห็นรอยยิ้มอบอุ่นของกู้ฮั่นม่อ ก็รับขนมไปอย่างว่าง่าย
“ขอบคุณพี่ขาย”
ผู้ดูแลเจิ้งยิ้มจนตาหยีเป็นเส้นตรง “พระนัดดาทั้งสองได้รับการอบรมสั่งสอนมาดีมาก ทั้งสองท่านไม่เสียแรงที่เป็นอาจารย์ของศิษย์นับพันนับหมื่นของแคว้นต้าโจว”
ไม่ใช่เขาจงใจประจบสอพลอ แต่ลูกชายทั้งสองคนนี้ช่างน่ารักน่าเอ็นดูจริงๆ
ผู้ดูแลเจิ้งใช่ว่าจะไม่เคยพบเห็นลูกหลานของตระกูลผู้สูงศักดิ์ เด็กหน่อยถ้าไม่เดียงสา ก็ร้องไห้งอแงเพราะกลัวคนแปลกหน้า โตหน่อยถ้าไม่ถูกเอาใจจนนิสัยไม่ดี ก็รู้ความจนไม่ทำตัวสนิทสนมกับคนภายนอกตามอำเภอใจ
ไหนเลยจะเคยพบเห็นเด็กที่สุภาพและทำตัวสนิทสนมใกล้ชิดกับประชาชนทั่วไปเช่นนี้ อีกทั้งยังเป็นถึงพระนัดดา
เซียวปี้เฉิงยิ้มพลางหันไปมองกู้ฮั่นม่อ “เจ้าไม่ชอบกินหวาน ทำไมจึงพกขนมติดตัว หรือว่ารู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าพวกเราจะมา”
กู้ฮั่นม่อยิ้มพลางเอ่ยอย่างอบอุ่นว่า “องค์รัชทายาทล้อเล่นแล้ว ช่วงนี้ศิษย์มักจะไปเยี่ยมสถานสงเคราะห์เด็กแต่ละแห่งในเมืองหลวง ด้วยเหตุนี้จึงชินกับการพกขนมเหล่านี้”
อวิ๋นหลิงได้ยินก็รู้สึกประหลาดใจ “สถานสงเคราะห์เด็ก เจ้าไปสถานที่เช่นนั้นทำไม”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
ทำไมซื้อตอนไม่ได้คะ...
เติมเหรียญอย่างไร...
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......