เข้าสู่ระบบผ่าน

พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 865

ได้ยินเช่นนั้น กู้ฮั่นม่อก็เอ่ยด้วยสีหน้าจริงจังว่า “พระชายารัชทายาท สองเดือนก่อนศิษย์ได้อ่านรายงานเกี่ยวกับโรงเรียนอนุบาลหลวงจากหนังสือพิมพ์ และได้รับรู้ว่าท่านและองค์รัชทายาทมีแผนจะส่งเสริมการศึกษาภาคบังคับ”

“ศิษย์คิดว่าความคิดของท่านดีมาก เป็นการกระทำที่สร้างประโยชน์แก่ประชาชนในใต้กล้า ด้วยเหตุนี้จึงอยากจะพยายามช่วยเหลือท่านด้วยแรงอันน้อยนิด ช่วงก่อนหน้านี้ได้ร่างแผนการออกมาแล้ว รอให้ท่านตรวจดูก่อน”

อวิ๋นหลิงได้ยินดวงตาก็เปล่งประกาย รู้สึกสนใจขึ้นมา “ทำให้เจ้าลำบากแล้ว เช่นนั้นก็รีบเอาแผนการมาให้ข้าดูเลย”

เรื่องที่เกี่ยวกับการก่อตั้งโรงเรียนอนุบาล อวิ๋นหลิงไม่ได้ให้อำนาจของสำนักศึกษาชิงอี้เข้ามามีส่วนร่วม

ไม่เพียงแต่เป็นเพราะแผนการนี้ยังไม่บรรลุและยังอยู่ระหว่างการทดลอง และเป็นเพราะสำนักศึกษาชิงอี้ก่อตั้งได้เพียงหนึ่งปี เดิมก็ยังคงมีจุดที่ยังต้องปรับปรุงอยู่

เด็กๆในสภานักเรียนเหล่านี้ล้วนมีคุณสมบัติที่ดีมาก แต่อวิ๋นหลิงรู้สึกว่าแค่พวกเขาสามารถดูแลสำนักศึกษาในช่วงที่ตนเองกับเซียวปี้เฉิงวางมือได้โดยไม่มีข้อผิดพลาด ก็ถือว่าดีมากแล้ว

คิดไม่ถึงว่ากู้ฮั่นม่อจะใส่ใจเรื่องนี้ด้วย นางอยากรู้มากกว่าอีกฝ่ายจะมีความคิดเห็นอย่างไรต่อการก่อตั้งโรงเรียนอนุบาล

หลังจากให้องครักษ์ช่วยดูแลลูกชายทั้งสองคนแล้ว สองสามีภรรยาก็ไปที่หอพักลูกศิษย์เพื่อดูแผนการของกู้ฮั่นม่อ

สมุดสองเล่มที่มีความหนาเท่ากับฝ่ามือ ทำให้อวิ๋นหลิงรู้สึกทั้งดีใจและประหลาดใจ

“แผนการสองเล่มนี้เจ้าเตรียมการมานานแค่ไหน”

“หลังจากหนังสือพิมพ์รายงาน ศิษย์ก็เริ่มออกไปเยี่ยมเยือนตามสถานสงเคราะห์เด็กและโรงเรียนเอกชนต่างๆ ใช้เวลาในการเขียนสมุดสองเล่มนี้ประมาณหนึ่งเดือนครึ่ง ระหว่างนั้นหัวหน้าสำนักกู้ก็เคยปรึกษาหารือกับศิษย์และให้การชี้แนะ นอกจากนี้ยังมีการคัดกรองความคิดเห็นบางส่วนจากคนอื่นๆในสภานักเรียน”

อวิ๋นหลิงเปิดสมุดดู ตัวอักษรที่ทรงพลังแฝงด้วยความเข้มแข็งสะท้อนสู่สายตา

นางกวาดตามองคร่าวๆแวบหนึ่ง พบว่ามีหลายจุดที่ถูกทำเครื่องหมายเอาไว้ต่างหาก เห็นได้ชัดว่าเป็นความคิดที่มีคนเสนอแนะ นอกจากนี้ยังมีอีกไม่น้อยที่ผ่านการแก้ไขจากเจ้าอ๋อง

สองสามีภรรยาหยิบขึ้นมาเปิดอ่านคนละเล่ม ไม่ช้าก็อ่านอย่างตั้งใจขึ้นมา

สีหน้าของอวิ๋นหลิงที่เต็มไปด้วยความอยากรู้ในตอนแรกค่อยๆเปลี่ยนเป็นชื่นชมและทอดถอนใจ สุดท้ายก็กลายเป็นความรู้สึกดีใจและภูมิใจจากส่วนลึกของจิตใจ

นางคิดไม่ถึงเลยว่า กู้ฮั่นม่อจะเขียนหนังสือแผนการที่สมบูรณ์เช่นนี้ออกมาได้ ภายในระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น

“เจ้าอยากจะเปิดสาขาวิชาครุศาสตร์ภายใต้สำนักศึกษาพิธีการอย่างนั้นหรือ”

ตอนแรกที่ก่อตั้งสำนักศึกษาชิงอี้ ได้ทำการสร้างโรงเรียนประถมหกแห่งตามที่ทั้งหกกรมในราชสำนักกำหนดขึ้นมาอย่างง่ายๆ

ในช่วงหนึ่งปีครึ่งนั้นนักเรียนจะเรียนวิชาพื้นฐานและวิชาทั่วไป อีกหนึ่งปีครึ่งต่อมาจะสามารถเลือกเรียนวิชาเฉพาะด้านที่ละเอียดยิ่งขึ้น

กู้ฮั่นม่อพยักหน้า เอ่ยอธิบายว่า “ศิษย์เข้าใจว่าท่านคิดจะรออีกสองปี ให้นักเรียนของสำนักศึกษาชิงอี้จบการศึกษาแล้ว สามารถเข้าไปมีส่วนร่วมในการเป็นอาจารย์อาสาสมัครในโรงเรียนอนุบาลเอกชน จะได้แก้ไขปัญหาเรื่องการขาดแคลนอาจารย์หลังจากก่อตั้งโรงเรียนอนุบาล”

“แต่ศิษย์คิดว่า อาจารย์ที่ดีจะสามารถเป็นประโยชน์ต่อผู้คนตลอดชีวิต ผู้คนมักพูดกันว่าสามขวบสามารถมองเห็นนิสัยตอนโตเจ็ดขวบสามารถมองเห็นความเจริญก้าวหน้าทั้งชีวิต ด้วยเหตุนี้ในวัยของนักเรียนในโรงเรียนอนุบาล ต้องเจอกับอาจารย์เช่นไรเป็นเรื่องสำคัญที่สุด”

“แม้ว่าเพื่อนักเรียนบางคนจะมีผลการเรียนดี แต่ไม่ถนัดในการอยู่ร่วมกันกับผู้อื่น อีกทั้งนิสัยใจร้อน ไม่เหมาะสมกับการเป็นอาจารย์อาสาสมัคร ด้วยเหตุนี้ศิษย์คิดว่าก่อนที่พวกเขาจะไปเป็นอาสาสมัคร ยังจำเป็นต้องผ่านการฝึกฝนและคัดเลือกอีกครั้ง”

อวิ๋นหลิงเข้าใจความหมายของกู้ฮั่นม่อ

การเป็นอาจารย์อาสาสมัครไม่สามารถทำเหมือนการเกณฑ์ทหาร จับใครได้ก็ยัดคนคนนั้นเข้าไปในโรงเรียนอนุบาล ผลการเรียนดีไม่ได้หมายความว่าจะมีความสามารถในการสอนที่ดี ยิ่งไปกว่านั้นมีบางคนที่ทนไม่ได้ที่ต้องใช้ชีวิตอยู่กับเด็กสามขวบห้าขวบทั้งวัน

ดังนั้นต้องเปิดสาขาวิชาครุศาสตร์เพื่อดึงดูดนักเรียนที่มีความสนใจ คนเหล่านั้นที่มีมิตรสัมพันธ์ที่ดีมาตั้งแต่เกิด และชื่นชอบเด็กๆ เหมาะสมที่จะเป็นอาจารย์ที่สุด

เกี่ยวกับความคิดนี้ อวิ๋นหลิงก็เคยไตร่ตรองที่จะทำในอีกไปกี่ปีหลังจากนี้ เพียงแต่นางคิดไม่ถึงว่ายังไม่ทันได้เอ่ยขึ้นมา กู้ฮั่นม่อก็สามารถมีความคิดที่ก้าวทันสมัยใหม่เช่นนี้

ราคาของเราเพียงแค่ 1/4 ของผู้ให้บริการรายอื่น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ