เข้าสู่ระบบผ่าน

พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 869

วันนี้ท้องฟ้าสีสวยมาก

ตอนที่ดวงอาทิตย์ในฤดูใบไม้ร่วงโผล่ขึ้นมาแสงทองสาดส่องไปทั่ว แสงสีชมพูอ่อนย้อมเมฆยามเช้าไปครึ่งท้องฟ้า

ท้องฟ้าอีกครึ่งหนึ่งเป็นสีฟ้าสดใส ใต้ท้องฟ้าสดใสมีใบเฟิงที่แดงยิ่งกว่าดอกไม้ในเดือนสอง

ชั้นบนสุดของห้องสมุด หลิ่วชิงเยี่ยนตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้าเพื่อมาเรียบเรียงและเขียนงานธุรการส่วนต่างๆของสภานักเรียน

ยากมากที่หรงรั่วจะไม่เข้าเมืองไปเที่ยวกับไป๋ชวน ช่วยนางเรียบเรียงสมุด ปากก็บ่นพึมพำว่า “งานธุรการของสภานักเรียนหนักมาก กู้ฮั่นม่อเจ้าหมอนั่นทำไมจึงโยนเรื่องทั้งหมดให้เจ้าทำ เขาเป็นหัวหน้าสภานักเรียนนะ”

หลิ่วชิงเยี่ยนยิ้มบางๆ “สำหรับข้อเสนอแนะต่างๆเกี่ยวกับโรงเรียนอนุบาล เขาได้รับการอนุญาตจากพระชายารัชทายาทแล้ว หลังจากนี้คงจะยุ่งมาก ข้าเป็นรองหัวหน้าสภานักเรียน ช่วยเขาจัดการเรื่องต่างๆบ้างก็เป็นงานในหน้าที่”

ก่อนหน้านี้องค์รัชทายาทเคยบอกแล้ว ตำแหน่งของนางเทียบเท่ากับเลขาและผู้ช่วย หน้าที่สำคัญคือช่วยเหลือกู้ฮั่นม่อควบคุมดูแลภาพรวม

เอกสารเหล่านี้ที่ดูเหมือนยุ่งยากซับซ้อนพอจัดการขึ้นมาก็ไม่ได้ยาก แต่ต้องเป็นคนที่ฉลาดรอบคอบจึงจะรับหน้าที่นี้ได้

เนื้อหาในการประชุมทุกครั้ง ล้วนมีนางรับผิดชอบในการบันทึก ช่วยกู้ฮั่นม่อร่างเอกสารขั้นสุดท้าย

นางทำได้ดี กู้ฮั่นม่อจึงจะสบายใจ สภานักเรียนจึงจะสามารถดำเนินงานต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพและราบรื่น

หรงรั่วแลบลิ้น กะพริบตาปริบๆก่อนจะเอ่ยหยอกล้อว่า “ถ้าขืนเขายังเบนความสนใจไปที่อื่นอีกสักพัก ข้าว่าเจ้าคงสามารถ”ชิงตำแหน่ง”มาได้แล้ว”

หลิ่วชิงเยี่ยนยิ้มแต่ไม่พูดอะไร

เป็นผู้นำในสภานักเรียนและศูนย์กลางการติดต่อสื่อสารของระดับล่าง นางไม่ได้พอใจที่จะเป็นแค่เลขาและผู้ถ่ายทอดข่าวสาร

การประชุมทุกครั้ง นางจะจดจำการตัดสินใจที่กู้ฮั่นม่อและหัวหน้าแต่ละฝ่ายได้ปรึกษากันไว้ในใจ และเสนอแนะความคิดของตนเองที่ผ่านการครุ่นคิดอย่างลึกซึ้งเข้าไปด้วย

ดังนั้นแม้ว่ากู้ฮั่นม่อจะไม่อยู่ หลิ่วชิงเยี่ยนก็สามารถออกคำสั่งในนามตัวแทนของหัวหน้าสภาได้ สมาชิกในแต่ละฝ่ายของสภานักเรียนก็ไม่มีใครรู้สึกไม่พอใจ

ขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกัน ห้องน้ำชาในห้องใต้หลังคาจู่ๆก็ถูกผลักออก

หลิ่วชิงเยี่ยนหันไปมอง เมื่อเห็นคนที่มาเยือน ในสายตามีแววประหลาดใจวาบผ่าน

“ท่านแม่ ทำไมจู่ๆท่านจึงมาที่สำนักศึกษา”

รอยยิ้มที่มุมปากของนางแข็งค้าง สีหน้าที่แสดงออกเปลี่ยนเป็นเชื่อฟังและนอบน้อมขึ้นมาในพริบตา

หรงรั่วขมวดคิ้ว ลุกขึ้นตามและเอ่ยว่า “ท่านป้าสามหลิ่ว”

ผู้หญิงที่สวมชุดยาวสีงาช้างปักดิ้นทองเดินเข้ามา ใบหน้าที่สง่างามดูมีเมตตา มุมปากเชิดขึ้นเล็กน้อยตามธรรมชาติ มองใครก็เหมือนกำลังยิ้มให้ เป็นฮูหยินสามหลิ่วนั่นเอง

ข้างกายของนางมีแม่นมแก่ที่สวมชุดยาวสีเขียวนกเป็ดน้ำติดตามมาด้วย ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยย่น ดวงตาเล็กภายใต้หนังตาชั้นเดียว กลับเฉียบคมดูมีชีวิตชีวา

ฮูหยินสามหลิ่วยังไม่ทันได้เอ่ยอะไร แม่นมหยูที่อยู่ข้างๆก็หาเรื่องก่อนเลย

“ต้องถามคุณหนูรองหน่อย บ่าวในจวนมาส่งจดหมายอยู่บ่อยๆ มีเหตุผลอะไรที่ไม่กลับบ้านเป็นเวลาครึ่งเดือนกว่าแล้ว เอาความน่าเกรงขามของแม่ใหญ่ไปไว้ที่ไหน”

เสียงใหญ่แหบแห้งเพิ่งจะพูดจบ แม่นมหยูก็ทำหน้าขรึม จู่ๆก็ยกมือขึ้นตบลงไปที่ใบหน้าของหลิ่วฉิงเยี่ยนฉาดใหญ่

ใครก็คิดไม่ถึงว่าจะถูกหาเรื่องกะทันหัน หรงรั่วนิ่งอึ้งไปชั่วครู่ เห็นใบหน้าของเพื่อนรักบวมเบ่งขึ้นมาอย่างรวดเร็ว รู้สึกโมโหขึ้นมาทันที

“แม่นมหยู เจ้าทำอะไร”

เอ่ยถามด้วยเสียงที่แฝงด้วยไฟโทสะ พวกกู้ฮั่นม่อที่มาหาหลิ่วชิงเยี่ยนเพราะมีธุระต่างก็หยุดฝีเท้าลงที่บันไดไม้อย่างกะทันหัน

เฟิงอู๋จีที่ถูกบังคับให้ช่วยดูแลเด็กๆจูงมือถวนถวนไว้คนละค้าง เมื่อมองตามเสียงไปดวงตาก็มีแววตกตะลึง

ราคาของเราเพียงแค่ 1/4 ของผู้ให้บริการรายอื่น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ