วาจาคมกริบกระแทกใส่หน้าโครมๆ ตั้งความผิดฐานไม่เคารพแม่ใหญ่และเนรคุณให้กับหลิ่วชิงเยี่ยนโดยตรง
หรงรั่วโกรธจนควันออกหู แต่ไม่สามารถโต้แย้งได้
“อย่ามาใช้ไม้นี้ ทั้งที่ไม่ได้ทำผิดก็จะอ้างเหตุผลให้ผิดจงได้ บ่าวรับใช้ไม่ได้พูดก็คือไม่ได้พูด”
แม่นมหยูสีหน้าเคร่งขรึมลง “แม่นางหรงรั่วหมายความว่า ฮูหยินจงใจใส่ร้ายคุณหนูรองอย่างนั้นหรือ”
“เรื่องมันเป็นอย่างไรเจ้าเองก็รู้อยู่แก่ใจไม่ใช่หรือ”
หรงรั่วกำหมัดแน่น ถ้าไม่คำนึงว่าอีกฝ่ายเป็นผู้อาวุโส แทบจะลงมือทำร้ายนายบ่าวสองคนนี้ทันที
ฮูหยินสามหลิ่วได้ยินเช่นนั้น ก็ใบหน้าถอดสี มองดูพวกนางราวกับถูกทำร้ายจิตใจ
“อารั่วคิดเช่นนี้กับป้าได้อย่างไร วันนี้ข้าออกมาจากเมืองหลวงตั้งแต่เช้า มาเชิญชิงเยี่ยนกลับจวนด้วยตนเอง ตอนนี้กลับกลายเป็นว่าจงใจมาหาเรื่องนางอย่างนั้นหรือ”
“แม่นางหรงรั่ว เป็นคนต้องพูดจามีน้ำใจ หลายปีมานี้ฮูหยินปฏิบัติต่อคุณหนูรองอย่างไร คนทั้งเมืองหลวงต่างก็เห็นอยู่ นายท่านรองหรงกับฮูหยินรองหรงก็เห็น ท่านเข้าใจผิดฮูหยินเช่นนี้ คงไม่ใช่เพราะคุณหนูรองแอบพูดอะไรลับหลังให้ท่านฟังกระมัง”
แม่นมหยูพูดถึงตรงนี้ด้วยน้ำเสียงโกรธเคือง ชี้หอกไปที่หลิ่วชิงเยี่ยนอีกครั้ง
“คุณหนูรอง บ่าวรู้ว่าท่านคิดมาตลอดว่าฮูหยินมีความสัมพันธ์ที่ดีกับครอบครัวลูกชายคนรองของตระกูลหรง เพราะได้ประโยชน์จากแม่ผู้ให้กำเนิด ด้วยเหตุนี้จึงรู้สึกไม่พอใจแทนนาง แต่ท่านจะพูดให้ร้ายฮูหยินลับหลังเช่นนี้ไม่ได้ ช่างอกตัญญูจริงๆ ทำให้บ่าวยากจะอดทนได้”
นางยกมือขึ้นอีกครั้งและกำลังจะฟาดลงไป แต่แล้วครั้งนี้กลับมีหนังสือม้วนหนึ่งมาบังเอาไว้
มองตามมือที่เห็นกระดูกข้อต่อได้อย่างชัดเจนนั้นไป เป็นชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาคนหนึ่ง
แม่นมหยูเบิกตากว้าง “คนหนุ่มจากที่ไหนกัน ถึงกล้ายื่นมือเข้ามายุ่งเรื่องของจวนหลิ่ว”
มุมปากของกู้ฮั่นม่อโค้งขึ้นเล็กน้อย รอยยิ้มส่งไปไม่ถึงดวงตา “ผู้น้อยกู้ฮั่นม่อ เป็นประธานสภาของสำนักศึกษาชิงอี้ คำนับฮูหยินสามหลิ่วและแม่นมหยู ที่นี่เป็นห้องสมุด พระชายารัชทายาทมีรับสั่ง ไม่ว่าใครก็ห้ามส่งเสียงเอะอะที่นี่ ใครละเมิดกฎต้องถูกไล่ออกไปจากห้องสมุด เขียนลงในบัญชีดำ ไม่สามารถเข้ามาในนี้หนึ่งเดือน”
พูดจบ เขาก็เดินมาอยู่ตรงหน้าของหลิ่วชิงเยี่ยนอย่างไม่ให้ผิดสังเกต กั้นสองสาวจากนายบ่าวฮูหยินสามหลิ่วเอาไว้
“ส่งเสียงเอะอะอะไรกัน......ข้ากับฮูหยินกำลังลงโทษเพื่อตักเตือนผู้น้อย เจ้าเป็นแค่คนภายนอกมายุ่งเรื่องนี้ ใช้ได้ที่ไหนกัน”
“ที่นี่คือสำนักศึกษาชิงอี้ ไม่ว่านักเรียนจะทำผิดอะไรล้วนมีอาจารย์และผู้ดูแลคอยจัดการ แม่นางหลิ่วเป็นศิษย์ของตำหนักบูรพา ถ้าไม่มีอำนาจพิเศษ ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถก้าวข้ามเพื่อลงโทษตักเตือนลูกศิษย์ขององค์รัชทายาทและพระชายารัชทายาทได้ อย่างน้อยที่สำนักศึกษาชิงอี้เป็นเช่นนี้ แม่นมหยูเป็นผู้ที่ให้ความสำคัญกับกฎระเบียบมาก ทำไมจึงไม่เข้าใจเหตุผลข้อนี้เล่า”
แม่นมหยูสีหน้าเปลี่ยนไป ทำเอาสะอึกจนพูดไม่ออกชั่วขณะ
กู้ฮั่นม่อมองพวกนางด้วยรอยยิ้มจางๆ น้ำเสียงอบอุ่นฟังไม่ออกถึงเจตนาข่มขู่สักนิด แต่กลับแฝงความหมายไล่แขกอย่างไม่ลังเล
“ตอนนี้องค์รัชทายาทและพระชายารัชทายาทก็อยู่ในสำนักศึกษา เพื่อไม่ให้การกระทำของฮูหยินทำให้ทั้งสองพระองค์ไม่พอใจ ทางที่ดีท่านควรจะออกไปก่อน ส่วนเรื่องที่แม่นางหลิ่วทำผิด ผู้น้อยที่เป็นประธานสภา จะรายงานให้ผู้ดูแลตรวจสอบอย่างเข้มงวด ถ้าหากนางมีจุดที่ทำไม่เหมาะสม ผู้ดูแลจะทำการตัดสินอย่างเข้มงวดและยุติธรรม อธิบายให้อาจารย์ได้รู้อย่างแจ่มแจ้ง”
ดวงตาเรียวยาวของฮูหยินสามหลิ่วหรี่ลงเล็กน้อย แววตาคลุมเครือมองกู้ฮั่นม่ออย่างวิเคราะห์
แม้จะอยู่ในเรือนด้านหลัง นางก็เคยได้ยินชื่อกู้ฮั่นม่อ รู้ว่าเขาเป็นคนที่ตำหนักบูรพาให้ความสำคัญ
แม้จะมีชาติกำเนิดยากจน ก็ใช่ว่าจะล่วงเกินได้ง่ายๆ
ฮูหยินสามหลิ่วหูตาไม่แคบ นางรู้ว่าคนคนนี้ภายหน้าจะมีอนาคตที่ไม่อาจประมาณการได้ จึงเกิดความคิดขึ้นมาในใจ
นางยังมีลูกสาวอีกสองคนที่ยังไม่แต่งงาน ถ้าหากสามารถคบหากับเขาได้ บางทีภายหน้าสายเลือดของครอบครัวลูกชายคนที่สามของตระกูลหลิ่วจะสามารถลืมตาอ้าปากได้เสียที
แต่ยังไม่ทันได้อ้าปากพูดจาดีๆแม้แต่คำเดียว ถวนถวนทั้งสองคนก็ก้าวเท้าเล็กๆวิ่งเข้ามา ต่างก็มองนางกับแม่นมหยูราวกับมองศัตรู
ฮั่วถวนทำเสียงขึ้นจมูก แก้มสองข้างป่องขึ้นมา
“เป็นป้าสกปรกมาจากไหนกัน ถึงได้กล้าพูดจาจาบจ้วงลูกชายของข้า”
ฮูหยินสามหลิ่วได้สติกลับมา มีสีหน้าตกตะลึงทันที รีบคุกเข่าลงคำนับ
“หม่อมฉันคำนับองค์รัชทายาท พระชายารัชทายาทขอพระองค์ทรงพระเจริญเพคะ”
แม่นมหยูนิ่งอึ้ง มองไปทางถวนถวนทั้งสอง พอได้สติก็มีอาการลนลานขึ้นมาทันที
นางคุกเข่าลงกับพื้น โขกหัวยอมรับผิด ริมฝีปากที่สั่นระริกซีดเผือด เหงื่อเย็นผุดขึ้นมาที่แผ่นหลัง
“บ่าวสมควรตาย บ่าวสมควรตาย เป็นบ่าวที่หูตาฝ้าฟาง ดูไม่ออกว่าเป็นพระนัดดาทั้งสองพระองค์ ขอองค์รัชทายาทและพระชายารัชทายาทอภัยด้วยเพคะ”
พี่น้องสองคนรีบก้าวเท้าสั้นๆโผไปกอดขาของเซียวปี้เฉิงเอาไว้
“ท่านพ่อ แม่มดร้ายดุมาก ตีพี่สาวด้วย”
อวิ๋นหลิงเลิกคิ้วขึ้น มองฮูหยินสามหลิ่วก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงขรึมเคร่ง “อยู่ตั้งไกลก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายในห้องน้ำชาไม่หยุด ทำไมฮูหยินสามหลิ่วต้องมาตำหนิลูกศิษย์ข้าถึงที่นี่ พื้นที่ในจวนหลิ่วไม่พอให้เจ้าจัดการเรื่องในบ้านหรืออย่างไร”
สีหน้าของฮูหยินสามหลิ่วแข็งค้าง คิดไม่ถึงว่าตัวเองจะดวงซวยเช่นนี้ วันนี้มาแสดงอำนาจกับเด็กสาวคนนี้โดยเฉพาะ บังเอิญมาพบเข้ากับสองสามีภรรยารัชทายาทพอดี
“พระชายารัชทายาทอย่าทรงกริ้ว หม่อมฉันมาสำนักศึกษาชิงอี้เป็นครั้งแรกไม่รู้กฎระเบียบของที่นี่ หวังว่าพระองค์จะทรงให้อภัยด้วย”
นางรู้สึกกระสับกระส่ายในใจ รีบคำนวณถึงสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในตอนนี้อย่างรวดเร็ว ไม่ช้าก็ใจเย็นลง
พ่อสามีที่เป็นอาลักษณ์กรมอาญาเป็นแกนนำที่อยู่ในฝ่ายของตำหนักบูรพา พี่ชายของพระชายารัชทายาทฉู่อวิ๋นเจ๋อทำงานอยู่ในกรมอาญา เป็นเพื่อนร่วมงานของลูกชาย ปกติก็มีความสัมพันธ์ที่ไม่เลว
เห็นแก่สายสัมพันธ์เหล่านี้ พระชายารัชทายาทไม่น่าจะถือสาอะไร

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
ทำไมซื้อตอนไม่ได้คะ...
เติมเหรียญอย่างไร...
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......