คิดไม่ถึงว่าจะถูกเซียวปี้เฉิงตำหนิด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “บ้านมีกฎบ้านเมืองมีกฎเมือง ไม่มีกฎเกณฑ์ไม่สามารถทำอะไรให้สำเร็จได้ ทำผิดแล้วใช่ว่าจะพูดแค่ว่าไม่รู้ก็แล้วกันไปได้ เช่นนั้นนักโทษที่อยู่ในคุกศาลต้าหลี่เหล่านั้น ก็ต้องถูกปลดปล่อยเพียงเพราะว่าเป็นผู้ไม่รู้ย่อมไม่ผิดอย่างนั้นหรือ”
ฮูหยินสามหลิ่วนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง คิดไม่ถึงว่ารัชทายาทจะหักหน้านางต่อหน้าผู้น้อยทั้งหลายถึงเพียงนี้ สีหน้าที่มีแววอบอุ่นนอบน้อมแข็งค้างไปหลายส่วน
สิ่งที่ยิ่งทำให้หัวใจของนางหนักอึ้งก็คือ รัชทายาทหมายความว่าจะลงโทษพวกนางอย่างนั้นหรือ
เห็นได้ชัดว่าแม่นมหยูรับรู้ถึงจุดนี้ รีบโขกหัวปกป้องเจ้านายก่อนทันที กัดฟันโขกพื้นเสียงดังโป๊ก
“องค์รัชทายาทอย่าทรงกริ้วเพคะ ล้วนเป็นบ่าวที่ทำผิดกฎ และเป็นบ่าวเองที่ตาบอดทำกิริยาไร้มารยาต่อพระนัดดา บ่าวยินดีรับโทษ ไม่เกี่ยวกับฮูหยินเลยเพคะ”
นี่เป็นวิธีการที่แม่นมหยูใช้จนชิน ปกติถ้าหากทำผิดอะไร นางที่เป็นคนแก่แสดงท่าทีน่าเวทนาสงสารเช่นนี้ออกมา เจ้านายในจวนต่างก็ไม่มีใครถือสาเอาเรื่องแล้ว
กลับคิดไม่ถึงว่าสีหน้าของอวิ๋นหลิงจะขรึมเคร่งลง นางกำลังคิดว่าแม่นมแก่คนนี้เหมาะสมที่จะคู่กับอาลักษณ์กรมพิธีการคนก่อนที่ชอบหาเรื่องเอาหัวชนกำแพง
“เอาล่ะเอาล่ะ เจ้าอยากจะรับโทษก็รับไป ใครใช้ให้เจ้าโขกหัวกัน พื้นของที่นี่ทำจากไม้ เจ้าจงใจรบกวนผู้อื่นหรืออย่างไร ข้างกำแพงมีป้ายอักษรใหญ่ติดอยู่มองไม่เห็นอย่างนั้นหรือ หรือว่าจงใจอยากจะมีเรื่องกับข้า”
นางชี้ไปที่ด้านข้าง มองเห็นประตูไม้ทั้งสองข้างมีป้ายอักษรติดอยู่สองแผ่น
ด้านซ้ายเขียนว่า”รักษาความสงบ” ด้านขวาเขียนว่า “อย่าส่งเสียงดัง”
ใบหน้าของแม่นมหยูเปลี่ยนเป็นสีแดงสลับเขียว บนหน้าผากบวมขึ้นมาเป็นก้อนเล็กน้อย อ้ำอึ้งไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี
“บ่าว......”
“หุบปาก ข้าถามฮูหยินสามหลิ่ว เจ้าจะพูดแทรกตลอดทำไม หรือว่าเจ้าสามารถเป็นตัวแทนตระกูลหลิ่วตอบคำถามข้าได้”
เซียวปี้เฉิงมองนางด้วยสายตาเย็นชาแวบหนึ่ง สายตากวาดมองไปยังคนที่อยู่ตรงนั้นรอบหนึ่ง สายตาหยุดลงที่ใบหน้าบวมเบ่งของหลิ่วชิงเยี่ยน ขมวดคิ้วแน่น
“ข้าไม่อยากฟังทำอธิบายยอมรับผิดของพวกเจ้า แค่อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น หรงรั่วฮั่นม่อ พวกเจ้าเป็นคนนอก ต้องเล่าเรื่องราวตามความเป็นจริงทั้งหมดอย่างเป็นกลาง”
หรงรั่วเห็นว่ามีคนช่วยตัดสินแทนพวกนางได้แล้ว จึงรีบเล่ารายละเอียดที่มาที่ไปของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นออกมา
จากนั้นนางก็เอ่ยอย่างขุ่นเคืองว่า “ท่านป้าสามหลิ่ว พูดปากเปล่าไร้หลักฐาน ท่านมั่นใจได้อย่างไรว่าชิงเยี่ยนจงใจปฏิเสธไม่กลับจวน ถ้าหากเป็นบ่าวรับใช้ที่ส่งข่าวผิดพลาดเล่า”
ฮูหยินสามหลิ่วใช้ความคิดอย่างรวดเร็ว ท่าทีของสองสามีภรรยารัชทายาททำให้นางมองความจริงออกแล้ว รู้สึกประหลาดในใจที่นางเด็กชั้นต่ำคนนี้จะได้รับความสนใจจากตำหนักบูรพาถึงเพียงนี้
เรื่องในวันนี้ไม่สามารถปล่อยให้บานปลายจนควบคุมไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
นางยังคงคุกเข่าอยู่กับพื้น เอ่ยด้วยสีหน้ารู้สึกผิด “องค์รัชทายาท อารั่วพูดถูก ชิงเยี่ยนเป็นเด็กกตัญญูมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว น่าจะเป็นเพราะเมื่อวานสำนักศึกษามีคนมากและเสียงดังเอะอะ ตอนที่บ่าวรับใช้มาส่งข่าวนางจึงได้ยินไม่ชัดเจน”
อารั่วแบะปาก “ตอนนี้คิดได้แล้วหรือ เมื่อครู่ตอนที่แม่นมตบนางทำไมท่านจึงคิดไม่ได้”
ฮูหยินสามหลิ่วได้แต่ทำเป็นไม่ได้ยิน อดไม่ได้ที่จะอธิบายต่ออวิ๋นหลิงอย่างนอบน้อม “หม่อมฉันไม่เคยโทษชิงเยี่ยน แต่เมื่อครู่อารั่วได้พูดว่าทั้งที่ไม่ได้ทำผิดก็จะอ้างเหตุผลให้ผิดจงได้ คาดว่าพวกนางคงจะเข้าใจหม่อมฉันผิด แม่นมหยูจึงได้คิดมากขึ้นมาชั่วขณะ”
อวิ๋นหลิงอดไม่ได้ที่จะกลอกตา
“ฮูหยินสามหลิ่ว เจ้าช่างน่าสนใจจริงๆ เสื้อผ้าอะไรจำเป็นต้องให้ชิงเยี่ยนไปจึงจะสามารถสั่งตัดได้ ทั้งๆที่รู้ว่านางยุ่ง เจ้าไม่รู้จักส่งหญิงรับใช้มาถามขนาดหรือ หรือเจ้าคิดว่ามีเพียงการพาลูกของอนุภรรยาไปสั่งตัดเสื้อผ้าด้วยกัน จึงจะสามารถแสดงด้านที่เป็นแม่ผู้มีเมตตาของตนเองให้คนอื่นเห็นได้”
“คนที่คุ้นเคยกับเจ้าคงคิดว่าเจ้าสงสารเป็นห่วงลูกสาว คนที่ไม่รู้คงคิดว่าเจ้ามาหาเรื่องนางโดยเฉพาะ แม้แต่ขนาดเสื้อผ้าที่ลูกใส่ก็ยังไม่รู้ นี่เรียกว่าปฏิบัติต่อนางราวกับลูกในไส้อย่างนั้นหรือ”
อวิ๋นหลิงแอบตำหนิอยู่ในใจ ฮูหยินสามหลิ่วคนนี้เป็นคนฉลาดทันคน ปากก็พูดเก่งมาก แสดงละครก็ยอดเยี่ยม
ถึงว่าเฟิงอู๋จีบอกว่าอดีตแม่ใหญ่ของนางเผชิญหน้ากับหญิงคนนี้ ไม่กี่กระบวนท่าก็ถูกกำราบราบคาบ
ไม่ใช่คู่ต่อสู้ในระดับเดียวกันเลย
ฮูหยินสามหลิ่วน้ำตาไหลพราก มองหลิ่วชิงเยี่ยนอย่างกระตือรือร้น “ชิงเยี่ยน นิสัยของแม่นมหยูเจ้าก็รู้ดี เมื่อครู่นางร้อนใจจนเข้าใจเจ้าผิด เจ้าอย่าถือสาเลยดีหรือไม่”
หลิ่วชิงเยี่ยนกุมหน้าและค่อยๆหันไปสบตาฮูหยินสามหลิ่ว ใบหน้าที่กระตือรือร้นและโทษตัวเองนั้น ในดวงตามีแววข่มขู่เย็นชาวาบผ่าน
นางรู้ว่านั่นหมายความว่าอย่างไร ถ้าหากไม่ออกหน้ายุติเรื่องนี้ ภายหน้าอย่าคิดว่าจะได้ใช้ชีวิตอยู่ในจวนหลิ่วอย่างสงบสุขเลย
แต่ว่า......โอกาสที่ดีเช่นนี้ นางจะปล่อยไปได้อย่างไร
ฮูหยินสามหลิ่วแสดงบทเป็นคนดีตลอด แม่นมหยูต่างหากที่เป็นบ่าวที่รู้ใจ เป็นมีดในมือของนาง
ถูกเอาเปรียบและลำบากมาสิบกว่าปี ล้วนอยู่ภายใต้การแสดงที่เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยของนายบ่าวสองคนนี้
เมื่อก่อน จวนหลิ่วไม่มีใครตัดสินใจแทนนางได้
ตอนนี้ แม่นมหยูวิ่งเข้ามาหาเรื่องสองสามีภรรยารัชทายาทเอง
นางจะพลาดโอกาสที่จะกำจัดผู้ช่วยมือดีของฮูหยินสามหลิ่วได้อย่างไร

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
ทำไมใช้เหรียญไม่ได้ติดต่อกันเป็นอาทิตย์ละคะ...
ทำไมแสดงความคิดเห็น แล้วข้อความหายอ่ะ...
ซื้อตอนแล้วไม่ได้ปลดล๊อคค้างไว้เหรอคะ แบบนี้ก็ย้อนกลับมาอ่านไม่ได้สิคะ มือกดโดนผิดวิ่งไปหน้าอื่นต้องเสียเงินอีกรอบงี้เหรอ...
ทำไมซื้อตอนปลดล๊อคแล้ว กลับไปย้อนอ่านต้องปลดล๊อคใหม่คะ...
ทำไมตอนซื้อแล้วล๊อคไม่ได้คะ...
ทำไมซื้อตอนแล้วเปิดหน้าใหม่แล้วย้อนกลับไปอ่านไม่ได้คะ ล๊อคเหมือนเดิมต้องจ่ายเงินซื้อใหม่ตลอดรึคะ...
ทำไมปลดล๊อคแล้ว กดข้ามไปตอนใหม่แล้วย้อนกลับมาอ่านไม่ได้คะ...
ทำไมซื้อตอนไม่ได้คะ...
เติมเหรียญอย่างไร...
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...