เข้าสู่ระบบผ่าน

พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 872

คิดถึงตรงนี้ หลิ่วชิงเยี่ยนคุกเข่าลงอย่างไม่ลังเล บนใบหน้าเล็กสวย มองไปทางสองสามีภรรยาอวิ๋นหลิงอย่างนอบน้อมจริงใจ

“องค์รัชทายาท พระชายารัชทายาท......หลายปีมานี้ท่านแม่ดูแลใส่ใจข้าทุกเรื่อง ทุ่มเททั้งใจ ชิงเยี่ยนเชื่อว่าท่านแม่นั้นมีความลำบากใจจริงๆ ไม่ได้จงใจหาเรื่องอย่างแน่นอน ท่านแม่ตั้งใจดีถึงเพียงนี้ ภายหน้าก็คงไม่ปล่อยให้ข้าต้องได้รับความลำบาก นี่เป็นวาสนาของชิงเยี่ยน ส่วนแม่นมหยู......”

พูดถึงตรงนี้ หลิ่วชิงเยี่ยนก็ชะงักไป ใบหน้าที่อ่อนโยนเต็มไปด้วยความเข้าใจ

“นางเป็นแม่นมของท่านแม่ เมื่อครู่ที่ตบข้าเพราะมีใจปกป้องลูกสาว ชิงเยี่ยนไม่ถือสา เพียงแต่เรื่องที่แม่นมหยูละเมิดกฎของสำนักศึกษาหลายครั้ง ทั้งยังพูดจาจาบจ้วงพระนัดดา ขอองค์รัชทายาทและพระชายารัชทายาทลงโทษสถานเบา”

ตอนที่ฮูหยินสามหลิ่วได้ยินครึ่งประโยคแรกก็รู้สึกโล่งใจ แต่ประโยคหลังของนางกลับพูดถึงสิ่งที่ไม่ควรพูด หัวใจบีบแน่นขึ้นมาทันที มีลางสังหรณ์ไม่ดีขึ้นมา

“แม่นมหยูอายุมากแล้ว คงรับความเจ็บปวดจากการลงโทษโบยไม่ได้ ด้วยเหตุนี้ชิงเยี่ยนจึงขอร้องท่านทั้งสองโปรดเมตตา ไว้ชีวิตนางสักครั้ง ลงโทษจากหนักเป็นเบาโดยการไล่ออกจากจวนหลิ่วก็พอ”

พูดจบ นางก็โขกศีรษะคำนับเบาๆหนึ่งครั้ง

ฮูหยินสามหลิ่วอดไม่ได้ที่จะมองไปทางหลิ่วชิงเยี่ยนด้วยสายตาตกใจระคนขุ่นเคือง ไฟโทสะในใจลุกโชนขึ้นมา

เคยเอ่ยถึงเรื่องลงโทษโบยตั้งแต่เมื่อไหร่กัน

นางหนูคนนี้ถึงกับกล้าราดน้ำมันบนกองไฟต่อหน้านาง หวังจะไล่แม่นมหยูออกจากจวน ช่างบังอาจยิ่งนัก

เซียวปี้เฉิงย่อมยินดีที่จะปกป้องนักเรียนของตนเอง เขาโบกมือ เอ่ยขึ้นด้วยท่าทีพยายามอย่างสุดความสามารถว่า “แล้วไปเถอะ เห็นแก่เจ้าที่ปกติเรียนหนักมาก ครั้งนี้จะไว้ชีวิตแม่นมหยูสักครั้ง ต่อไปอย่าได้ทำเช่นนี้อีก”

“ฮูหยินสามหลิ่ว แม่นมคนนี้อาศัยว่ามีฐานะเป็นแม่นมที่เคยเลี้ยงดูเจ้า วางอำนาจบาตรใหญ่ข้ามหน้าข้ามตาเจ้า นางไม่เห็นเจ้านายอยู่ในสายตาถึงเพียงนี้ ไม่แน่ว่าวันใดวันหนึ่งอาจนำหายนะมาให้ก็ได้ หายนะมาตกที่นางก็แล้วไปเถอะ หากเกี่ยวพันถึงชื่อเสียงของจวนหลิ่วจะเป็นเรื่องใหญ่ เจ้าอย่าได้ตามใจให้บ่าวรับใช้คนนี้ทำเรื่องชั่ว มิเช่นนั้นไม่ช้าก็เร็วต้องกระทบต่อชื่อเสียงของอาลักษณ์หลิ่ว เจ้าให้เงินกับนางก้อนหนึ่ง รีบส่งนางกลับไปเกษียณที่บ้านเกิดเถอะ ข้าไม่อยากจะเห็นนางอีก”

ได้ยินเช่นนั้น แม่นมหยูก็รู้สึกตกตะลึงมาก

ฮูหยินสามหลิ่วที่มีไฟโทสะร้อนรุ่มเต็มหัวใจราวกับถูกน้ำเย็นราดลงมา รู้สึกเย็นวาบไปจนถึงกระดูกสันหลัง

องค์รัชทายาทเอาตระกูลหลิ่วมาอ้าง นางไม่สามารถโต้แย้งได้แม้แต่คำเดียว

หากตระกูลหลิ่วเสียหายฝ่ายที่อยู่กับตำหนักบูรพาก็เสียหายไปด้วย อีกฝ่ายต้องการให้ไล่แม่นมหยูออก ไม่ว่าจะด้านความรู้สึกหรือเหตุผลนางก็ไม่สามารถเอ่ยปากเหนี่ยวรั้งได้

หน้าผากของฮูหยินสามหลิ่วมีเหงื่อเย็นผุดออกมา ไม่ว่าอย่างไรก็คิดไม่ถึงว่าการมาในวันนี้ จะทำให้ตัวเองถูกลากเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย

เซียวปี้เฉิงเห็นนางไม่ตอบ ก็ขมวดคิ้วพูดว่า “ทำไม เจ้าไม่เห็นด้วยกับคำสั่งของข้าหรือ”

“หม่อมฉันมิกล้า ขอบพระทัยองค์รัชทายาทที่ทรงเมตตา”

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เช่นนั้นพวกเจ้าก็ถอยออกไปเถอะ” เซียวปี้เฉิงโบกมือ ยังไม่ลืมที่จะหันไปพูดกับกู้ฮั่นม่อว่า “ฮั่นม่อ อย่าลืมทำตามกฎจดรายชื่อเอาไว้ในบัญชีดำ ภายในสามเดือนห้ามเข้ามาในห้องสมุดเด็ดขาด”

“ศิษย์รับบัญชา”

กู้ฮั่นม่อตอบ เผลอมองไปทางหลิ่วชิงเยี่ยนแวบหนึ่ง มุมปากโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มจางๆ

เขารู้มาตลอดว่าแม่นางคนนี้เป็นจิ้งจอกน้อยที่แสนฉลาด แค่หยอกล้อเป็นครั้งคราว มักจะทำท่าเฉยเมยกับเขา

ในที่สุดวันนี้ก็ได้เห็นจิ้งจอกน้อยตัวนี้เผยกรงเล็บที่แหลมคมออกมาแล้ว

กรงเล็บนี้ดุดันมาก สามารถทำร้ายคนได้ครึ่งชีวิตเลย

ได้ยินบทสนทนาระหว่างเซียวปี้เฉิงและศิษย์ ฮูหยินสามหลิ่วที่ถูกประคองจากไปร่างกายโซเซเล็กน้อย ความรู้สึกอัปยศอดสูและความโกรธอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนพุ่งขึ้นมาในใจ เร่งให้นางรีบเดินออกไปจากห้องน้ำชา

อาศัยจังหวะที่พวกผู้ใหญ่ตรวจดูอาการบาดเจ็บของหลิ่วชิงเยี่ยน เสวี่ยถวนแอบปีนขึ้นไปบนเก้าอี้ข้างหน้าต่าง เขย่งปลายเทาขึ้นมามองลงไปทางด้านล่างของหอสูง

เห็นสองนายบ่าวฮูหยินสามหลิ่วเดินไปถึงลานด้านหน้าแล้ว ในดวงตาของเขามีประกายสีฟ้าเย็นเฉียบวาบผ่าน จากนั้นก็กระโดดลงมาจากเก้าอี้

ไม่นานนัก นอกห้องสมุดก็มีเสียงกรีดร้องดังขึ้นมา ตามติดมาด้วยเสียงร้องตกใจและเสียงหลุดหัวเราะของเหล่านักเรียน

เห็นแค่ฮูหยินสามหลิ่วที่เดินอยู่ดีๆ ไม่รู้เท้าลื่นอะไร ลากแม่นมหยูไถลออกไปไกลถึงสามเมตร

ราคาของเราเพียงแค่ 1/4 ของผู้ให้บริการรายอื่น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ