เข้าสู่ระบบผ่าน

พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 874

ได้ยินถึงตรงนี้ หรงรั่วที่อยู่ข้างๆอดไม่ได้ที่จะเอ่ยขึ้นมาว่า

“ใช่ไหมล่ะ อย่าว่าแต่น้าหลิ่วดูธาตุแท้ของนางไม่ออกเลย แม้แต่ท่านแม่ข้ากับฮูหยินสามหลิ่วรู้จักกันมาตั้งหลายปี ยังคิดว่านางใจกว้างมีเมตตา ทุกครั้งที่ข้าแสดงคำพูดไม่พอใจต่อฮูหยินสามหลิ่วเพียงเล็กน้อย นางก็ต้องตำหนิข้าอย่างรุนแรง”

พอคิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาหรงรั่วก็รู้สึกโมโห นางรู้สึกว่าตัวเองเสียเปรียบอยู่ในกำมือฮูหยินสามหลิ่ว อย่างน้อยก็กึ่งหนึ่งของหลิ่วชิงเยี่ยน

นางที่ถูกพ่อแม่ทะนุถนอมราวกับแก้วตาดวงใจ ครั้งเดียวที่ถูกลงโทษด้วยการใช้ไม้บรรทัดตีที่ฝ่ามือ ก็เป็นเพราะฮูหยินสามหลิ่ว

หลิ่วชิงเยี่ยนเม้มปาก เอ่ยด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ฮูหยินสามหลิ่วกับท่านป้าหรงเป็นเพื่อนสนิทกันมาหลายปี ยิ่งไปกว่านั้นนางแค่เป็นปกปักกับข้า ไม่เคยเสแสร้งแกล้งทำต่อหน้าท่านป้าหรง”

ฮูหยินสามหลิ่วและฮูหยินรองหรงเคยเป็นเพื่อนร่วมชั้น ทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ไม่เลวตลอดมา

กระทั่งในระยะเวลาที่ยาวนานนี้ ฮูหยินสามหลิ่วยังรู้สึกว่า ฮูหยินรองหรงเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของนาง ทั้งสองพูดคุยกันได้ทุกเรื่อง

ดังนั้นตอนที่ท่านน้าหลิ่วเข้ามาอยู่ในจวน นางได้เล่าเรื่องราวที่ปวดร้าวพร้อมน้ำตาให้เพื่อนรักฟัง

ตอนแรกฮูหยินรองหรงรู้สึกรังเกียจท่านน้าหลิ่วมาก กระทั่งเพื่อระบายความคับแค้นใจแทนฮูหยินสามหลิ่ว ยังเคยไปวางมาดข่มขู่นางถึงจวนหลิ่วเป็นการเฉพาะ

สุดท้ายคิดไม่ถึงว่า ท่านน้าหลิ่วจะเป็นหญิงที่ซื่อบื้อ มองความหมายที่ซ่อนอยู่ใต้สีหน้านั้นไม่ออก ยังคิดว่าเป็นคนดีที่มาแสดงความห่วงใยต่อตนเอง

เข้าใจผิดอยู่เช่นนี้หลายครั้ง ไม่ช้าฮูหยินรองหรงก็เปลี่ยนความคิดที่มีต่อท่านน้าหลิ่ว กระทั่งทั้งสองกลายเป็นเพื่อนสนิทที่รู้ใจที่รู้จักกันช้าไป

นางหันกลับมาปลอบใจฮูหยินสามหลิ่ว

“อาหรู หยาเอ๋อร์มีชีวิตอาภัพ จิตใจนางไม่เลว เดินมาถึงจุดนี้ก็อยู่เหนือการควบคุมของตนเอง”

“หยาเอ๋อร์ละทิ้งตำแหน่งอนุภรรยาที่ถูกกฎหมายเอง ดูออกว่านางไม่ใช่ผู้หญิงที่หวังจะแย่งชิงความโปรดปราน ข้าจะช่วยเจ้าค้นหาโสมบำรุงร่างกายที่ดีที่สุดให้เจ้า เจ้าพักฟื้นสุขภาพให้ดี ภายหน้าต้องมีลูกได้อีกแน่”

ฮูหยินสามหลิ่วได้ยินคำพูดประโยคนี้ ก็รู้สึกหดหู่มาก

นางไม่เข้าใจว่าหลิ่วหยาเอ๋อร์มีเสน่ห์อะไร อีกฝ่ายทำให้ลูกของนางต้องตาย ทำให้สามีของนางต้องปันใจ ตอนนี้แม้แต่เพื่อนรักของนางก็ถูกแย่งชิงไปด้วย

นางรู้สึกเกลียดผู้หญิงคนนี้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน นางโกรธท่าทีของเจ้าสามหลิ่วและฮูหยินรองหรง

อีกทั้ง ครรภ์นี้ของนางได้กระทบต่อร่างกาย ภายหน้าหากจะตั้งครรภ์อีกคงไม่ง่าย

คำพูดนี้นางไม่กล้าเปิดเผยกับคนภายนอก เกรงว่าครอบครัวสามีจะไม่ชอบนาง

ต่อมา นางเห็นท่านน้าหลิ่วให้กำเนิดลูกอย่างราบรื่น ท่าทีดีใจของเจ้าสามหลิ่ว ก็ยิ่งอดไม่ได้ที่จะคิดถึงลูกของตนเองที่เกิดมาก็ต้องตาย

เขายังไม่ได้เห็นหน้าบิดาผู้ให้กำเนิดตนเองเลยด้วยซ้ำ

จะไม่ให้แค้นในใจได้อย่างไร

ดีที่ในครอบครัวผู้สูงศักดิ์มีกฎระเบียบมาก นางหลับตายังสามารถทำให้หญิงคนนี้ได้รับบทเรียน แล้วทำให้คนอื่นไม่ชอบนาง กระทั่งถูกเจ้าสามหลิ่วตำหนิ

หลังจากนั้นนางก็ออกหน้าช่วยคลี่คลายสถานการณ์ของท่านน้าหลิ่ว ได้รับชื่อเสียงที่ดีจากการเป็นคนดีใจกว้างอย่างง่ายๆ รวมไปถึงได้รับความซาบซึ้งใจและเชื่อมั่นจากท่านหน้าหลิ่ว

ฮูหยินสามหลิ่วไม่ร้อนใจเลยสักนิด นางรู้ว่าเป็นเช่นนี้ต่อไป ไม่ช้าก็เร็วต้องทำให้ความรักและความใจกว้างที่คนในตระกูลหลิ่วท่านน้าหลิ่วหมดไป ถึงเวลาสิ่งที่เป็นของนางก็จะกลับมาอยู่ในมือของนาง

เพียงแต่เป็นเช่นนี้อยู่แค่สามปี ท่านน้าหลิ่วก็ตายโดยไม่คาดคิด

วันที่ไปขอพรที่วัด มีฮูหยินสามหลิ่ว ฮูหยินรองหรงและท่านน้าหลิ่วไปด้วยกัน

ตอนที่เกิดเหตุชุลมุน รถม้าของจวนหลิ่วโชคดีหลุดออกจากวงล้อมไปก่อน

ฮูหยินสามหลิ่วร้องตะโกนให้ฮูหยินรองหรงอดทนเอาไว้ นางจะกลับไปขอกำลังเสริม แต่ในใจก็รู้ดี ฮูหยินรองหรงคงรอดยาก

ท่านน้าหลิ่วอยู่ในรถม้าคันเดียวกับนาง รถม้าไปได้ไม่ไกลนางก็กระโดดลงมา

ปกติเซียวปี้เฉิงทำงานราชการต้องไปมาหาสู่กับกรมอาญาบ่อยมาก เจ้าสามหลิ่วที่อายุสี่สิบกว่าอยู่ในกลุ่มชายวัยกลางคนที่มีพุงใหญ่ยื่นออกมา เป็นผู้ที่มีหน้าตาและความสามารถโดดเด่นเสมอมา

หรงรั่วที่อยู่ข้างๆเอ่ยต่อไปว่า “ท่านอาสามหลิ่วก็เป็นเช่นนี้ คำพูดดีหรือร้ายฟังไม่ออก เวลาที่มีคนพูดประชดเสียดสี เขาก็คิดว่าคนอื่นกำลังชมเขา ยังชมกลับอย่างถ่อมตนอีกด้วย เวลามีคนพูดกับเขาด้วยเจตนาดี เขากลับรู้สึกไม่พอใจขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุ ทำเอาสับสนกันไปหมด”

เซียวปี้เฉิงพยักหน้า “ดังนั้นเรื่องส่วนใหญ่ของครอบครัวลูกชายคนที่สามของตระกูลหลิ่วมีฮูยินสามหลิ่วคอยจัดการ เจ้าสามหลิ่วจึงให้ความเคารพกับภรรยาเอกคนนี้มาก”

อวิ๋นหลิงได้ยินเช่นนั้น อดไม่ได้ที่จะบ่นในใจ ถึงว่าทำไมจึงได้ชื่นชอบผู้หญิงอย่างท่านน้าหลิ่ว

ทั้งสองอยู่ด้วยกัน ให้กำเนิดลูกสาวที่ฉลาดปราดเปรื่องอย่างหลิ่วชิงเยี่ยน ก็นับว่าเปลี่ยนร้ายกลายเป็นดีแล้ว

ยังต้องขอบคุณบททดสอบของฮูหยินสามหลิ่ว

นางมองไปทางหลิ่วชิงเยี่ยนด้วยความเห็นใจและสงสาร “ชิงเยี่ยน หลายปีมานี้เจ้าลำบากมากจริงๆ”

พบเข้ากับแม่ใหญ่ที่เก่งในการเล่นกับความรู้สึกคน กับพ่อที่ไม่เข้าใจเรื่องมนุษยสัมพันธ์ ถึงว่าหลายปีมานี้จึงได้แต่เลือกที่จะปิดบังไม่แสดงความสามารถออกมา

หลิ่วชิงเยี่ยนยิ้มพลางส่ายหน้า “ท่านพ่อนอกจากมีนิสัยไร้เดียงสาไปหน่อย หลายปีมานี้ก็ปฏิบัติต่อข้าไม่เลวเลย”

มิเช่นนั้น ตอนนี้นางก็คงไม่ได้อยู่ในสำนักศึกษาชิงอี้

ฮูหยินสามหลิ่วไม่อยากให้นางหลุดจากการควบคุม คิดหาทุกวิถีทางให้นางกลับจวนตลอดมา เป็นท่านพ่อที่ดึงดันจะให้นางทำตามที่ใจต้องการ

อวิ๋นหลิงได้ฟังถึงตรงนี้ ก็ยากจะตัดสินคนอย่างเจ้าสามหลิ่วได้

ถ้าอยู่ในศตวรรษที่ยี่สิบสาม คงถูกด่าจนเป็นกระทู้มาแรงแน่ๆ

แต่ในโบราณนี้ การกระทำของเขาล้วนถูกสอดคล้องกับมาตรฐานคุณธรรมที่เป็นอยู่ กระทั่งเป็นคนดีในสายตาของคนทั่วไป

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ