เข้าสู่ระบบผ่าน

พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 881

ความคิดถูกดึงออกมาจากความทรงจำ เสวียนจีเอามือเท้าค้างมองไปบนท้องฟ้าสีครามด้วยความรู้สึกโศกเศร้าเล็กน้อย

หลังจากที่ตื่นขึ้นมา เฟิ่งเหมียนเป็นคนแรกที่นางรู้จักและมีเจตนาดีต่อนาง

แม้ปกติจะชอบเอะอะโวยวาย ทำให้อีกฝ่ายโกรธแทบตายอยู่เสมอ แต่ก็เป็นคนในครอบครัวของนางในโลกใบนี้ที่มีความหมายอย่างแท้จริง

หลังจากนี้ พวกเขาจะกลายเป็นเส้นขนานแล้ว

คิดถึงตรงนี้ เสวียนจีก็พนมมือขึ้นมา หลับตาลงและทำท่าภาวนาจุดธูปที่ไม่มีอยู่จริงกลางอากาศให้กับเฟิ่งเหมียน

“อมิตาพุทธ เง็กเซียนฮ่องเต้ หยวนซื่อเทียนจุน……โปรดคุ้มครองให้นกโง่มีชีวิตอยู่ในแคว้นตงฉู่อย่างมีความสุขราบรื่น หลุดพ้นจากอุปสรรคด้านความรักในชีวิต ได้แต่งงานกับหญิงสาวที่งดงามเพียบพร้อม หลุดพ้นจากการเป็นโสด......”

ในยุคที่รถม้าเดินทางได้ช้า จดหมายต้องส่งไปไกลแสนไกลนี้ การจะพบเจอกันแม้ห่างพันลี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ครั้งหน้าถ้าได้เจอเฟิ่งเหมียน บางทีอาจผ่านไปนานมากแล้ว

จู่ๆก็หาคนที่จะมาทำเรื่องไร้สาระเป็นเพื่อนนางไม่ได้แล้ว

ในใจของเสวียนจีเกิดความรู้สึกหดหู่ขึ้นมาเป็นครั้งแรก

นางคิดว่าบางทีตัวเองอาจจะโตขึ้นแล้วจริงๆ เดิมทีที่ไร้ความกังวล กลับมีความรู้สึกหวั่นวิตกเพราะการจากลาอยู่หลายส่วน

เสวียนจีที่ชอบกระโดดโลดเต้นเสมอมา ยากมากที่จะนั่งอย่างนิ่งสงบอยู่ใต้ต้นไม้ของสวนหลวงเป็นเวลาครึ่งวัน

ตอนที่ยินถังเข้าวังอีกครั้ง ก็เห็นภาพนี้เข้า

หญิงสาวหน้าตางดงามนั่งอยู่ใต้ต้นไม้คนเดียว บนใบหน้ามีแววกลัดกลุ้มจางๆ ทำให้ต้องก้าวเข้าไปหาอย่างไม่รู้ตัว

“แม่นาง ทำไมเจ้าจึงมานั่งเศร้าอยู่ที่นี่คนเดียวเล่า”

เสวียนจีได้สติกลับมา ก็พบว่าเป็นชายหนุ่มสวมเสื้อสีม่วงหน้าตาหล่อเหลา กำลังมองนางด้วยรอยยิ้มอบอุ่นและเป็นกันเอง

นางเผลอขมวดคิ้วขึ้นมา รู้สึกว่ารอยยิ้มเป็นกันเองของคนคนนี้จอมปลอมเกินไป ทำให้รู้สึกไม่ค่อยสบายใจอยู่บ้าง

เขาสวมชุดสีม่วงที่หรูหรา ทำให้เสวียนจีอดไม่ได้ที่จะคิดถึงเฟิ่งเหมียน

เฟิ่งเหมียนก็มักจะสวมใส่ชุดนักพรตสีม่วงอ่อน ว่ากันว่าในลัทธิเต๋า นี่ถูกขนานนามว่า “ชุดแห่งเทพลัทธิเต๋า” มีเพียงเขาที่เป็นปรมาจารย์อันเป็นที่เคารพจึงจะสามารถสวมใส่ตลอดเวลาได้

ผู้ชายคนนี้สวมชุดสีม่วงดูไม่ดีเลยสักนิด ไม่มีทั้งเสน่ห์ที่เย้ายวนเหมือนพี่เขยเศรษฐีหนุ่ม และไม่มีความสุภาพสง่างามเหมือนกับเฟิ่งเหมียน

“เจ้าเป็นใคร”

“ข้าน้อยยินถัง ขอบังอาจถามแม่นางว่าชื่ออะไร”

ริมฝีปากของยินถังโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มจางๆ โค้งคำนับให้นาง ถามทั้งที่รู้คำตอบอยู่แล้ว

เสวียนจีสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย ดวงมาเหลือบมองเขาอย่างประหลาดใจ เจ้าหมอนี่เป็นคนที่ทำเรื่องชั่วร้ายลับหลังพี่สามคนนั้นใช่หรือไม่

จุ๊ๆๆ นางอยู่ของนางดีๆไม่ไปหาเรื่องซวยให้อีกฝ่าย แต่อีกฝ่ายกลับเดินเข้ามาหาเอง

“ข้าคือจินหยวนเป่า”

ยินถังเอ่ยขึ้นราวกับเพิ่งกระจ่าง “ที่แท้ก็น้องหยวนเป่านี่เอง ข้ากับพี่ชายเจ้าท่านอ๋องจินเป็นเพื่อนรักกัน ปกติก็ไปมาหาสู่กันบ่อย ถ้าเจ้าไม่รังเกียจก็สามารถเรียกข้าว่าพี่ชายได้เช่นกัน”

ดวงตากลมโตสีเหลืองอำพันของเสวียนจีกลอกไปมาอย่างรวดเร็ว ก็รู้ว่าเจ้าหมอนี่ต้องการทำดีหวังผล แปดในสิบส่วนต้องมีแผนร้ายอยู่ในใจแน่

นางหรี่ตาลงและยิ้มพลางเรียกอย่างอ่อนหวานว่า “ที่แท้ก็เป็นพี่ยินถังนี่เอง”

ยินถังเห็นนางมีท่าทีใสซื่อไร้เดียงสา ดูหลอกลวงได้ง่ายมาก รอยยิ้มก็ยิ่งเป็นกันเองมากขึ้น

“น้องหยวนเป่าทำไมมานั่งอยู่ที่นี่คนเดียว ดูเจ้าเหมือนจะมีเรื่องในใจ หรือว่ามีใครรังแกเจ้าอย่างนั้นหรือ”

เสวียนจีส่ายหน้า เอ่ยเศร้าๆว่า “ไม่ ข้าเพิ่งจะกลับมาแคว้นต้าโจว ข้างกายไม่มีเพื่อนเล่นเลยสักคน รู้สึกคิดถึงเพื่อนที่อยู่แคว้นตงฉู่อยู่บ้าง”

“ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้นี่เอง” สายตาของยินถังมีแววสงสารวาบผ่าน “น้องสาวข้าอายุพอๆกับเจ้า หลังจากก็มาเที่ยวที่จวนอาลักษณ์บ่อยๆ ถ้าหากรู้สึกว่าไม่คุ้นเคยกับแคว้นต้าโจว พรุ่งนี้ข้าจะพาเจ้าไปเดินเล่นในเมืองหลวง”

ยากจะหาโอกาสได้ ย่อมต้องไม่ปล่อยโอกาสที่จะตีสนิทให้หลุดมือไป

ถือว่าเขาโชคดี ที่เจอกับจินหยวนเป่าที่นอกจากมีพี่ชายแล้ว ข้างกายก็ไม่มีญาติอะไรเลย ส่งคนมาอยู่ข้างกายนางให้มากหน่อย พอคุ้นเคยแล้วจะได้ควบคุมได้ง่ายๆ

ยินถังได้ยินเช่นนั้น ความชื่นชมที่มีในแววตาก็ยิ่งเข้มข้นขึ้นมาหลายส่วน

ก่อนหน้านี้เขาเคยตรวจสอบแล้ว ก่อนหน้านี้จินหยวนเป่าใช้ชีวิตอยู่ในแคว้นตงฉู่ เพราะทางนั้นมีศึกสงคราม ถูกบีบให้อยู่ที่นั่นปีกว่าก่อนจะเดินทางกลับแคว้นต้าโจว

ยังพูดภาษาตะวันตกได้ด้วย ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจมาก

“ขอบคุณน้องหยวนเป่า เช่นนั้นข้าก็ไม่ปฏิเสธ”

“ถ้าอย่างนั้นพี่ต้องตั้งใจฟังให้ดีนะ ข้าจะสอนแค่รอบเดียว ประเดี๋ยวพอท่านไปเจอชาวตะวันตก ก็ให้พูดกับพวกเขาว่า......ฟัค ยู มัม”

ยินถังทวนเบาๆสองรอบ พยักหน้าด้วยสีหน้าจริงจัง “ข้าทำได้แล้ว”

เห็นเวลาไม่เช้าแล้ว เขาก็ไม่กล้าจะเสียเวลาอีกต่อไป กล่าวลาง่ายๆแล้วก็จากไป

“ฮิๆๆ......ฮึๆๆ......”

หลังจากยินถังจากไปแล้ว เสวียนจีก็หัวเราะงอหาย ผ่านไปครู่ใหญ่กว่าจะกุมท้องเดินจากไป

หลังอาหารเที่ยง อวิ๋นหลิงกำลังคิดจะนอนกลางวันสักหน่อย ก็เห็นเซียวปี้เฉิงเดินเข้ามาในตำหนักบรรทมด้วยสีหน้าแปลกประหลาด

“ท่านต้อนรับชาวตะวันตกที่ห้องตำรามิใช่หรือ ทำไมจึงได้กลับมาเร็วเช่นนี้”

“......ตอนที่เจรจากันเกิดเหตุไม่คาดคิดเล็กน้อย พระชายาเยี่ยนอ๋องกำลังปลอบใจชาวตะวันตกกลุ่มนั้นอยู่”

อวิ๋นหลิงเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ “เกิดเรื่องอะไรขึ้น”

“เมื่อครู่ยินถังเข้าวัง ก็ไม่รู้ว่าเขาคิดจะทำบ้าอะไร พอเข้ามาก็พูดกับชาวตะวันตกพวกนั้นทีละคนว่าฟัคยูมัม......”

เซียวปี้เฉิงเคยเรียนภาษาตะวันตกกับอวิ๋นหลิง ย่อมรู้ว่าประโยคนั้นหมายถึง'เย็ดแม่' ถูกยินถังทำให้ตกตะลึงไปทันที

ชาวตะวันตกผิวขาวตัวสูงใหญ่ได้ยินคำพูดประโยคนี้แล้วต่างก็นิ่งอึ้ง ใบหน้าแดงก่ำด้วยความรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที

จากนั้นก็พุ่งเข้าไปต่อยยินถังหนึ่งหมัด ทำเอาเขาเลือดกำเดาไหล ตอนนี้ยังสลบอยู่เลย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ