อวิ๋นหลิงฟังแล้ว ความคิดแรกก็คือยินถังมีอาการชัก
“เขาอยากได้โอกาสดูแลการค้าทางทะเลไม่ใช่หรือ ข้ายังได้ยินว่าทางจวนเขาใช้เงินจำนวนมากจ้างครูจากแคว้นตงฉู่ที่สามารถสอนภาษาตะวันตกได้มาสอนเป็นพิเศษ ต่อไปวางแผนจะให้เป็นล่ามแปล เขาเพียรพยายามมาครึ่งเดือนแล้วก็ร่ำเรียนได้เพียงเท่านี้เองหรือ”
เซียวปี้เฉิงส่ายหน้าเป็นเชิงบอกว่าเขาก็ไม่รู้เหมือนกัน แล้วก็เอ่ยด้วยความยินดีปรีดาในความทุกข์ของผู้อื่น “ไม่ว่าอย่างไร คราวนี้ยินถังก็หมดโอกาสก้าวก่ายการค้าทางทะเล หยวนโม่เรียนภาษาต่างประเทศมาครึ่งค่อนปีแล้ว ถึงจะไม่ค่อยเก่งนัก แต่ด้วยความช่วยเหลือของพระชายาเยียนอ๋อง เขาจึงได้เป็นผู้ดูแลการค้าทางทะเล”
ด้วยการสร้างถนนหลวงและถนนสายการค้าในที่ต่างๆ ของแคว้นต้าโจว บัดนี้การค้าระหว่างตะวันออกเฉียงใต้และตะวันตกเฉียงเหนือจึงติดต่อกันบ่อยขึ้น นอกจากสินค้าตะวันตกแล้ว เวลานี้สินค้าท้องถิ่นจากเปอร์เซียและชมพูทวีปก็หลั่งไหลเข้ามาเป็นระยะ
นับตั้งแต่สมัยโบราณกาลจนถึงปัจจุบัน การเรียนรู้ภาษาต่างประเทศล้วนมีอนาคตที่สดใสและมีประโยชน์อย่างยิ่ง
สมัยที่เซียวปี้เฉิงประจำการอยู่ที่ชายแดนเมืองสุยห้าปี ก็เรียนรู้ภาษาทูเจวียด้วยตัวเองในช่วงที่ว่างเว้นสงคราม จึงเข้าใจประเพณีและนิสัยของศัตรูเป็นอย่างดี
มิฉะนั้น เขาคงไม่ชนะศึกมากมายได้อย่างง่ายดายเช่นนี้ กลายเป็นบุคคลที่น่าเกรงขามในหมู่พวกอนารยชน
ด้วยเหตุนี้หลังจากเปิดถนนสายการค้าที่ขยายออกไปทุกทิศทุกทางแล้ว ราชสำนักก็กำลังพิจารณาจะจัดฝึกอบรมระยะยาวให้กับบรรดาขุนนางด้วย
โม่อ๋องเป็นคนมองการณ์ไกลมาตลอด ตอนที่เพิ่งเข้ามาในกรมคลัง ก็เป็นฝ่ายขอความช่วยเหลือจากพระชายาเยียนอ๋องให้ช่วยจัดหาอาจารย์มาสอนภาษาต่างประเทศ
อวิ๋นหลิงเคยคิดจะจัดตั้งวิชาเอกภาษาต่างประเทศในสำนักศึกษาชิงอี้ แต่จนใจที่ผู้มีความสามารถสาขานี้หายากยิ่งนัก หาผู้ที่สันทัดภาษาต่างประเทศในแคว้นต้าโจวได้ไม่กี่คน ก็ได้แต่ฝากความหวังไว้กับแคว้นตงฉู่
แต่ทว่าเวลานั้น สงครามระหว่างแคว้นตงฉู่กับญี่ปุ่นกำลังดุเดือด ดังนั้นเรื่องการก่อตั้งสาขาวิชาเอกภาษาต่างประเทศจึงยุติไว้ก่อน
บัดนี้สงครามสิ้นสุดลง เรื่องนี้ก็ถูกหยิบยกเข้าสู่วาระการประชุมอีกครั้ง พระชายาเยียนอ๋องสัญญาว่าจะช่วยหากลุ่มคนในแคว้นตงฉู่ที่เชี่ยวชาญภาษาต่างประเทศกับภาษาญี่ปุ่นมาเป็นอาจารย์ที่สำนักศึกษาชิงอี้
แต่อวิ๋นหลิงไม่ได้คิดจะรวมภาษาต่างประเทศไว้ในหลักสูตรภาคบังคับ ยามนี้ระดับการศึกษาของชาวแคว้นต้าโจวไม่สูงนัก ต้องเรียนภาษาจีนให้เข้าใจก่อนเป็นเรื่องสำคัญที่สุด
ภายภาคหน้าสำนักศึกษาชิงอี้จะเปิดวิทยาลัยภาษาต่างประเทศแยกต่างหาก นอกเหนือจากหกสาขาวิชากับโรงเรียนแพทย์แล้ว จะดำเนินการสอนแบบกำหนดเป้าหมายและสอบวัดผลแยกกัน
คิดมาถึงตรงนี้ อวิ๋นหลิงก็อดพูดอย่างติดตลกไม่ได้ “ดูท่ายินถังจะหาอาจารย์ไม่ค่อยดีนัก หากภายหน้าเขาอยากมีส่วนร่วมในการค้าต่างประเทศ คงจะต้องผ่านการสอบภาษาต่างประเทศระดับสี่ ระดับหกและระดับแปดที่สำนักศึกษาชิงอี้ก่อน”
เซียวปี้เฉิงก็หัวเราะ “เมื่ออาจารย์ที่สอนภาษาต่างประเทศถูกซื้อตัวเข้าสู่สำนักศึกษาชิงอี้หมด หากขุนนางในราชสำนักคนใดอยากเรียนและสอบในอนาคต ก็จะต้องผ่านด่านของสำนักศึกษาก่อนเช่นกัน”
เช่นนี้ ขุนนางที่ไร้ความสามารถและคิดแต่จะกินเบี้ยหวัดสบายๆ ทั้งหลายก็จะต้องถูกไล่ออกไปหมด!
ที่เขาต้องการคือคนฉลาดและมีความสามารถ
อวิ๋นหลิงไม่ได้ใส่ใจอาการของยินถังมากนัก เพียงคิดว่าเขาหาอาจารย์สอนภาษาต่างประเทศที่ไม่น่าเชื่อถือ
ยินถังเองก็เคราะห์ร้ายเช่นกัน อันที่จริงช่วงครึ่งเดือนนี้เขาเรียนภาษาต่างประเทศได้ค่อนข้างดี อย่างไรเสียเขาเป็นจอหงวนที่ไร้น้ำยากับวิชาความรู้ใหม่ๆ พรสวรรค์ก็มีเพียงเท่านั้น
แต่อาจารย์ดีๆ ที่ไหนจะสอนให้ลูกศิษย์ใช้คำสบถ นับประสาอะไรกับคำว่า ‘ฟักยู’ ยินถังไม่เคยได้ยินคำว่า ‘สติวปิด’ และ ‘บิชชี่’ มาก่อนด้วยซ้ำ
คำพูดที่เกินจริงและน่าตื่นเต้นที่สุดที่เขาเคยได้ยินจากปากอาจารย์สอนภาษาต่างประเทศคือ ‘โอ้โน’ และ ‘โอ้มายก๊อด’
คราวนี้เขาสะดุดตกลงไปในกับดักที่เสวียนจีขุดไว้
ดังนั้นเมื่อเขาฟื้นขึ้นมาก็กระวนกระวายใจรู้ว่าเขาก่อปัญหาใหญ่หลวงเข้าแล้ว เขาจึงไปฟ้องทูตด้วยอารามตื่นเต้นทันทีว่าเขาถูกหลอก
ทูตฟังแล้วก็เงียบไปสักพัก แต่ก็รู้ว่าจินหยวนเป่าเป็นอาคันตุกะของตำหนักบูรพา เขาจึงปลอบใจยินถัง แล้วให้นางกำนัลไปรายงานที่ตำหนักบูรพา สอบถามว่ามีความเข้าใจผิดอันใดหรือไม่
เมื่อข่าวไปถึงตำหนักบูรพา หางตาอวิ๋นหลิงก็กระตุกสองสามทีอย่างอดมิได้
“ให้มันได้อย่างนี้สิ ข้าไม่ควรเชื่อใจเจ้าเลย ที่ยอมเชื่อว่าแม่หมูจะปีนต้นไม้ได้ เจ้านี่มันเปลี่ยนนิสัยมาเป็นเด็กดีไม่ได้เลยจริงๆ”
“เอ่อ หึๆๆ...ข้าเจอชายคนนั้นโดยบังเอิญที่สวนหลวง เขาเข้ามาชวนคุยตีสนิทเอง ข้าอดใจไม่ไหว เลยอยากจะล้างแค้นให้ท่าน!”
เสวียนจีที่กำลังกินขนมเค้กไก่ทอดก็หัวเราะแห้งๆ สองที เบิกตาโตมองอวิ๋นหลิงอย่างน่าสงสาร พยายามทำตัวน่ารักกลบเกลื่อน
คราวนี้เซียวปี้เฉิงถือหางอยู่ข้างเสวียนจี กล่าวอย่างเห็นด้วย “ข้าคิดว่าครั้งนี้แม่สาวน้อยทำได้เยี่ยมไปเลย ถือว่าเป็นการช่วยหยวนโม่เตะตระกูลยินออกจากความร่วมมือการค้าทางทะเลได้โดยไม่ต้องเปลืองแรงแต่อย่างใด”

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
ทำไมซื้อตอนไม่ได้คะ...
เติมเหรียญอย่างไร...
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......