พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 89

เมื่อได้รับฟังความคิดของเซียวปี้เฉิงแล้ว ฉู่อวิ๋นเจ๋อก็กลับไปยังจวนเหวินกั๋วกงเพื่อรายงานภารกิจ ฉู่อวิ๋นเจ๋อเพิ่งกลับไปได้ไม่นาน พ่อบ้านเฉียวเย่ก็มายังเรือนหลันชิงแล้ว

หลังจากพระเจ้าหลวงกลับไป ถึงแม้เซียวปี้เฉิงจะไม่นอนเตียงเดียวกับอวิ๋นหลิง แต่ก็ไม่ได้แยกเรือนกันอยู่แล้ว

ตอนนี้อากาศดี ท้องฟ้าปลอดโปร่ง ดอกไม้ในสวนผลิบานอย่างสดใส เฉียวเย่มองอวิ๋นหลิงที่กำลังตากสมุนไพรในศาลา

นางสวมอาภรณ์สีเขียวอ่อน เส้นผมดกดำมีดอกโบตั๋นปักอยู่ ผีเสื้อสีขาวจึงบินอยู่ตรงนั้นไม่ไปไหน

เขาลังเลชั่วครู่ ก่อนจะเดินไปยังห้องนอนของเซียวปี้เฉิงเบาๆ

“เฉียวเย่?”

เซียวปี้เฉิงกำลังหลับตารวบรวมสมาธิ ฝึกควบคุมพลังจิตตามที่อวิ๋นหลิงบอก ยามนี้เขาฝึกพลังจิตถึงขั้นว่องไวแล้ว สามารถจับทิศทางตำแหน่งที่ข้ารับใช้ในจวนอยู่ได้

เฉียวเย่เพิ่งก้าวเข้าประตูเรือนหลันชิง เซียวปี้เฉิงก็รู้ว่าเขามาแล้ว

“ท่านอ๋อง ข้าน้อยรบกวนท่านแล้ว”

เฉียวเย่ค้อมกายคำนับอย่างนอบน้อม รีบกล่าวเสียงทุ้มต่ำว่า “เมื่อครู่องครักษ์เย่มาหาข้าน้อย บอกว่าเยียนอ๋องอยากเจอพระชายามากพ่ะย่ะค่ะ”

เซียวปี้เฉิงทำหน้าเข้าใจ เอ่ยเสียงเรียบ “เขารู้เรื่องฉู่อวิ๋นหานแล้วใช่ไหม?”

“เรื่องของคุณหนูรองฉู่เป็นที่พูดถึงทั่วบ้านทั่วเมือง ไม่รู้คงยากพ่ะย่ะค่ะ”

คนนอกล้วนสันนิษฐานว่าการตกน้ำของฉู่อวิ๋นหานเกี่ยวข้องกับพระชายาจิ้งอ๋อง เพราะนางแอบชอบรุ่ยอ๋อง และอิจฉาฉู่อวิ๋นหานมานาน ทำแบบนี้ได้ก็ไม่แปลกใจสักนิด

เยียนอ๋องสนิทกับฉู่อวิ๋นหานาย่อมร้อนรนใจธรรมดา จึงอยากถามอวิ๋นหลิงให้กระจ่างโดยเร็ว

ทว่าช่วงนี้เฉียวเย่ก็รู้จักนิสัยของพระชายาแล้ว ดังนั้นจึงไม่กล้าถ่ายทอดคำสั่ง หันมารายงานเซียวปี้เฉิงแทน

เซียวปี้เฉิงพยักหน้า พูดเสียงเบาว่า “เรื่องนี้ไม่ต้องรบกวนอวิ๋นหลิง ข้าจะไปหาอวี้จือเอง”

อวิ๋นหลิงไม่ควรโดนใส่ร้ายป้ายสีและไม่ควรรับผิดในสิ่งที่ตัวเองไม่เคยก่อ เขาควรล้างมลทินให้นางได้แล้ว

ภายในเรือนเยียนหุยมีแสงแดดสอดส่องเข้ามากำลังดี

แสงตะวันฉายผ่านใบไม้ลงมา เยียนอ๋องกำลังนั่งตากแดดบนเก้าอี้ เมื่อไม่ต้องเจ็บปวดเพราะพิษเย็นอีก ชีวิตของเขาก็สุขสำราญขึ้นเป็นกอง

“พี่สาม?”

เมื่อเห็นเซียวปี้เฉิงมา เยียนอ๋องก็แปลกใจเล็กน้อย จากนั้นก็มองด้านหลังเขา แต่ก็ไม่พบอวิ๋นหาน

“เจ้าอยากถามเรื่องของฉู่อวิ๋นหานกับอวิ๋นหลิงใช่หรือไม่?”

เยียนอ๋องทำหน้ากระอักกระอ่วน รีบอธิบายว่า “พี่สามอย่าเข้าใจผิด ข้าแค่จะถามนางว่าคืนนั้นเกิดอะไรขึ้น ไม่ได้จะโทษนาง”

ถึงให้คำนึกความรู้สึกของฉู่อวิ๋นหานเพียงใด แต่เยียนอ๋องก็พูดจาทำร้ายจิตใจอวิ๋นหลิงไม่ลง เพราะอวิ๋นหลิงคือผู้มีพระคุณอันล้นหลามต่อราชวงศ์ตระกูลเซียว

ยิ่งไปกว่านั้นเขาเห็นกับตาว่ายามนี้อวิ๋นหลิงมีท่าทีเช่นไรต่อรุ่ยอ๋อง ไม่ได้หลงใหลในตัวรุ่ยอ๋องแล้ว ดังนั้นจึงไม่เชื่อว่าสตรีอัปลักษณ์จะไปทำร้ายฉู่อวิ๋นหาน

เซียวปี้เฉิงมองเขาด้วยแววตาสุขุม กล่าวเสียงเรียบว่า “ฉู่อวิ๋นหานโดนอวิ๋นหลิงถีบลงน้ำจริงๆ”

เยียนอ๋องงงเป็นไก่ตาแตก “อะไรน่ะ?”

เมื่อรู้ว่าเกิดเรื่องกับฉู่อวิ๋นหาน แวบแรกเขาก็คิดว่าเป็นฝีมือของอวิ๋นหลิง แต่เวลาต่อมาก็ตัดความคิดนี้ทิ้งไป

เขาหาเหตุผลเพื่อให้อวิ๋นหลิงหลุดพ้นจากข้อหานี้อย่างยากเย็น แต่เขากลับบอกว่าเป็นฝีมืออวิ๋นหลิงจริงๆ

เย่เจ๋อเฟิงก็มองเขาด้วยแววตาแปลกใจ วันนั้นเขาเฝ้ารักษาความปลอดภัยอีกชั้นหนึ่ง ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

ได้ยินดังนั้น หลินซินก็ทนไม่ไหว ตบโต๊ะด้วยความเกรี้ยวกราด “เป็นนางจริงหรือ? แล้วเหตุใดเจ้าถึงปกป้องนางต่อหน้ารัฐทายาทหรงกับฉู่อวิ๋นเจ๋อด้วย? หรือเจ้าไม่รู้ว่านางทำร้ายอวิ๋นหานหนักแค่ไหน?”

สีหน้าเยียนอ๋องก็ดูไม่ได้เลย “พี่สาม หรือเป็นเพราะท่านอยากให้นางรักษาขาของข้า จึงปล่อยให้นางทำผิดตามใจชอบ...”

นอกจากเรื่องนี้แล้ว เขาก็คิดเหตุผลอย่างอื่นที่เซียวปี้เฉิงปกป้องนางไม่ได้แล้ว

เซียวปี้เฉิงส่ายหน้า พูดเข้มขรึมช้าๆว่า “ข้าปกป้องอวิ๋นหลิงเพราะนางไม่ได้รับความเป็นธรรม ส่วนฉู่อวิ๋นหาน...”

เขาหยุดพูดสักพัก น้ำเสียงเปลี่ยนมาเย็นเยียบมากขึ้น

“คือผลแห่งการกระทำนางเอง”

หลินซินหน้าถอดสี เบิกตากว้างแล้วเอ่ยว่า “ปี้เฉิง เจ้าพูดอะไรน่ะ?”

นางไม่เข้าใจว่าปกติเซียวปี้เฉิงจะรักฉู่อวิ๋นหานเต็มหัวใจ ไยถึงพูดเช่นนี้ออกมาได้

เซียวปี้เฉิงยกมือขึ้น นิ้วเรียวยาวคีบกระดาษที่ยับยู่ยี่วางบนโต๊ะหิน

สายตาเขาเย็นยะเยือก เล่าเรื่องที่เกิดบนเรือสำราญให้ฟังด้วยเสียงเย็นเฉียบ

“เจ้าบอกว่าอวิ๋นหานคิดจะทำร้ายหรงฉาน และพยายามยัดเยียดความผิดให้ฉู่อวิ๋นหลิงหรือ?” หลินซินได้ยินก็ตกตะลึง น้ำเสียงเปี่ยมไปด้วยความเหลือเชื่อ “เป็นไปได้อย่างไร”

ดวงตาเซียวปี้เฉิงมืดมน กล่าวเสียงเย็นเยียบ “ข้าเห็นเองกับตา นางเอากระดาษอันนี้ใส่ในแจกันดอกไม้ จะเป็นเท็จได้อย่างไร?”

ได้ยินดังนั้นทุกคนก็ทำหน้าตกตะลึง

“พี่สาม ดวงตาท่านหายดีแล้วหรือ?”

เซียวปี้เฉิงพยักหน้า “เริ่มดีขึ้นตั้งแต่หลายวันก่อนแล้ว นางไม่รู้ จึงทำเรื่องนี้ต่อหน้าข้า”

เขาไม่คิดจะปิดบังอีกต่อไป ไม่ว่าอย่างไรถามที่อวิ๋นหลิงเคยสัญญาไว้ ปลายเดือนนี้ดวงตาเขาก็หายดีแล้ว ซึ่งอีกไม่กี่วันก็จะสิ้นเดือนแล้วด้วย

เซียวปี้เฉิงไม่มีทางพูดปดมดเท็จ เยียนอ๋องได้สติก็หน้าซีดขาว ตกใจอย่างยิ่ง

“อวิ๋นหาน...อวิ๋นหานทำเรื่องแบบนี้เป็นด้วย?”

“ปี้เฉิง เจ้าแน่ใจนะว่าไม่ได้ดูผิด? แล้วทำไมอวิ๋นหานต้องไปทำร้ายคุณหนูหรงแห่งจวนเจิ้นกั๋วกงด้วย”

ผู้ที่ยอมรับไม่ได้เลยคือหลินซิน นางเป็นอาจารย์ของฉู่อวิ๋นหานอย่างไม่เป็นทางการ คนในเมืองหลวงค่อนข้างเคารพนาง และนางก็ภาคภูมิใจที่มีลูกศิษย์หน้าตาดีและเก่งอย่างฉู่อวิ๋นหานด้วย

เซียวปี้เฉิงยกยิ้มเย้ยหยัน พูดด้วยแววตาเรียบเฉย “นางกับข้าผูกพันกันเพียงนั้น นางยังวางอุบายใส่ข้าได้ แล้วจะมีอะไรเป็นไปไม่ได้อีก?”

เยียนอ๋องกำกระดาษไว้แน่น มองเซียวปี้เฉิงด้วยแววตาหดหู่ ถามเสียงแหบพร่า “พี่สาม ท่านกำลังพูดถึงเรื่อง..งานเลี้ยงคืนหยวนเซียวหรือ?”

“ใช่”

เมื่อเขารู้ความจริงแล้ว เขาก็ต้องประกาศให้ทุกคนรู้

ฉู่อวิ๋นหลิง แล้วก็อวิ๋นหลิงโดนด่ากับเรื่องที่ไม่สมควรโดนด่ามาเยอะแล้ว

“สิ่งที่สตรีอัปลักษณ์พูดเป็นความจริงหรือ?”

เยียนอ๋องเคยด่าอวิ๋นหลิงว่าเลวระยำแค่ไหน แต่ตอนนี้นางคือผู้โดนทำร้าย เขายากจะยอมรับได้

หากเป็นความจริง อวิ๋นหลิงถีบฉู่อวิ๋นหานลงแม่น้ำแล้วอย่างไร เพราะโดนทำร้ายหนักปานนี้ ต่อให้ฆ่านางทิ้งก็ไม่ถือว่าทำเกินไป

“ทำไม...ทำไมถึงเป็นแบบนี้”

เยียนอ๋องนั่งบนเก้าอี้หวายด้วยความตะลึงพรึงเพริด พึมพำเสียงเบา

ดรุณีน้อยที่เปรียบดั่งดอกบัวบริสุทธิ์บนยอดหุบเขาในสวรรค์ ไยจึงทำเรื่องโหดร้ายเยี่ยงนี้ได้?

แม้พระอาทิตย์ในเดือนหกจะร้อนแรง แต่เยียนอ๋องก็รู้สึกเหมือนน้ำแข็งทิ่มกลางใจ และมีอะไรบางอย่างพังทลายลง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ