เวลาย้อนกลับไปตอนเกือบบ่ายสามโมงกว่าๆ
ในอีกมุมหนึ่งของสำนักศึกษาชิงอี้ เฟิงอู๋จีกำลังประลองกับผู้คนที่เดินผ่านไปมาว่าเขาสามารถแก้กลโจโฉแหกค่ายได้เร็วแค่ไหน
เทียบกับรายการเกมอื่นๆ ที่น่าตื่นตาตื่นใจ กระดานประลองของเขาไม่ค่อยน่าดึงดูดใจนัก ของรางวัลล่อตาล่อใจให้มาร่วมแข่งขันก็ไม่สูง
ราคายี่สิบอีแปะประลองได้หนึ่งครั้ง หากเอาชนะผู้ท้าชิงได้ก็จะได้รับรางวัลหนึ่งร้อยตำลึงเงิน ผู้สัญจรไปมาต่างก็สนใจมาร่วมประลอง
ตรงหน้าเฟิงอู๋จีมีของเล่นช่วยเพิ่มพูนสติปัญญาที่ประณีตสวยงามมากมาย เช่น กลเก้าห่วงและตัวต่อไม้หลู่ปัน ขอเพียงผู้มาเยี่ยมชมยินดี เขาสามารถแข่งขันกับผู้คนนับสิบได้ในเวลาเดียวกันเพื่อดูว่าใครจะแก้ปริศนาได้เร็วกว่ากัน
ผ่านไปสองวันครึ่ง เฟิงอู๋จีก็ยังหาเงินได้ไม่ถึงสามตำลึง
แต่เขาไม่สนใจผลกำไรว่าได้กี่มากน้อย เพราะรางวัลหนึ่งร้อยตำลึงเงินเป็นของสำคัญที่เขาตั้งใจเตรียมไว้ให้หลี่เมิ่งชูเป็นพิเศษ
“นี่ มือของชายหนุ่มผู้นี้คล่องแคล่วจริงๆ สมองก็ทำงานเร็วมาก ข้ายังไม่เคยเห็นใครแก้ปริศนาได้เร็วขนาดนี้มาก่อน”
“ยินดียอมแพ้ ยินดียอมแพ้!”
“ได้ยินมานานแล้วว่ามียอดฝีมือผู้เก่งกล้าอยู่ที่นี่ บัดนี้ได้มาประลองแล้ว สมคำร่ำลือจริงๆ ข้าขอเลื่อมใส”
เฟิงอู๋จียิ้มเล็กยิ้มน้อย ก่อนเก็บเหรียญกว่าหนึ่งร้อยอีแปะเข้ากระเป๋า “ขอบคุณทุกท่านที่ออมมือ”
กล่าวจบ เขาก็ฉวยจังหวะที่หลี่เมิ่งชูยังไม่มา เริ่มประลองกับคนอื่นๆ อีกหลายคน
ใต้ต้นไม้ที่อยู่ไกล มีร่างสองร่าง คนหนึ่งอายุมากหน่อย คนหนึ่งอายุน้อยหน่อยกำลังมองเฟิงอู๋จีจากระยะไกล
ใบหน้าของเฟิ่งเหมียนดูไม่สู้ดีนัก “เจ้าเอาแต่มองคนผู้นั้นอยู่ที่นี่มานานแล้วทุกวันเลย ไม่ไปประลองกับเขาเสียที จะมายืนอยู่ท่ามกลางลมหนาวที่นี่ทำไม”
เสวียนจีโบกมือโดยไม่หันไปมอง “แหมๆ ข้าได้ดูเขาก็มีความสุขแล้ว ถ้าท่านรู้สึกเบื่อก็ไปเล่นเองสิ ข้าไม่ได้ขอให้ท่านมายืนรับลมกับข้าที่นี่สักหน่อย!”
ได้ยินเช่นนี้ ใบหน้าของเฟิ่งเหมียนก็ขรึมลงอย่างเห็นได้ชัด เขาเม้มริมฝีปาก พูดด้วยเสียงเข้ม
“มีอะไรน่าสนใจขนาดนั้นเชียว เมื่อก่อนตอนอยู่แคว้นตงฉู่ เจ้าบอกว่าของเล่นพวกนี้มีไว้สำหรับเด็ก เจ้าไม่ชอบมันเลยไม่ใช่หรือ”
“ของเล่นน่าเบื่อก็จริง แต่คนต่างหากที่น่าสนใจ” เสวียนจีลูบคางไปมา แล้วมองเฟิงอู๋จีด้วยความชมชอบ “หนุ่มหล่อผู้นี้ไม่เพียงหน้าตาดีตรงตามสเปกของข้า แต่ยังมีพรสวรรค์และคุณสมบัติที่ดีอีกด้วย เขาแก้ปริศนาไวมาก ความสามารถในการคิดเชิงตรรกะเหนือกว่าคนทั่วไป สองสามวันนี้ได้สังเกตอย่างละเอียด พบว่าอุปนิสัยใจคอดี ไม่เสียแรงที่ข้าดั้นด้นมาสำนักศึกษาก็เพราะเขา”
คนผู้นี้ได้รับเลือกจากอวิ๋นหลิงให้เป็นศิษย์ที่มาช่วยแนะนำสิ่งต่างๆ ให้กับนาง ก่อนหน้านี้นางได้รู้ภูมิหลังของเขาจากพี่เขยท่านอ๋อง
ครั้งนี้มาสำนักศึกษา ความสนุกสนานเป็นเรื่องรอง การสรรหาลูกศิษย์คือจุดประสงค์ที่แท้จริงของเสวียนจี
จากการสังเกตมาสองวันครึ่ง นางพอใจเฟิงอู๋จีในทุกด้าน และก็ผุดความคิดจะรับลูกศิษย์อย่างจริงจัง แต่ไม่รู้ว่าเขาจะยินดีไหว้หญิงสาวอย่างนางเป็นอาจารย์หรือไม่
แต่ความคิดของเฟิงอู๋จีไม่สำคัญ เพราะเขาไม่มีทางเลือก!
เฟิ่งเหมียนเห็นนางจ้องมองเฟิงอู๋จีด้วยนัยน์ตาแมวทอประกายวาวโรจน์ ในใจรู้สึกหึงหวงโดยไม่มีสาเหตุ
เขากระชับหมัดในแขนเสื้อทันที “หมายความว่าอย่างไร เจ้าบอกว่ามาสำนักศึกษาเพราะข้าไม่ใช่หรือ แล้วเหตุใดจึงกลับคำบอกว่ามาเพราะชายผู้นั้นโดยเฉพาะเล่า ซ้ำยังผลักไสข้าบ่อยครั้ง ดั้นด้นมาถึงที่นี่เพื่อมาดูเขาอย่างนั้นหรือ”
เสวียนจีกะพริบนัยน์ตาแมวปริบๆ พูดอย่างงุนงง “ข้าพาท่านมาดูตัวจริงๆ กว่าชมรมจะเริ่มก็ตั้งคืนนี้ ข้ามาดูใครที่นี่ก็ไม่เห็นจะแปลกตรงไหนเลย”
เฟิ่งเหมียนพูดไม่ออกไปครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะตอบ ก็เห็นเฟิงอู๋จีในระยะไกลจบการประลองอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนใกล้จะปิดร้านแล้ว
เสวียนจีเห็นแล้วก็รีบวิ่งเหยาะๆ เข้าไปหา
“ข้ามีเรื่องด่วนต้องทำ เดี๋ยวค่อยคุยกัน!”
ครั้นถูกนางทิ้งอีกแล้ว เฟิ่งเหมียนก็รู้สึกแน่นหน้าอกหายใจไม่ออก ในใจมีน้ำโหอย่างไร้เหตุผล
เดิมทีเขาอยากจะสะบัดแขนเสื้อแล้วเดินจากไป แต่ก็อยากรู้สาเหตุที่เสวียนจีมาหาชายหนุ่มผู้นั้น สุดท้ายก็อดเดินตามไปไม่ได้
ในห้องเล็ก เฟิงอู๋จีเสร็จสิ้นการประลองของวันนี้
กำลังจะเก็บของเล่น จู่ๆ สายลมอันหอมหวานก็พัดโชยกลิ่นคล้ายขนมมาตรงหน้า

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
ทำไมซื้อตอนไม่ได้คะ...
เติมเหรียญอย่างไร...
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......