เข้าสู่ระบบผ่าน

พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 914

เวลาย้อนกลับไปตอนเกือบบ่ายสามโมงกว่าๆ

ในอีกมุมหนึ่งของสำนักศึกษาชิงอี้ เฟิงอู๋จีกำลังประลองกับผู้คนที่เดินผ่านไปมาว่าเขาสามารถแก้กลโจโฉแหกค่ายได้เร็วแค่ไหน

เทียบกับรายการเกมอื่นๆ ที่น่าตื่นตาตื่นใจ กระดานประลองของเขาไม่ค่อยน่าดึงดูดใจนัก ของรางวัลล่อตาล่อใจให้มาร่วมแข่งขันก็ไม่สูง

ราคายี่สิบอีแปะประลองได้หนึ่งครั้ง หากเอาชนะผู้ท้าชิงได้ก็จะได้รับรางวัลหนึ่งร้อยตำลึงเงิน ผู้สัญจรไปมาต่างก็สนใจมาร่วมประลอง

ตรงหน้าเฟิงอู๋จีมีของเล่นช่วยเพิ่มพูนสติปัญญาที่ประณีตสวยงามมากมาย เช่น กลเก้าห่วงและตัวต่อไม้หลู่ปัน ขอเพียงผู้มาเยี่ยมชมยินดี เขาสามารถแข่งขันกับผู้คนนับสิบได้ในเวลาเดียวกันเพื่อดูว่าใครจะแก้ปริศนาได้เร็วกว่ากัน

ผ่านไปสองวันครึ่ง เฟิงอู๋จีก็ยังหาเงินได้ไม่ถึงสามตำลึง

แต่เขาไม่สนใจผลกำไรว่าได้กี่มากน้อย เพราะรางวัลหนึ่งร้อยตำลึงเงินเป็นของสำคัญที่เขาตั้งใจเตรียมไว้ให้หลี่เมิ่งชูเป็นพิเศษ

“นี่ มือของชายหนุ่มผู้นี้คล่องแคล่วจริงๆ สมองก็ทำงานเร็วมาก ข้ายังไม่เคยเห็นใครแก้ปริศนาได้เร็วขนาดนี้มาก่อน”

“ยินดียอมแพ้ ยินดียอมแพ้!”

“ได้ยินมานานแล้วว่ามียอดฝีมือผู้เก่งกล้าอยู่ที่นี่ บัดนี้ได้มาประลองแล้ว สมคำร่ำลือจริงๆ ข้าขอเลื่อมใส”

เฟิงอู๋จียิ้มเล็กยิ้มน้อย ก่อนเก็บเหรียญกว่าหนึ่งร้อยอีแปะเข้ากระเป๋า “ขอบคุณทุกท่านที่ออมมือ”

กล่าวจบ เขาก็ฉวยจังหวะที่หลี่เมิ่งชูยังไม่มา เริ่มประลองกับคนอื่นๆ อีกหลายคน

ใต้ต้นไม้ที่อยู่ไกล มีร่างสองร่าง คนหนึ่งอายุมากหน่อย คนหนึ่งอายุน้อยหน่อยกำลังมองเฟิงอู๋จีจากระยะไกล

ใบหน้าของเฟิ่งเหมียนดูไม่สู้ดีนัก “เจ้าเอาแต่มองคนผู้นั้นอยู่ที่นี่มานานแล้วทุกวันเลย ไม่ไปประลองกับเขาเสียที จะมายืนอยู่ท่ามกลางลมหนาวที่นี่ทำไม”

เสวียนจีโบกมือโดยไม่หันไปมอง “แหมๆ ข้าได้ดูเขาก็มีความสุขแล้ว ถ้าท่านรู้สึกเบื่อก็ไปเล่นเองสิ ข้าไม่ได้ขอให้ท่านมายืนรับลมกับข้าที่นี่สักหน่อย!”

ได้ยินเช่นนี้ ใบหน้าของเฟิ่งเหมียนก็ขรึมลงอย่างเห็นได้ชัด เขาเม้มริมฝีปาก พูดด้วยเสียงเข้ม

“มีอะไรน่าสนใจขนาดนั้นเชียว เมื่อก่อนตอนอยู่แคว้นตงฉู่ เจ้าบอกว่าของเล่นพวกนี้มีไว้สำหรับเด็ก เจ้าไม่ชอบมันเลยไม่ใช่หรือ”

“ของเล่นน่าเบื่อก็จริง แต่คนต่างหากที่น่าสนใจ” เสวียนจีลูบคางไปมา แล้วมองเฟิงอู๋จีด้วยความชมชอบ “หนุ่มหล่อผู้นี้ไม่เพียงหน้าตาดีตรงตามสเปกของข้า แต่ยังมีพรสวรรค์และคุณสมบัติที่ดีอีกด้วย เขาแก้ปริศนาไวมาก ความสามารถในการคิดเชิงตรรกะเหนือกว่าคนทั่วไป สองสามวันนี้ได้สังเกตอย่างละเอียด พบว่าอุปนิสัยใจคอดี ไม่เสียแรงที่ข้าดั้นด้นมาสำนักศึกษาก็เพราะเขา”

คนผู้นี้ได้รับเลือกจากอวิ๋นหลิงให้เป็นศิษย์ที่มาช่วยแนะนำสิ่งต่างๆ ให้กับนาง ก่อนหน้านี้นางได้รู้ภูมิหลังของเขาจากพี่เขยท่านอ๋อง

ครั้งนี้มาสำนักศึกษา ความสนุกสนานเป็นเรื่องรอง การสรรหาลูกศิษย์คือจุดประสงค์ที่แท้จริงของเสวียนจี

จากการสังเกตมาสองวันครึ่ง นางพอใจเฟิงอู๋จีในทุกด้าน และก็ผุดความคิดจะรับลูกศิษย์อย่างจริงจัง แต่ไม่รู้ว่าเขาจะยินดีไหว้หญิงสาวอย่างนางเป็นอาจารย์หรือไม่

แต่ความคิดของเฟิงอู๋จีไม่สำคัญ เพราะเขาไม่มีทางเลือก!

เฟิ่งเหมียนเห็นนางจ้องมองเฟิงอู๋จีด้วยนัยน์ตาแมวทอประกายวาวโรจน์ ในใจรู้สึกหึงหวงโดยไม่มีสาเหตุ

เขากระชับหมัดในแขนเสื้อทันที “หมายความว่าอย่างไร เจ้าบอกว่ามาสำนักศึกษาเพราะข้าไม่ใช่หรือ แล้วเหตุใดจึงกลับคำบอกว่ามาเพราะชายผู้นั้นโดยเฉพาะเล่า ซ้ำยังผลักไสข้าบ่อยครั้ง ดั้นด้นมาถึงที่นี่เพื่อมาดูเขาอย่างนั้นหรือ”

เสวียนจีกะพริบนัยน์ตาแมวปริบๆ พูดอย่างงุนงง “ข้าพาท่านมาดูตัวจริงๆ กว่าชมรมจะเริ่มก็ตั้งคืนนี้ ข้ามาดูใครที่นี่ก็ไม่เห็นจะแปลกตรงไหนเลย”

เฟิ่งเหมียนพูดไม่ออกไปครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะตอบ ก็เห็นเฟิงอู๋จีในระยะไกลจบการประลองอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนใกล้จะปิดร้านแล้ว

เสวียนจีเห็นแล้วก็รีบวิ่งเหยาะๆ เข้าไปหา

“ข้ามีเรื่องด่วนต้องทำ เดี๋ยวค่อยคุยกัน!”

ครั้นถูกนางทิ้งอีกแล้ว เฟิ่งเหมียนก็รู้สึกแน่นหน้าอกหายใจไม่ออก ในใจมีน้ำโหอย่างไร้เหตุผล

เดิมทีเขาอยากจะสะบัดแขนเสื้อแล้วเดินจากไป แต่ก็อยากรู้สาเหตุที่เสวียนจีมาหาชายหนุ่มผู้นั้น สุดท้ายก็อดเดินตามไปไม่ได้

ในห้องเล็ก เฟิงอู๋จีเสร็จสิ้นการประลองของวันนี้

กำลังจะเก็บของเล่น จู่ๆ สายลมอันหอมหวานก็พัดโชยกลิ่นคล้ายขนมมาตรงหน้า

“คริคริ...ข้าเป็นโรคลังเลเลือกไม่ถูก เช่นนั้นมาประลองด้วยกันเถอะ ใครไขปริศนาสามอย่างตรงหน้าได้ก่อนจะเป็นผู้ชนะ”

เฟิงอู๋จีคิดวางแผนครู่หนึ่ง ทั้งกลเก้าห่วงและตัวต่อไม้หลู่ปันนั้นไม่ยาก แก้ปริศนาเพียงสองสามนาที ที่เขาเลือกโจโฉแหกค่ายเพราะยากกว่าเล็กน้อย แค่ห้านาทีก็เพียงพอแล้ว

อย่างไรก็ไม่เสียเวลามากนัก เขาจึงพยักหน้าเห็นด้วย และวางนาฬิกาพกไว้บนโต๊ะ

“เอาละ เช่นนั้นก็เชิญใต้เท้าเฟิ่งเหมียนเป็นผู้ตัดสินเถอะ”

เสวียนจีคลี่ยิ้มเผยให้เห็นฟันขาวสองแถว แล้วนั่งตรงข้ามกับเฟิงอู๋จี

ไม่นานการประลองก็เริ่มขึ้น เฟิงอู๋จีก้มหน้าก้มตาตกอยู่ในห้วงความคิด เพิ่งจะแก้ไขปริศนาโจโฉแหกค่ายที่ยากที่สุดได้ ยังไม่ทันจะเอื้อมมือไปหยิบกลเก้าห่วง ก็ได้ยินเสียงที่มีชีวิตชีวาแกมสนุกสนานดังก้องอยู่ข้างหู

“ข้าไขปริศนาได้หมดแล้ว รอบนี้เจ้าแพ้แล้ว!”

“อะไรนะ เสร็จแล้วหรือ”

เฟิงอู๋จีชะงักอยู่บนเก้าอี้ เพ่งมองให้แน่ใจ ของทั้งสามอย่างตรงหน้านางถูกไขปริศนาแล้วจริงๆ เขาตกใจยิ่งนัก

ผ่านไปเมื่อครู่นี้เอง? เพียงแค่ห้านาที!

เสวียนจีกระดิกขา เอามือเท้าคางพลางคลี่ยิ้มอย่างสดใส “ใช่ๆ กฎก็ต้องเป็นกฎ เช่นนั้นเงินหนึ่งร้อยตำลึงเป็นของข้าหรือเปล่า”

เฟิงอู๋จีตกตะลึงทันที ผ่านไปครู่ใหญ่กว่าจะได้สติกลับมา เขามองนางอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก “เหนือคนยังมีคน เหนือฟ้ายังมีฟ้า ไม่นึกว่าแม่นางเสวียนจีจะเป็นยอดฝีมือด้านนี้ ทำให้ข้าเลื่อมใสยิ่งนัก แต่ว่า...เจ้าช่างมาได้ประจวบเหมาะจริงๆ”

กำลังจะปิดแผงขายของ ก็พบกับเทพสังหารผู้นี้ ความเพียรพยายามของเขาในสนามประลองไม่กี่วันนี้ก็ไร้ผล ซ้ำยังต้องจ่ายเงินอีกหนึ่งร้อยตำลึง!

มองของสามอย่างบนโต๊ะ เฟิงอู๋จีก็รู้สึกปวดหัวแทบระเบิดเพราะเจอปัญหาหนักยากจะจัดการแก้ไข

รางวัลที่เขาเตรียมไว้ให้เมิ่งชู ตกเป็นของคนอื่นไปเสียแล้วโดยที่ทั้งสองยังไม่ทันจะได้ประลองตามที่ตกลงกันไว้เลย แล้วจะให้เขาเอาหน้าไปเจอนางได้อย่างไร

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ