เสวียนจีเห็นสีหน้าของเขาราวกับมีอะไรบางอย่างติดอยู่ในลำคอ นางก็ดีอกดีใจ
นางรู้จากอวิ๋นหลิงว่ารางวัลใหญ่ของเฟิงอู๋จีเป็นของที่เตรียมไว้ให้ว่าที่ศิษย์สะใภ้ ด้วยเหตุนี้นางจึงหยิบของกระจุ๋มกระจิ๋มชิ้นหนึ่งออกมาจากถุงเงินที่พกติดตัวมาพร้อมกับยิ้มตาหยี
“อุ๊ย เจ้าปิดร้านแล้วด้วย แต่ข้าดันชนะเอาเงินเจ้าไปเช่นนี้รู้สึกเกรงใจแย่เลย ลองแบบนี้ดีหรือไม่ ข้าน่ะมีของเล่นชิ้นน้อยๆ อยู่ชิ้นหนึ่งสนุกมากเลยล่ะ ถ้าเจ้าแก้มันได้ภายในครึ่งชั่วโมง ข้าจะคืนรางวัลใหญ่ให้เจ้า เป็นอย่างไร”
เฟิงอู๋จีกำลังกังวลว่าเงินปลิวไปแล้วจะทำอย่างไรดี แต่พอได้ยินเช่นนี้ เขาก็พยักหน้าเห็นด้วยทันที “ไม่มีปัญหา ข้ายินดีจะลองดู ขอถามแม่นางเสวียนจีว่าในมือเป็นของสิ่งใดหรือ”
สายตาของเขามองไปยังตัวต่อไม้สี่เหลี่ยมชิ้นนั้น เห็นแต่ละด้านของตัวต่อไม้แบ่งออกเป็นแนวตั้งและแนวนอนอย่างละสามแถว รวมเป็นสี่เหลี่ยมเล็กๆ ทั้งหมดเก้าอัน แต่ละอันมีสีที่แตกต่างกันไป
มีลวดลายที่แปลกตาไม่เหมือนกันวาดไว้บนตารางสีสันสดใส
เสวียนจีหัวเราะคิกคัก โบกมือเรียวเล็กแล้วพูดว่า “ของนี้เรียกว่าลูกบาศก์รูบิก เป็นของเล่นชนิดหนึ่งที่แพร่หลายมาจากชาวตะวันตก สามารถหมุนได้ตามต้องการ จนกว่าสีและลวดลายในแต่ละด้านจะเหมือนกัน”
ขณะพูด นางก็บิดสาธิตให้ดู รูบิกก็หมุนอย่างคล่องแคล่ว ลวดลายเคลื่อนไหวไปทั้งหกด้าน
“เจ้าแค่หมุนด้านที่สีสลับกันทั้งหกด้านให้แถบสีเรียงอยู่ในด้านเดียวกันได้ภายในครึ่งชั่วโมง ข้าจะคืนเงินหนึ่งร้อยตำลึงให้เจ้า แต่ถ้าเจ้าทำไม่ได้ ก็ต้องยอมรับเงื่อนไขข้าข้อหนึ่ง!”
เฟิงอู๋จีไม่เคยเห็นของเล่นที่น่าสนใจเช่นนี้มาก่อน เขาก็สนใจทันที ทว่าหลังจากได้ยินประโยคสุดท้าย เขาก็ยับยั้งตัวเองไว้แล้วซักถาม
“ถ้าข้าแพ้ แม่นางเสวียนจีต้องการอะไรหรือ”
“ข้าอยากให้เจ้าไหว้ข้าเป็นอาจารย์ทันที!”
เสวียนจีพูดถึงตรงนี้ ก็เอามือเรียวเล็กเท้าเอวแล้วเชิดคางขึ้น ดูภูมิใจเล็กน้อย ราวกับแน่ใจว่าจะได้เฟิงอู๋จีเป็นศิษย์ ไม่มีทางหนีพ้นเงื้อมมือนางหรอก
เฟิงอู๋จีไม่รู้ว่าเหตุใดนางถึงอยากรับเขาเป็นศิษย์ เขาเดาว่าแม่นางน้อยผู้นี้รักสนุก เขาก็พยักหน้ารับอย่างอดหัวเราะไม่ได้
“เอาละ ถ้าข้าแพ้ ก็จะไหว้แม่นางเสวียนจีเป็นอาจารย์ แล้วแก้รูบิกให้ข้าดูเป็นขวัญตาด้วยนะ”
เวลานี้เขายังไม่รู้เลยว่าการไหว้เสวียนจีเป็นอาจารย์นั้นไม่ใช่เรื่องตลก แม่นางน้อยตรงหน้าจะพาเขาเข้าสู่โลกมหัศจรรย์ที่จะทำให้ทั้งกายใจของเขาสั่นสะท้านในภายหน้า
ส่วนเฟิ่งเหมียนก็เหลือบมองเสวียนจีด้วยสายตาประหลาดใจเล็กน้อย
ที่แท้จุดประสงค์ของเด็กสาวผู้นี้ที่ชมชอบเฟิงอู๋จี ก็คือหมายจะได้อีกฝ่ายมาเป็นศิษย์ของนาง!
เมื่อเข้าใจเหตุผลแล้ว อารมณ์ของเฟิ่งเหมียนก็ยังไม่ดีขึ้น แต่กลับรู้สึกกลัดกลุ้มยิ่งกว่าเดิม
พรสวรรค์ของเด็กสาวผู้นั้นไม่ธรรมดา ผู้ที่ดึงดูดสายตาของนางได้มีน้อยคนนัก ชายหนุ่มตรงหน้านี้เป็นคนแรก
ฉวยจังหวะที่เฟิงอู๋จีกำลังก้มหน้าแก้รูบิกอย่างสงสัยใคร่รู้ เฟิ่งเหมียนก็ดึงเสวียนจีไปที่มุมหนึ่งทันที
“เหตุใดจู่ๆ เจ้าถึงคิดจะรับศิษย์”
“สติปัญญาในหัวข้าประเมินค่าไม่ได้ แน่นอนว่าต้องหาลูกศิษย์ที่เหมาะสมมาถ่ายทอดวิชาต่อจึงจะถูก กำลังของข้ามีจำกัด การรับลูกศิษย์จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนได้ดีกว่า”
ดวงตาของเสวียนจีเปล่งประกาย นางพูดจาฉะฉานได้อย่างน่าเชื่อถือ
“สมัยเป็นเด็กอยู่ในองค์กร ครูฝึกถามข้าว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไร ข้าบอกว่าอยากเป็นนักวิทยาศาสตร์ เขาก็ให้ข้าคิดอะไรที่ทำได้จริง ตอนนี้ข้าทำได้แล้ว!”
แม้ว่าการเพิ่มผลผลิตในยุคนี้จะทำได้จำกัด นางเองก็ไม่สามารถทำวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเชิงลึกและล้ำหน้าเหล่านั้นได้อีก แต่ภารกิจและความรับผิดชอบในการค้นหาความจริง เผยแพร่ความรู้ และเป็นประโยชน์ต่อผู้คนยังคงเหมือนเดิม
นางสามารถศึกษาและดัดแปลงเจียระไนสิ่งที่นางสนใจ แทนที่จะลับสมองเพื่อช่วยผู้อื่นพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ หรือระดมสมองแอบเข้าไปในไฟร์วอลล์ที่เป็นเครือข่ายป้องกันการโจรกรรมเพื่อขโมยข้อมูลที่เป็นความลับ
เฟิ่งเหมียนฟังแล้วก็มองเสวียนจีด้วยท่าทางจริงจังและอ่อนโยนเหลือแสนอย่างหาได้ยากนัก แต่เขาก็ยังรู้สึกอึดอัดใจอยู่บ้าง
เสวียนจีพูดถ้อยคำที่จริงใจและให้กำลังใจออกมาเช่นนี้ เฟิ่งเหมียนก็ถึงกับหมดคำถาม
จริงๆ แล้วเขาไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น
เขาแค่คิดว่าต่อไปในห้องทดลองที่เป็นของเสวียนจีจะมีคนอื่นมาเป็นเพื่อนนางทั้งกลางวันกลางคืน เขาก็รู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย
เฟิ่งเหมียนกำลังคิดว่าเขาไม่เคยศึกษา ‘กฎสามประการของนิวตัน’ ‘กฎการอนุรักษ์มวล’ และ ‘แคลคูลัส’ ที่เสวียนจีกล่าวมาอย่างจริงจังเลย...
แต่อย่างน้อยเขาก็มือเท้าแข็งแรง สามารถเป็นลูกมือช่วยทำงานได้ใช่หรือไม่
อีกอย่าง เขาไม่เคยร่ำเรียนความรู้ประหลาดๆ เหล่านั้นมาก่อน เฟิงอู๋จีก็ไม่เคยเรียนรู้เช่นกัน
ไฉนเด็กสาวผู้นี้ถึงชมชอบเขาและให้ความสำคัญขนาดนี้
เฟิ่งเหมียนทำหน้าบึ้งตึง จ้องมองเฟิงอู๋จีด้วยสายตาคมกริบ พยายามอาศัยวิชาโหวงเฮ้งหาข้อบกพร่องของอีกฝ่าย แล้วตะล่อมเสวียนจีให้ล้มเลิกความคิดที่จะรับศิษย์
แต่เขาดูจนเมื่อยตา ก็ไม่พบอะไรที่ชั่วร้ายในตัวคนผู้นี้
เมื่อดูโหวงเฮ้งอย่างละเอียดกลับพบว่าเป็นคนซื่อสัตย์ กตัญญู และชอบความเป็นธรรม มีคุณสมบัติดีๆ ที่ซ่อนอยู่อันเป็นประโยชน์ต่อใต้หล้า ภายภาคหน้าเขาจะขึ้นเป็นใหญ่เป็นโต กลายเป็นขุนนางที่มีอำนาจ...
เฟิ่งเหมียนเงียบไปครู่หนึ่ง
ไม่ไกลนัก เฟิงอู๋จีที่ถูกเฟิ่งเหมียนจ้องมองจนเสียวสันหลังวาบ ก็นั่งไม่เป็นสุข
เหตุใดใต้เท้าเฟิ่งเหมียนจึงจ้องมองใบหน้าของเขาอยู่เรื่อย
ช่วยด้วย เขาไม่ใช่พวกชอบไม้ป่าเดียวกันเหมือนอย่างถังจูซิงกับหลิ่วจือซู่นะ!

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
ทำไมใช้เหรียญไม่ได้ติดต่อกันเป็นอาทิตย์ละคะ...
ทำไมแสดงความคิดเห็น แล้วข้อความหายอ่ะ...
ซื้อตอนแล้วไม่ได้ปลดล๊อคค้างไว้เหรอคะ แบบนี้ก็ย้อนกลับมาอ่านไม่ได้สิคะ มือกดโดนผิดวิ่งไปหน้าอื่นต้องเสียเงินอีกรอบงี้เหรอ...
ทำไมซื้อตอนปลดล๊อคแล้ว กลับไปย้อนอ่านต้องปลดล๊อคใหม่คะ...
ทำไมตอนซื้อแล้วล๊อคไม่ได้คะ...
ทำไมซื้อตอนแล้วเปิดหน้าใหม่แล้วย้อนกลับไปอ่านไม่ได้คะ ล๊อคเหมือนเดิมต้องจ่ายเงินซื้อใหม่ตลอดรึคะ...
ทำไมปลดล๊อคแล้ว กดข้ามไปตอนใหม่แล้วย้อนกลับมาอ่านไม่ได้คะ...
ทำไมซื้อตอนไม่ได้คะ...
เติมเหรียญอย่างไร...
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...