เข้าสู่ระบบผ่าน

พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 923

น้ำเสียงของชายหนุ่มแฝงแววขบขัน แต่กลับทำให้รู้สึกไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูก เขาใช้คางชี้ไปยังที่ที่ไม่ไกลออกไปนัก

“นี่ พวกเราก็ไปกันเถอะ อย่าให้ลูกพี่ลูกน้องของข้าต้องรอนานเลย”

เดิมทีเมิ่งฝูเอ๋อร์แค่อยากฟังเรื่องซุบซิบของคุณชายตระกูลหลี่กับผู้หญิงคนอื่นเท่านั้น คิดไม่ถึงว่าจะเจอเรื่องน่าตกใจเช่นนี้ รู้สึกเย็นสันหลังขึ้นมาทันที

ไม่รู้ว่าคนกลุ่มนั้นจะทำอะไรกันแน่ แต่นางได้ยินชัดเจนแล้วว่าคนกลุ่มนี้จะจัดการกับหลี่หยวนเส้า

ส่วนแม่นางจ้าวที่อีกฝ่ายพูดถึงว่าเคยมีสัญญาแต่งงานกับหลี่หยวนเส้า ก็ไม่ใช่คนดีอะไร

“ท่านแม่ลู่ ข้าเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ายังมีงานต้องทำ เงินข้าวางเอาไว้ตรงนี้ ข้าไปเดี๋ยวเดียวก็มา”

ชั่วขณะนั้นเมิ่งฝูเอ๋อร์ไม่สนใจจะรอขนมแป้งทอดแล้ว รีบวิ่งออกไปจากร้าน มองไปยังทิศทางที่กลุ่มคุณชายที่สวมเสื้อแพรเดินไป กัดฟันก่อนจะหมุนตัวมุดเข้าไปยังเส้นทางลัดที่อยู่ทางด้านซ้าย

ที่นี่มีเส้นทางที่เชื่อมไปยังสวนดอกไม้ของหอพักลูกศิษย์ ใกล้กว่าทางด้านนั้นเล็กน้อย หวังว่าสามารถไปได้ทันเวลา

……

ตะวันได้ลับขอบฟ้าไปแล้ว

ในสวนดอกไม้ยามพลบค่ำ จ้าวหงจูยังคงอยู่ในอ้อมอกของหลี่หยวนเส้า แต่เสียงสะอื้นได้เบาบางลงไปมากแล้ว

หลี่หยวนเส้าปลอบใจนางเบาๆอยู่พักใหญ่ ที่สุดก็คิดจะเอ่ยถึงเรื่องระหว่างพวกเขาสองคน แต่ขณะที่กำลังประคองจ้าวหงจูขึ้นมา สาวน้อยกลับโผเข้ามาในอ้อมอกของเขาอีกครั้ง

“พี่หยวนเส้า......ให้ข้าได้อยู่ใกล้ชิดท่านอีกสักครู่เถอะ แค่ครู่เดียวเท่านั้น ได้หรือไม่”

เสียงสะอึกสะอื้นที่อ่อนระทวยแฝงแววร้อนใจอยู่หลายส่วน

หลี่หยวนเส้าไม่รู้ว่าความร้อนใจนั้นแท้จริงแล้วแฝงความหมายอะไรเอาไว้กันแน่ คิดว่านางยังคงเสียใจ ด้วยความรู้สึกผิดที่มาจากใจ ได้แต่ยอมรับอย่างอดทน

“......ก็ได้”

ช่างเถอะ นี่ก็เป็นครั้งสุดท้ายแล้ว

หลี่หยวนเส้าถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง เหมือนจะได้ยินเสียงฝีเท้าที่เร่งรีบใกล้เข้ามาทางนี้อย่างเลือนราง

เขาขมวดคิ้วขึ้นมา สังเกตเห็นเงาร่างสี่ห้าสายเหมือนกำลังเข้าใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว สีหน้าเปลี่ยนไปทันที

“หงจู มีคนมา รีบปล่อยเร็วเข้า”

งานครบรอบสำนักศึกษาผู้คนมากมาย จ้าวหงจูยังเป็นหญิงสาวที่ยังไม่ออกเรือน ถ้าหากมีคนมาเห็นว่านางกับตนเองยังเกี่ยวข้องกัน ข่าวแพร่ออกไปคงไม่ดีแน่

แต่สิ่งที่หลี่หยวนเส้าคิดไม่ถึงก็คือ อีกฝ่ายจับคอเสื้อของตนเองเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย

“หงจูปล่อยมือ”

เสี้ยววินาทีนั้น เขาสังเกตถึงความไม่ชอบมาพากลอย่างเลือนราง แต่ก็จับความรู้สึกที่วาบผ่านไปนั้นไม่ได้

ในขณะที่กลุ่มคนยิ่งใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ในพุ่มดอกไม้ข้างๆที่มืดมิด จู่ๆก็มีเงาร่างหนึ่งพุ่งออกมา ผลักจ้าวหงจูล้มลมกับพื้นอย่างแรง

“บอกให้เจ้าปล่อยก็ปล่อยซิ ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรืออย่างไร”

“เมิ่งฝูเอ๋อร์” หลี่หยวนเส้าถูกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันทำเอามึนงงไปทันที “นี่เจ้าทำอะไร”

จ้าวหงจูที่ถูกเลี้ยงดูมาอย่างดีร่างกายบอบบาง เมิ่งฝูเอ๋อร์เติบโตขึ้นจากชนบทแข็งแรงทรงพลัง การพุ่งเข้าชนทำให้จ้าวหงจูกลิ้งไปกับพื้น ล้มหงายหมดสภาพ ร้องโอดโอยอย่างเจ็บปวด

หลี่หยวนเส้าเห็นเช่นนั้น ก็เข้าไปประคองนางขึ้นมา กลับถูกเมิ่งฝูเอ๋อร์กระชากกลับไปทางด้านหลัง ทำให้ต้องก้าวถอยหลังไปสองก้าว

ผู้หญิงคนนี้ทำไมจึงแข็งแรงเช่นนี้

เขากำลังพึมพำอยู่ในใจ ก็ได้ยินเมิ่งฝูเอ๋อร์กระซิบข้างหูด้วยเสียงร้อนใจว่า “อย่าเข้าไป นางไม่ใช่คนดี พวกเขาจะร้ายท่าน”

หลี่หยวนเส้ารู้สึกตกใจ เพิ่งจะยืนได้อย่างมั่นคง ก็เห็นคนกลุ่มหนึ่งเดินมาถึงและอยู่ห่างสิบกว่าก้าว

ทั้งหมดล้วนเป็นคนที่คุ้นเคย คนที่นำมาเป็นคนแรกคือลูกชายคนโตของครอบครัวลูกคนที่สองของตระกูลหลี่ชื่อหลี่หยวนจั๋ว ตอนนี้กำลังยืนอยู่ข้างผู้ดูแลเจิ้งด้วยใบหน้าที่ขมวดคิ้วแน่น มองเขาด้วยสายตาแค้นเคือง

“หลี่หยวนเส้า คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะเจ้าชู้ถึงเพียงนี้......”

เขารู้สึกสงสัยในคำพูดของพวกหลี่หยวนจั๋วอยู่บ้าง แต่ภาพเมื่อครู่ได้ถูกพวกเขามองเห็นมาแต่ไกลแล้ว ไม่สามารถอธิบายให้ชัดเจนได้จริงๆ

ยังไม่ทันได้เอ่ยปาก ก็ถูกเมิ่งฝูเอ๋อร์ที่โกรธจัดชิงพูดขึ้นมาก่อน

“อย่ามาพูดจาเหลวไหลที่นี่ พวกเจ้าแก่จนตาลายก็แล้วไปเถอะ แม้แต่หูก็ใช้การไม่ได้แล้วหรืออย่างไร หลี่หยวนเส้าเป็นคนรักของข้า เขาไม่ได้ย่ำยีคนอื่น ผู้หญิงคนนี้ต่างหากที่มาตอแยเขา”

ผู้ดูแลเจิ้งได้ยินเช่นนั้น ก็รีบถามขึ้นมาทันทีว่า “ฝูเอ๋อร์ เจ้าพูดอะไร”

“ผู้ดูแลเจิ้ง เมื่อครู่หยวนเส้าบอกข้าว่า มีคนนัดเขามาที่สวนดอกไม้ ข้ากับหยวนเส้าคบหากันมานานแล้ว และรู้เรื่องที่เขาเคยมีว่าที่ภรรยามาก่อน จึงให้เขาไปตัดขาดกับอีกฝ่าย มิเช่นนั้นข้าจะไม่คบหากับเขาอีก หยวนเส้ารับปาก ยังบอกอีกว่าจะยืนยันให้ข้าเห็นถึงความรักเดียวใจเดียวของเขาต่อหน้าข้า ดังนั้นข้าจึงคอยจับตาดูอยู่ในพุ่มดอกไม้ตลอดมา”

“ใครจะไปรู้ว่าคนตอแหลคนนี้จะไร้ยางอายซะไม่มี ร้องไห้จนน้ำตานองหน้าก็ไม่ยอมปล่อยมือจากไป ทำเอาข้าโกรธจนทนต่อไปไม่ไหว ข้ารู้ว่าคนมีความสามารถอย่างหยวนเส้าใครๆก็อยากเข้าหา แต่ตอนนี้เขาเป็นคนรักของข้าแล้ว เจ้าก็ตายใจเสียเถอะ”

เมิ่งฝูเอ๋อร์ด่าด้วยความโมโห และยังไม่ลืมที่จะแอบส่งสายตาให้กับหลี่หยวนเส้า

หลี่หยวนเส้าเข้าใจทันที พยักหน้าด้วยอารมณ์ที่สับสนวุ่นวาย เอ่ยเสียงเย็นว่า “ถูกต้อง ที่ข้ามาพบนาง ก็เพราะต้องการจบเรื่องสัญญาการแต่งงานที่ผ่านมาเท่านั้น”

คิดไม่ถึงว่าจะมีม้ามืดโผล่ออกมากลางคัน หลี่หยวนจั๋วสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย “โกหก เห็นได้ชัดว่าเมื่อครู่เขากอดหงจูไม่ยอมปล่อย”

หลี่หยวนเส้ามีคนรักตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมเขาไม่รู้

“ข้าว่าเจ้าต่างหากที่พูดจาโกหกปลิ้นปล้อน” เมิ่งฝูเอ๋อร์ด่ากลับทันที “ผู้ดูแลเจิ้ง ท่านสังเกตดูเสื้อผ้าของหยวนเส้าให้ละเอียด ถูกนางกระชากจนเสื้อตัวในโผล่ออกมาแล้ว ใครจะย่ำยีใครกันแน่”

“ถ้าหากข้าไม่มาช่วย เชื่อหรือไม่ว่านางคงจะขึ้นไปขี่อยู่บนตัวหยวนเส้าแล้ว อีกอย่างหากหยวนเส้าต้องการจำย่ำยีนาง อาศัยแค่ช่วงเวลาที่พวกเจ้ามาที่นี่ ตอนนี้ก็น่าจะได้เห็นนางคลานอยู่บนพื้นในสภาพล่อนจ้อนแล้ว”

พูดจบ นางก็ชี้ไปยังหลี่หยวนจั๋วด้วยท่าทีดุดัน ถลึงตาให้กับคนอื่นๆด้วย

“ผู้ชายหน้าโง่ที่ถูกสวมเขาจับได้ว่าว่าที่ภรรยาทำตัวเหลวแหลกลับหลังเขา เกรงว่าจะเสียหน้าก็เลยแสร้งตาบอดมองไม่เห็นซึ่งพอจะยอมรับได้ หรือพวกเจ้าเองก็ตาบอดกันหมด”

เมิ่งฝูเอ๋อร์เติบโตมาจากชุมชนตลาด ท่านแม่ทะเลาะกับผู้หญิงในหมู่บ้านเป็นเรื่องปกติธรรมดา มักจะสามารถด่าตั้งแต่หัวหมู่บ้านไปยังท้ายหมู่บ้าน พออารมณ์ร้อนขึ้นมาอะไรก็ด่าได้หมด

แม้ว่านางจะมีนิสัยน่ารักเชื่อฟัง แต่ทักษะการด่าที่ชินหูชินตากลับไม่ทำได้ไม่เลวเลยสักนิด เพียงแต่หลังจากที่เข้ามาในสำนักศึกษาแล้ว ทุกคนต่างก็เป็นผู้มีการศึกษา ทักษะที่มีจึงไร้ประโยชน์

ตอนนี้นางโมโหอย่างสุดขีดแล้ว ด่ากราดอย่างไม่ยั้ง จ้าวหงจูทั้งอายและโกรธจนแทบอยากจะตาย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ