แม้ว่าลูกชายทั้งสองจะยังไม่กลับมา แต่พวกเขาสองคนที่เป็นพ่อแม่ก็ไม่ได้รู้สึกเป็นกังวล
ก่อนที่เต้าหวู๋ซินจะจากไป เคยให้ป้ายหยกโบราณกับลูกๆคนละแผ่น ป้ายหยกนั้นดูเรียบๆไม่วิเศษอะไร แต่ไม่ใช่สิ่งของธรรมดา
เอาเป็นว่า พวกเขาไม่จำเป็นต้องห่วงว่าเมื่อลูกๆอยู่ข้างนอกจะได้รับบาดเจ็บ
หนึ่งเดียวที่ต้องกังวลก็คือ เจ้าเด็กสองคนนี้จะก่อเรื่องอะไรหรือไม่......
……
ใต้แสงตะวันยามเย็น บริเวณตีนเขา
มีควันลอยขึ้นในหมู่บ้านเถาหยวน
กู้ฮั่นม่อกับหลิ่วชิงเยี่ยนลงจากเขาเพื่อมารับขนมอบที่ต้องใช้ในงานเลี้ยง ที่ตามมาด้วยนอกจากถวนถวนทั้งสองคนแล้ว ยังมีทหารคุ้มกันอีกห้านาย กับรถไม้อีกสองสามคัน
หมู่บ้านเถาหยวนอยู่ไม่ไกลนัก หลังจากเดินลงบันไดประมาณร้อยก้าว นั่งรถไม้ประมาณยี่สิบนาทีก็ถึงแล้ว
แม้ระยะทางจะสั้น แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้เด็กสองคนรู้สึกตื่นเต้นกับทุกสิ่งระหว่างทางได้
หลิ่วชิงเยี่ยนเป็นผู้หญิงคนเดียวในขบวน เกรงว่านางจะดูแลเด็กซนสองคนนี้ไม่ไหว พวกเด็กๆจึงนั่งรถไม้คันเดียวกับกู้ฮั่นม่อ
ฮั่วถวนเกาะอยู่ริมหน้าต่าง กระดกก้นขึ้นสูงมองออกไปข้างนอก พยายามร้องเรียกหลิ่วชิงเยี่ยนที่นั่งอยู่บนรถคันข้างหลัง
“พี่สาว พี่สาว”
หลิ่วชิงเยี่ยนเลิกผ้าม่านขึ้น ยื่นศีรษะออกไปส่งยิ้มสดใสให้
ได้รับการตอบกลับจากนาง ฮั่วถวนก็ดีใจจนกระโดดโลดเต้นบนหน้าตักของกู้ฮั่นม่อ ยื่นมืออวบอ้วนออกไปข้างนอก
“พี่สาวอุ้ม”
เขาชอบให้พวกพี่สาวที่มีกลิ่นหอมและเนื้อตัวอ่อนนุ่มแตกต่างกันอุ้มมาก โดยเฉพาะหลิ่วชิงเยี่ยน
พี่สาวกับพี่ชายไม่เหมือนกัน ถูกพี่ชายอุ้มจะรู้สึกเจ็บเล็กน้อยเหมือนถูกวางเอาไว้บนก้อนหิน
กู้ฮั่นม่อเห็นร่างของเขายื่นออกไปครึ่งหนึ่งแล้ว รีบยื่นมือออกไปคว้าตัวฮั่วถวนกลับมา
“ถวนถวนนั่งดีๆ หากกระเด็นออกไปก้นต้องแตกเป็นแปดเสี่ยงแน่”
เพิ่งจะจับตัวฮั่วถวนให้นิ่งได้ เสวี่ยถวนที่อยู่ข้างๆก็ลุกขึ้นมาอย่างกะทันหัน มือเล็กๆจับกางเกงเอาไว้ ย่นจมูกขึ้นมา
“พี่ชาย อยากฉี่ฉี่......”
กู้ฮั่นม่อรีบคลายมือจากฮั่วถวน จะลงจากรถพาเขาไปฉี่ทันที “อดทนหน่อย ข้าจะพาเจ้าไปข้างถนน”
เรียกให้หยุดรถไม้ เขาสั่งให้ผู้คุ้มกันดูแลฮั่วถวน รีบอุ้มเสวี่ยถวนวิ่งไปยังใต้ต้นไม้ต้นหนึ่ง
ถอดกางเกงของเด็กน้อย แต่ก็ไม่ยอมฉี่เสียที
กู้ฮั่นม่อสีหน้าสงสัย “ถวนถวน”
เสวี่ยถวนหนีบขาเอาไว้ เอ่ยอย่างเขินอายว่า “พี่ชาย หันกลับไป”
“ได้ ข้าไม่ดู”
กู้ฮั่นม่ออดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา รู้สึกประหลาดใจที่เด็กอายุน้อยแค่นี้จะรู้จักอายแล้ว จากนั้นก็หันหลังให้
หลังจากสิ้นเสียงของสายน้ำที่กระเซ็นออกมา เขาก็ได้ยินเสียงสวบสาบดังขึ้น อดไม่ได้ที่หันไปดู
เห็นเสวี่ยถวนที่ยังไม่ใส่กางเกง กำลังเก็บใบหน้าที่อยู่ข้างๆ กลบบริเวณที่ถูกฉี่จนเปียกเอาไว้
พบว่ากู้ฮั่นม่อหันกลับมา เขาก็ร้อง”อ๊าก”ขึ้นมา รีบเอามือปิดอวัยวะสำคัญของตนเองเอาไว้อย่างเขินอาย
กู้ฮั่นม่ออดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา ส่ายหน้าพลางใส่กางเกงให้เขา
“พี่มองไม่เห็นอะไรเลย”
ได้ยินเขาพูดเช่นนี้ เสวี่ยถวนก็ผ่อนคลายลงไม่น้อย
กู้ฮั่นม่อรู้สึกว่าลูกชายทั้งสองคนของพระชายารัชทายาทช่างน่าสนใจจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นยังฉลาดกว่าเด็กทั่วไป ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จึงจะได้พบกับเซียงถวนที่น่าอัศจรรย์สักครั้ง
เด็กทั้งสองคนแม้จะน่ารัก แต่ก็เหมือนจะรับรู้ได้ว่าผู้ใหญ่ที่ติดตามมาด้วยต่างก็คล้อยตามตนเอง เมื่อไร้การปรามจากพ่อแม่ในสายเลือด ทำเอาทุกคนลำบากไม่น้อย
ไม่ช้าก็มาถึงหมู่บ้านเถาหยวน ตอนที่กู้ฮั่นม่อเดินลงมาจากรถ เสื้อผ้าหลุดลุ่ย ผมที่มวยขึ้นก็บิดเบี้ยว เส้นผมยุ่งเหยิง
หลิ่วชิงเยี่ยนเห็นแล้วรู้สึกมีความสุขบนความทุกข์ของเขาอยู่บ้าง เอ่ยหยอกล้อว่า “ยากมากที่จะได้เห็นเจ้าอยู่ในสภาพน่าอนาถเช่นนี้”
เหล่าแม่บ้านต่างก็รวมตัวกันรอค่าจ้าง พอยืนว่างๆ ก็เริ่มคุยเรื่องสัพเพเหระกับหลิ่วชิงเยี่ยนขึ้นมา
“แม่นางเวินเป็นคนจากเมืองเซียวโจว เมื่อก่อนเคยเรียนหนังสือ พ่อของนางยังเป็นขุนนางของทางการ......เฮ้อ เสียดายที่ครอบครัวถูกชาวเหมียวทำร้าย ตอนนี้เหลือแค่นางตัวคนเดียวแล้ว”
เมืองเซียวโจวเป็นชายแดนระหว่างซีโจวและแคว้นถังใต้ และเป็นบริเวณที่ชาวเหมียวเจียงชอบปรากฏตัวอยู่บ่อยๆ
หลิ่วชิงเยี่ยนได้ยินเช่นนั้น ก็มองเวินฮุ่ยเจินด้วยความสงสารอยู่บ้าง
“ถ้าหากแม่นางเวินอยากจะสอบเข้าสำนักศึกษาชิงอี้ บางทีข้าอาจช่วยได้”
นางคิดว่าการที่เวินฮุ่ยเจินเดินทางไกลมาถึงเมืองหวง ก็เพื่อที่จะมาสำนักศึกษาชิงอี้ ปีนี้สำนักศึกษาได้รับผู้หญิงเช่นนี้เอาไว้หลายคนแล้ว
กลับเห็นเวินฮุ่ยเจินส่ายหน้า “ขอบคุณความหวังดีของแม่นางหลิ่ว แต่ข้ามาเมืองหลวงเพื่อมาหาหมอรักษาลูกชายของข้า ได้ยินมาว่าอู๋อันกงเป็นคนดีมีจิตใจเมตตา จะออกตรวจรักษาโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเป็นประจำ......”
ส่วนเรื่องการสอบเข้าสำนักศึกษาชิงอี้......นางต้องดูแลลูกชาย จึงยังไม่คิดเรื่องนี้
หลิ่วชิงเยี่ยนได้ยินเช่นนั้น ก็เอ่ยให้กำลังใจว่า “แม่นางเวิน สถานการณ์ของท่านเช่นนี้ ถ้าหากสอบเข้าสำนักศึกษาชิงอี้ได้ ก็จะมีการสนับสนุนท่านเป็นพิเศษ ลูกของท่านปีนี้อายุเท่าไหร่แล้ว”
“เขาอายุห้าขวบ”
“เด็กอายุห้าขวบไม่จำเป็นต้องดูแลตลอดเวลาแล้ว ไม่เป็นอุปสรรคต่อการเรียนของท่าน”
เวินฮุ่ยเจินแววตาหม่นหมอง กัดริมฝีปาก “.....อายุไม่ได้เป็นปัญหา”
ลูกชายของนางเชื่อฟังและรู้ความมาก แต่ไม่สามารถพบเจอผู้คนภายนอกได้ตามใจ มิเช่นนั้นทำให้เกิดความตื่นกลัว
กลุ่มผู้หญิงกำลังคุยกันอยู่ทางนี้ สองพี่น้องที่อยู่ทางด้านนั้นก็เล่นมดที่อยู่ใต้รั้ว
เสวี่ยถวนกัดเปี๊ยะแป้งกรอบ เสี้ยววินาทีที่เงยหน้าขึ้นมา ก็พบว่าในมุมของกำแพงที่ไม่ไกลออกไปนัก มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งกำลังแอบดูพวกเขากินเปี๊ยะแป้งกรอบ ในสายตามีแววคาดหวัง
อีกฝ่ายห่อตัวเอาไว้อย่างแน่นหนา แต่ใบหน้าของสองแขนที่โผล่ออกมาข้างนอก กลับเป็นสีม่วงคล้ำ ดูน่ากลัวมาก
“อ๊า พี่ มีสัตว์ประหลาดตัวเล็ก”
เสวี่ยถวนตกใจสะดุ้งโหยง สะดุดล้มลงกับพื้น ดึงแขนเสื้อของฮั่วถวน
เขาเร่งเร้าให้ฮั่วถวนหันไปดู แต่เงาร่างที่มีผิวสีม่วงทั้งตัวได้หายวับไปในพริบตาแล้ว

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
ทำไมใช้เหรียญไม่ได้ติดต่อกันเป็นอาทิตย์ละคะ...
ทำไมแสดงความคิดเห็น แล้วข้อความหายอ่ะ...
ซื้อตอนแล้วไม่ได้ปลดล๊อคค้างไว้เหรอคะ แบบนี้ก็ย้อนกลับมาอ่านไม่ได้สิคะ มือกดโดนผิดวิ่งไปหน้าอื่นต้องเสียเงินอีกรอบงี้เหรอ...
ทำไมซื้อตอนปลดล๊อคแล้ว กลับไปย้อนอ่านต้องปลดล๊อคใหม่คะ...
ทำไมตอนซื้อแล้วล๊อคไม่ได้คะ...
ทำไมซื้อตอนแล้วเปิดหน้าใหม่แล้วย้อนกลับไปอ่านไม่ได้คะ ล๊อคเหมือนเดิมต้องจ่ายเงินซื้อใหม่ตลอดรึคะ...
ทำไมปลดล๊อคแล้ว กดข้ามไปตอนใหม่แล้วย้อนกลับมาอ่านไม่ได้คะ...
ทำไมซื้อตอนไม่ได้คะ...
เติมเหรียญอย่างไร...
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...