ขณะเดียวกัน กู้ฮั่นม่อยื่นมือเกาะกำแพงแล้วปีนเข้ามาในบ้านอย่างแผ่วเบา
เขาดูสง่างามราวกับบัณฑิต แต่ช่ำชองทักษะต่างๆ อย่างปีนกำแพงและปีนต้นไม้มาตั้งแต่เด็ก จากนั้นก็รีบซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้ตรงมุมกำแพง
ในบ้านนี้มีคนไม่มากนัก นอกจากเด็กรับใช้ที่แข็งแรงบึกบึนหลายคนที่หน้าประตูใหญ่กับลานด้านนอกแล้ว ยังมีทหารคุ้มกันลาดตระเวนกลุ่มหนึ่ง ส่วนคนที่เดินอยู่ในเรือนด้านในหลักๆ แล้วเป็นสตรี
กู้ฮั่นม่ออาศัยแสงโคมไฟมองสำรวจไปทั่วจนไปเจอเรื่องที่น่าสนใจเข้าเรื่องหนึ่ง นั่นคือผู้คนในบ้านแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นผู้ชาย ผู้หญิง คนแก่ เด็ก สาวใช้หรือทหารคุ้มกัน ล้วนแล้วแต่หน้าตาดีกันทุกคนเลย
แม้แต่เสื้อผ้าหน้าผมของบ่าวรับใช้ก็ยังงามประณีตกว่าบ่าวรับใช้ทั้งหลายในคฤหาสน์ระดับสูงทั่วไปเสียอีก สรุปได้คำเดียวว่าสะดุดตา
หลังจากกลั้นหายใจและแอบฟังอยู่ที่มุมกำแพงสักพัก กู้ฮั่นม่อก็รู้ว่าหลิ่วชิงเยี่ยนถูกขังอยู่ที่เรือนไหน ถึงแม้ไม่รู้ว่าใครเป็นเจ้าของบ้าน แต่เจตนาของอีกฝ่ายก็ชัดเจน
เขาอดขมวดคิ้วแน่นไม่ได้ด้วยความกังวลใจ
ไม่มีใครบอกได้ว่าฮั่วถวนเอ๋อร์ถูกพาไปไว้ที่ไหน ในเรือนหลังใหญ่ก็ไม่มีเสียงร้องไห้แต่อย่างใด หากเขาออกไปตอนนี้เพื่อไปรับกำลังเสริม ความบริสุทธิ์ผุดผ่องของหลิ่วชิงเยี่ยนอาจจะรักษาไว้ไม่ได้
หลังจากครุ่นคิดครู่หนึ่ง ดวงตาของกู้ฮั่นม่อก็หม่นทะมึน จากนั้นเขาเลือกจะไปสำรวจห้องตะวันออกของเรือนฉางเจา
หากต้องการรักษาความบริสุทธิ์ของหลิ่วชิงเยี่ยนและค้นหาฮั่วถวนเอ๋อร์ มีทางเดียวคือใช้กลยุทธ์จับโจรเอาหัวโจกก่อน
อีกประเดี๋ยวบุรุษผู้นี้จะเข้าไปในห้องตะวันออกเพื่อทำตามแผน ทว่าข้างกายไม่มีองครักษ์เลย แต่ขอเพียงหาทางแอบเข้าไปซุ่มโจมตีได้ก่อน เขาก็จะสามารถจับอีกฝ่ายได้โดยยังไม่ทันตั้งตัว
กู้ฮั่นม่อดูของที่ซ่อนอยู่ในเสื้อคลุมครึ่งแขน เขาเจอของสิ่งนี้ระหว่างทางมาที่นี่ คิดว่ามันน่าจะมีประโยชน์ แล้วก็ใช้ได้จริงๆ เสียด้วย
ในเรือนฉางเจา สาวใช้สองคนกำลังนั่งคุยกันอยู่ใต้ต้นไม้
“เฮ้อ…ไม่รู้ว่าเมื่อไรคุณชายใหญ่จะชายตามองมาทางข้าบ้าง ไม่ต้องพูดถึงว่ารับเป็นอนุ แค่ได้เป็นสาวใช้อุ่นเตียงของเขา ข้าก็พอใจแล้ว…เจ้าว่า ถ้าได้มีลูกสักคน ก็คงจะ...”
“หัดซื่อสัตย์และสำรวมบ้าง บางทีคุณชายใหญ่อาจจะใจกว้างเล็กน้อยเพราะเห็นแก่ความสวยของทั้งเจ้าและข้า แต่ข้าจะไม่ยอมให้คนข้างกายเล่นลูกไม้กับเขาหรอก”
ทั้งสองกำลังคุยกันอยู่ จู่ๆ ในอากาศก็มีเสียงมาดร้ายดังขึ้น
“ฟ่อๆ”
พวกนางมองออกไปโดยไม่รู้ตัว ก็เห็นงูเกล็ดสีดำตัวหนึ่งหนาเท่าครึ่งข้อมือ กำลังแลบลิ้นออกมาแผล็บๆ อย่างบ้าคลั่ง และตั้งท่าชูคอแผ่แม่เบี้ยเตรียมฉกอยู่ภายใต้แสงจันทร์
สาวใช้ซวนจีกรีดร้องเสียงหลงด้วยความตื่นตระหนก “อ๊ากงู มีงู!”
สาวใช้ผู้สุขุมใบหน้าซีดขาว “ไม่ต้องกลัว มันไม่มีพิษ แต่คุณชายกลัวงูที่สุด อย่าทำให้เขาตกใจเป็นอันขาด รีบไปตามพ่อบ้านให้มาจับออกไปเร็วเข้า!”
แม้ว่าจะไม่มีพิษ แต่ก็ไม่มีใครกล้าแตะต้องมัน พวกนางจึงรีบวิ่งไปขอความช่วยเหลือ
กู้ฮั่นม่อสบโอกาสนี้เร้นกายเข้าไปในในเรือนฉางเจา ใช้กิ่งไม้กดหัวงูไว้แล้วจับมันกลับมา มุมริมฝีปากหยักโค้งเล็กน้อย
กลัวงู? ย่อมเป็นเรื่องดีที่สุด
ครั้นผลักประตูเปิดเข้าไปในห้องตะวันออกอย่างรวดเร็ว กู้ฮั่นม่อยังไม่ทันจะเรียกหลิ่วชิงเยี่ยน สายตาของเขาก็พร่ามัวเมื่อมีบางอย่างมากระแทกหน้า
เขาหลบเลี่ยงโดยสัญชาตญาณ แต่หน้าผากถูกขาเก้าอี้กระแทกโดยไม่ทันตั้งตัว เขาส่งเสียงครวญครางอู้อี้ทันที
หลิ่วชิงเยี่ยนโจมตีเช่นนี้อยู่นาน จนแทบจะหมดเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี เมื่อเห็นว่าข้าวของที่ปาออกไปไม่โดนเป้าหมาย หัวใจของนางก็จมลงสู่ก้นบึ้งในทันใด เก้าอี้ไม้แดงก็ร่วงหล่นจากมือที่อ่อนแรง
กู้ฮั่นม่อข่มกลั้นความเจ็บปวด รีบรับเก้าอี้ไว้อย่างรวดเร็ว เพื่อไม่ให้เกิดเสียงดังจนดึงดูดผู้คนแห่แหนกันมาที่นี่
“ทำไมเป็นเจ้า!”
เดิมทีหลิ่วชิงเยี่ยนสิ้นหวังแล้ว คิดว่าจะใช้ปิ่นปักผมต่อสู้จนตกตายไปด้วยกันทั้งสองฝ่าย แต่เมื่อเห็นรูปร่างหน้าตาของคนตรงหน้ากระจ่างชัด นัยน์ตาดอกท้อก็เบิกกว้างด้วยความเสน่หา
หน้าผากของกู้ฮั่นม่อบวมเป่ง เขาวางเก้าอี้ลงเบาๆ ด้วยความกลัว “โชคดีที่ข้าหลบไว ไม่เช่นนั้นคงถูกเจ้าฟาดจนหมดสติไปแน่ๆ เช่นนี้ไม่เท่ากับเข้ามาส่งหัวให้เจ้าเล่นงานหรอกหรือ”
วิชาต่อสู้มือเปล่าของสำนักศึกษาชิงอี้ไม่ใช่เรื่องตลก แม่นางคนไหนที่ดูบอบบางย่อมมีพละกำลังมากกว่าเหล่าคุณหนูในเมืองหลวงเสียอีก
มิฉะนั้นหลิ่วชิงเยี่ยนที่ถูกวางยา คงไม่สามารถฟื้นตัวได้เร็วขนาดนี้
จบพูด กู้ฮั่นม่อก็เงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายและตะลึงงันอยู่กับที่ไปครู่หนึ่ง
ดีที่กู้ฮั่นม่อชักมือกลับอย่างรวดเร็ว และรักษาระยะห่างกับนาง
หลิ่วชิงเยี่ยนถอนใจด้วยความโล่งอก
ไม่นานเสียงของสาวใช้และเหล่าทหารคุ้มกันก็ดังขึ้นที่นอกเรือน
“ไหนบอกว่ามีงูไม่ใช่หรือ อยู่ไหนล่ะ”
“...เมื่อครู่ยังอยู่ในลานบ้านชัดๆ เลื้อยเข้าพงหญ้าไปแล้วหรือเปล่า”
“ค้นหาให้ทั่ว อย่าปล่อยให้งูตัวนี้เลื้อยออกมาทำให้คุณชายใหญ่ตกใจ”
หลายคนเสียเวลาค้นหาไปครึ่งถ้วยชาโดยเปล่าประโยชน์ เสียงไม่พอใจของยินถังก็ดังมาจากด้านหลัง
“พวกเจ้ามาทำอะไรกันที่นี่ ข้าสั่งแล้วไม่ใช่หรือว่าอย่าให้ผู้ชายเข้ามาที่นี่”
ทหารคุ้มกันรีบตอบ “เรียนคุณชาย เมื่อครู่พี่สาวทั้งสองบอกว่ามีงูเลื้อยเข้าในลานบ้าน พวกข้าน้อยจึงมาจับงูขอรับ”
เอ่ยถึงงู ยินถังก็ตัวสั่นสะท้านโดยสัญชาตญาณถึงสามครั้ง สีหน้าแปรเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว “พวกเจ้าเฝ้าบ้านประสาอะไร ปล่อยให้ตัวอะไรแบบนี้เลื้อยเข้ามาได้อย่างไร งูอยู่ไหน จับได้แล้วหรือยัง”
ทหารคุ้มกันจำใจต้องพูดด้วยกลัวว่าจะถูกลงโทษ “...ไล่ออกไปแล้ว ได้ตรวจสอบที่อื่นๆ ในลานบ้านเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีตัวที่สองแล้วขอรับ”
ยินถังได้ยินดังนี้ สีหน้าก็ดีขึ้น
“พวกเจ้าไปดูที่ลานอื่นด้วย แล้วตรวจดูให้แน่ใจว่าไม่มีงูอยู่ในบ้านอีกแล้ว”
ได้ยินเช่นนี้ เหล่าสาวใช้ ทหารคุ้มกันและคนอื่นๆ ก็รับคำสั่งแล้วออกไป
หยินถังเช็ดเหงื่อบนใบหน้า แล้วเดินไปยังห้องตะวันออกอย่างห่อเหี่ยว
เขารู้สึกว่าคืนนี้ทุกอย่างผิดพลาดไปหมด!

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
ทำไมใช้เหรียญไม่ได้ติดต่อกันเป็นอาทิตย์ละคะ...
ทำไมแสดงความคิดเห็น แล้วข้อความหายอ่ะ...
ซื้อตอนแล้วไม่ได้ปลดล๊อคค้างไว้เหรอคะ แบบนี้ก็ย้อนกลับมาอ่านไม่ได้สิคะ มือกดโดนผิดวิ่งไปหน้าอื่นต้องเสียเงินอีกรอบงี้เหรอ...
ทำไมซื้อตอนปลดล๊อคแล้ว กลับไปย้อนอ่านต้องปลดล๊อคใหม่คะ...
ทำไมตอนซื้อแล้วล๊อคไม่ได้คะ...
ทำไมซื้อตอนแล้วเปิดหน้าใหม่แล้วย้อนกลับไปอ่านไม่ได้คะ ล๊อคเหมือนเดิมต้องจ่ายเงินซื้อใหม่ตลอดรึคะ...
ทำไมปลดล๊อคแล้ว กดข้ามไปตอนใหม่แล้วย้อนกลับมาอ่านไม่ได้คะ...
ทำไมซื้อตอนไม่ได้คะ...
เติมเหรียญอย่างไร...
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...