ฮั่วถวนยังเด็ก ไม่รู้ว่าการลักพาตัวคืออะไร ทำเป็นแค่โก่งคอร้องไห้อย่างเสียใจ
“ฮือๆ...ต่อไปถวนถวนจะไม่กินขนมอีกแล้ว ฮือๆๆ...และจะไม่กินลูกอมด้วย พาน้องไปชายไปซื้อหนังสือพิมพ์ ฮือๆๆ...ถวนถวนเป็นลูกผู้ชาย ทำผิดต้องปรับปรุง...”
กู้ฮั่นม่อเห็นสองพ่อลูกใกล้จะกอดคอกันร้องไห้ จึงพูดแทรกพวกเขา
“รัชทายาท กระหม่อมคิดว่าพระองค์เข้าใจผิดแล้ว ฮั่วถวนกับชิงเยี่ยนถูกลักพาตัวมาที่นี่ เจ้าของจวนคือยินถัง เรื่องทั้งหมดนี้เขาเป็นคนวางแผน”
เมื่อเขาอธิบายต้นสายปลายเหตุแล้ว
เซียวปี้เฉิงได้ยินก็อุ้มบุตรชาย ความเศร้าบนใบหน้าจางหาย แทนที่ด้วยความดีใจ
งั้นก็ไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหายน่ะสิ?
เซียวปี้เฉิงเห็นกู้ฮั่นม่อมองด้วยแววตาสงสัย จึงรู้ตัวว่าไม่ควรเผยความไม่เอาไหนต่อหน้าลูกศิษย์ เอากำปั้นไว้หน้าปากแล้วกระแอมเสียง
เขารีบทำหน้าบันดาลโทสะ พูดด้วยเสียงตกใจ “อะไรน่ะ? ยินถัง ใจกล้าถึงขั้นทำแบบนี้ได้ลงคอหรือ? เขาไม่อยากมีชีวิตต่อแล้วใช่ไหม? บัดซบสิ้นดี”
“เผาได้ดีมาก สมควรเผาจวนหลังนี้ ที่นี่ควรกลายเป็นเถ้าถ่าน”
เซียวปี้เฉิงพูดจบก็อุ้มฮั่วถวนแล้วเดินไปยังเรือนหลัก
ช่วงพลบค่ำรู้ว่าฮั่วถวนหายตัวไป เขาก็มุ่งหน้ามาทางเหนือ สัมผัสที่หกของเขาแม่นเสมอ ประกอบกับพ่อลูกสื่อใจกันได้ เขาจึงสัมผัสพลังจิตของลูกกำลังเคลื่อนไหวได้
จวนหลังนี้สะอาดสะอ้าน โอ่อ่า เป็นระเบียบเรียบร้อย เขาไม่แน่ใจ ยังเดาว่ามีคนใจดีช่วยลูกชายไว้
ทันทีที่มาถึงก็เห็นไฟไหม้ จึงรู้ว่าฮั่วถวนก่อเรื่องแล้ว จึงรีบสั่งให้ทหารที่ติดตามมาช่วยกันดับเพลิง
เซียวปี้เฉิงเดินไปยังเรือนหลักด้วยความองอาจ ตะโกนสั่งว่า “หยุดเดี๋ยวนี้ ไม่ต้องราดน้ำ ให้มันเผาต่อไป”
ทหารที่กำลังดับเพลิงไม่ทราบสาเหตุ ได้แต่เกาหัวแล้วหยุดการกระทำ จ้องหน้ากัน
ทหารหนึ่งในนั้นถามด้วยความสงสัย “รัชทายาทคิดว่าไฟแรง อันตราย เลยให้รักษาชีวิตไว้ก่อนหรือพ่ะย่ะค่ะ? ถ้าเช่นนั้นพระองค์ไม่ต้องเป็นห่วง เรือนปีกด้านตะวันตกดับไฟสำเร็จแล้ว พวกเรามีกันเยอะ สามารถดับเพลิงได้หมดแน่พ่ะย่ะค่ะ”
เดิมทีเซียวปี้เฉิงคิดอยากให้ทหารใต้อาณัติเผาจวนหลังนี้ให้มอดไหม้ จะได้ระบายความแค้นในใจ
แต่หางตาเหลือบไปเห็นพ่อบ้านกำลังสั่งให้ขนทรัพย์สินในเรือนปีกตะวันออก หยกชั้นดีกับเครื่องตกแต่งราคาแพงถูกขนออกมา และยังมีคนถือภาพวาดกับหนังสือมากมาย
เซียวปี้เฉิงไม่สนใจเรื่องนี้ ทว่าก็สามารถคาดเดาได้ว่าภาพวาดที่ยินถังเก็บไว้ที่นี่ต้องมีราคาสูงแน่นอน
เขาจึงรีบสั่งการ “อะไรน่ะ? เช่นนั้นพวกเจ้าก็รีบดับเพลิงสิ แล้วขนของพวกนั้นออกมาตรวจดูให้ดี”
ถึงแม้ไม่เข้าใจว่าเหตุใดต้องตรวจนับของของผู้อื่นด้วย แต่เมื่อเห็นไฟลุกโชนและลมแรงเช่นนั้น พวกทหารก็ไม่คิดอะไรมากมาย รีบต่อแถวส่งถังน้ำดับเพลิงสุดฝีมือ
เซียวปี้เฉิงคิดแผนในใจ ใช่ว่าไอ้สุนัขชั่วยินถังจะเผยจุดอ่อนให้พวกเขาครั้งใหญ่แบบนี้
หากไม่คว้าโอกาสขูดเลือดขูดเนื้อเขาหน่อย เขาก็โง่แล้ว
และได้วางกับดักที่เมืองเซียงโจวแล้ว ดูแล้วก็ถึงเวลาดำเนินแผนการได้แล้ว หากใช้เรื่องการลักพาตัวฮั่วถวนครั้งนี้ก็อาจจะจำกัดตระกูลยินให้สิ้นซากได้
ถึงเวลานั้นของเหล่านี้ก็ต้องกลายเป็นของทางการ
เซียวปี้เฉิงเห็นคลังหลวงจะมีทรัพย์สินเพิ่มก็อดเผยรอยยิ้มไม่ได้
ระหว่างที่กำลังคำนวณทรัพย์สมบัติของตระกูลยินอยู่นั้น ไม่รู้ว่ากู้ฮั่นม่อตามมาเมื่อไหร่ เห็นภาพทุกอย่างตรงหน้า นัยน์ตาพลันซับซ้อนยากจะบรรยาย
รอยยิ้มบนใบหน้าเซียวปี้เฉิงแข็งค้าง จากนั้นก็พูดเสียงจริงจัง “ยินถังไม่กลัวกฎหมาย ถ้าตามกฎแล้วของในจวนต้องยึดเป็นของทางการ ข้าจึงให้ตรวจนับสิ่งของก่อน จากนั้นก็แบ่งส่วนหนึ่งเป็นค่าทำขวัญให้หลิ่วชิงเยี่ยน”
“เจ้าก็มีเช่นกัน เจ้าจะได้รางวัลผดุงคุณธรรม”
กู้ฮั่นม่อกระตุกมุมปาก อันที่จริงไม่ต้องเสริมก็ได้ เพราะยังคงเผยความในใจอยู่เหมือนเดิม
เขารู้ธาตุแท้ของรัชทายาทที่ซ่อนเร้นไว้ภายใต้ความเข้มขรึมแล้ว
ทว่าเขายังแสร้งทำไม่ค่อยเข้าใจ แสดงสีหน้าดีใจและพูดนอบน้อม “รัชทายาทชมเกินไปแล้ว ลูกศิษย์เป็นประธานสภาบัณฑิต ต้องปกป้องเพื่อนร่วมเรียนอยู่แล้ว อีกอย่างตั้งแต่ตอนเย็นจนถึงตอนนี้คุณชายเล็กยังไม่ได้กินอะไรเลย...”
เขาเตือนเซียวปี้เฉิงทางอ้อมว่า ลูกชายของท่านกำลังหิวนะ
เซียวปี้เฉิงย่อมไม่ลืม สั่งให้ทหารจับสาวใช้แล้วพาไปห้องครัวเรือนหลังอื่น เพื่อทำอาหารให้ฮั่วถวนกิน โดยให้ทหารจับตามองการปรุงอาหารให้ดี
รัชทายาทจับข้อมือคู่ต่อสู้อย่างง่ายดาย แล้วจากก็ใช้แรงหักแขน แย่งกระบี่จากศัตรู จากนั้นก็โยนออกไป
องครักษ์เงาที่แบกยินถังไว้ ปีนไปยังหลังคาผ่านต้นไม้ได้แล้ว แล้วตะขอเกี่ยวเกาะอยู่บนต้นไม้ด้านนอกกำแพงรั้วแล้ว
ขอแค่กระโดด เขาก็สามารถหลบหนีได้สำเร็จ
ทว่าเขาแบกยินถังแล้วบินไปอยู่กลางอากาศ เชือกตะขอเกี่ยวก็ถูกกระบี่ตัดขาด
ทั้งสองเสียหลัก ตกจากความสูงสามร้อยเมตรลงพื้น
“อ๊าก”
ต่อให้เป็นองครักษ์เงาที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดี แต่ก็อดร้องเสียงหลงไม่ได้
“อ๊วก”
องครักษ์เงากระแทกใส่พื้นอย่างจัง ไม่รู้ว่าส่วนไหนของร่างกายกระแทกลงพื้นหิน เกิดเป็นเสียงดังฟังชัด
ส่วนยินถังก็ล้มทับตัวเขา องครักษ์เงาที่เป็นเบาะรองรับหมดสติทันที
เซียวปี้เฉิงหัวเราะเย็นเยียบ “พวกเจ้าสองคนไม่ตายหรอก”
ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก กู้ฮั่นม่อเห็นภาพทั้งหมดใต้แสงจันทร์ นัยน์ตาพลันเผยความฉงนสนเท่ห์
เขารู้ว่ารัชทายาทวรยุทธ์สูงส่ง แต่ต่อให้สายตาเฉียบแหลม สามารถมองการเคลื่อนไหวใต้แสงอันมืดสลัวได้ก็ต้องใช้เวลาหน่อยไหม
ทว่ารัชทายาทอยู่ห่างจากตะขอเกี่ยวเจ็ดถึงแปดเมตรเป็นอย่างต่ำ แต่เสี้ยววินาทีที่กระบี่หลุดออกจากมือ เขาก็ได้ยินเสียงคร่ำครวญขององครักษ์เงาแล้ว
ความเร็วเพียงนี้ คนปกติเขาทำได้จริงหรือ?
กู้ฮั่นม่อนึกถึงเปลวเพลิงที่รายล้อมฮั่วถวนก็เม้มปาก
เหมือนเขาจะรู้เรื่องน่าทึ่งเข้าให้แล้ว

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
ทำไมใช้เหรียญไม่ได้ติดต่อกันเป็นอาทิตย์ละคะ...
ทำไมแสดงความคิดเห็น แล้วข้อความหายอ่ะ...
ซื้อตอนแล้วไม่ได้ปลดล๊อคค้างไว้เหรอคะ แบบนี้ก็ย้อนกลับมาอ่านไม่ได้สิคะ มือกดโดนผิดวิ่งไปหน้าอื่นต้องเสียเงินอีกรอบงี้เหรอ...
ทำไมซื้อตอนปลดล๊อคแล้ว กลับไปย้อนอ่านต้องปลดล๊อคใหม่คะ...
ทำไมตอนซื้อแล้วล๊อคไม่ได้คะ...
ทำไมซื้อตอนแล้วเปิดหน้าใหม่แล้วย้อนกลับไปอ่านไม่ได้คะ ล๊อคเหมือนเดิมต้องจ่ายเงินซื้อใหม่ตลอดรึคะ...
ทำไมปลดล๊อคแล้ว กดข้ามไปตอนใหม่แล้วย้อนกลับมาอ่านไม่ได้คะ...
ทำไมซื้อตอนไม่ได้คะ...
เติมเหรียญอย่างไร...
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...