เข้าสู่ระบบผ่าน

พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 939

ดินแดนแห่งนี้มีตำนานเล่าขานเรื่องเทพเซียนและปีศาจ และยังมีเรื่องอัศจรรย์อื่น ๆ อีกมากมาย

ที่ผ่านมามีคนเข้าใจว่าเทพนิยายก็เป็นเพียงเทพนิยาย ไม่มีเทวดานางฟ้าจริง

แต่อีกกลุ่มหนึ่งจะเชื่อสนิทใจว่าโลกใบนี้มีเทวดานางฟ้าจริง

อาทิ ดาวสีแดงทั้งสี่ดวงก็มีหลักฐานยืนยัน กอปรกับงูเซียน ท่านปู่งูเหลือมที่เห็นตัวเป็น ๆ บัดนี้จึงมีคนเชื่อเรื่องนี้เยอะขึ้นเรื่อย ๆ

กู้ฮั่นม่อเป็นคนมุ่งเน้นวิชาการ แค่สนใจเรื่องนิตยสารภาพวิวทิศทัศน์และเรื่องผีศาลเล็กน้อย ซึ่งก่อนจะเจอเหตุการณ์คืนนี้ เขาจัดเป็นคนอย่างแรกมากกว่า

ในตำนานไม่ว่าจะเทพเซียนหรือสัตว์อสูรมักจะมีหน้าที่เฝ้าคุ้มครองสถานที่ใดสถานที่หนึ่ง มนุษย์ชั่วร้ายจะโดนเทพเซียนลงทัณฑ์ ส่วนคนดีจะได้รับความคุ้มครองจากเทพเซียน

ถ้ามีเทพเซียนจริง ตอนชาวทูเจวียยกทัพบุกเมืองต้าโจว สังหารประชาชนและเผาทำลายสิ่งของไปทั่ว ไยเทพเซียนถึงไม่ออกมาปกป้องประชาชน?

ตอนเขาปีนเขาเก็บสมุนไพรด้วยความลำบาก แล้วเสี่ยงอันตรายช่วยจิ้งจอกแดง แต่มันก็ไม่ได้แปลงร่างเป็นหญิงงามเพื่อตอบแทนบุญคุณเขา ทางกลับกันยังคาบกระต่ายที่เขาล่าได้อย่างยากเย็นแล้วหนีเตลิดไป

ยามที่ครอบครัวเขาอัตคัด ต้องหิวโทรมและหนาวสั่น แต่ยังใช้ซาลาเปาเซ่นไหว้หน้าเตาไฟ เทพเจ้าเตาไฟได้ยินเสียงในใจเขาแล้วประทานข้าวสารอาหารแห้งให้

ชาตินี้เขาไม่เคยทำชั่วสักนิด ขยันหมั่นเพียร ประหยัดอดออมในยามศึกษาเล่าเรียน ไม่ง่ายเลยกว่าจะสอบติดระดับตำบล แต่ก็มีคนแย่งไปอย่างง่ายดาย อุตส่าห์อ่านตำราหาความรู้ใส่ตัวหลายปี แต่สุดท้ายก็ต้องคว้าน้ำเหลว แต่ก็ไม่เห็นเจ้าแม่กวนอิมหรือเทพบุ่นเข็กลงจากสวรรค์มาช่วยเหลือเขา

ฉะนั้นกู้ฮั่นม่อไม่เคยเชื่อว่าบนโลกจะมีเทวดานางฟ้าจริง เชื่อในหลักการที่ว่า ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน

ทว่าสิ่งทีเห็นในคืนนี้เปลี่ยนความคิดเขาโดยปริยาย

ทว่าเขาก็ยังคงสงสัยว่าเทพเซียนมีอยู่จริงหรือไม่ หลังครุ่นคิดไปต่าง ๆ นา ๆ ก็ได้ข้อสรุปที่เหลือเชื่อว่า

บนโลกไม่มีเทวดานางฟ้า แต่มีมนุษย์ประเภทหนึ่งจะมีพลังวิเศษอันน่าทึ่งและมีไม่มาก

เห็นได้ชัดว่าฮั่วถวนกับรัชทายาทเป็นคประเภทนี้...พวกพระชายากับพี่น้องก็น่าจะใช่ด้วย

ส่วนเทพงูกับเทพธิดา กู้ฮั่นม่อเชื่อว่าเป็นมนุษย์ที่มีพลังเหนือคนปกติ แต่เพราะต้องการควบคุมใต้หล้าจึงอ้างว่าเป็นเทพ

ต้องบอกว่าการสันนิษฐานของเขาเข้าใกล้ความจริงมาก

ถ้าเซียวปี้เฉิงอ่านใจคนได้เหมือนหลงเย่ แล้วได้ยินเสียงในใจของลูกศิษย์ผู้นี้ คงต้องชมในความฉลาดหลักแหลมของอีกฝ่ายแน่

ระหว่างที่กู้ฮั่นม่อปรับตัวรับกับการสันนิษฐานนี้อยู่นั้น เซียวปี้เฉิงก็ทุบองครักษ์เงาที่เหลือจนสลบหมดแล้ว

เขาไม่แม้แต่หายใจหอบเหนื่อย สั่งการเสียงหนักแน่น “ฮั่นม่อ เจ้าพาทหารสองคนไปหาเชือกมา แล้วมัดตัวผู้กระทำความผิด”

กู้ฮั่นม่อได้สติก็ขานรับด้วยสีหน้าปกติ “ลูกศิษย์รับทราบพ่ะย่ะค่ะ”

ไฟไหม้ในเรือนหลักก็ดับเกือบสนิทแล้ว ไม่นานคนในจวนล้วนโดนมัดตัวกันหมด

ทั้งสาวใช้ ข้ารับใช้ชาย ผู้คุ้มกันรวมกับยินถังก็มียี่สิบกว่าคน

ผู้ที่ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางคุกเข่าตรงลานใต้แสงจันทร์ ได้แต่ตัวสั่นเทิ้มแล้วมองหน้ากัน และขอร้องไม่หยุด

เซียวปี้เฉิงมองนาฬิกาพกพา ยามนี้ก็สามทุ่มแล้ว เขาเตรียมให้คนส่งจดหมายไปยังสำนักศึกษา อวิ๋นหลิงก็พาคนกลุ่มหนึ่งมาถึง

เสวี่ยถวนสัมผัสถึงกลิ่นอายของพี่ชายก็เริ่มหายใจความหดหู่ใจ

“พี่ชาย ข้าคิดว่าเจ้าโดนปีศาจกินแล้วซะอีก”

ฮั่วถวนกินอิ่มแปล้แล้ว คราบเลอะบนหน้าก็มีหลิ่วชิงเยี่ยนล้างให้แล้ว แต่เนื้อตัวยังคงสกปรกราวกับขุดออกจากเตาเผาถ่าน

เขาไม่ได้ร้องไห้แล้ว พูดด้วยความภาคภูมิใจว่า “เปล่าสักหน่อย เมื่อครู่ข้าเอาชนะคนชั่วได้ ท่านพ่อยังชมข้าอยู่เลย”

เพราะเผาจวนยินถัง เซียวปี้เฉิงในฐานะบิดาไม่มีทางตำหนิบุตรชายอยู่แล้ว ทั้งยังต้องกล่าวชื่นชมด้วย

ยินถังยังคงแสดงสีหน้าสำนึกผิด น้ำเสียงโทษตัวเอง “กระหม่อมไม่กล้า พระชายาโปรดระงับโทสะ”

จัดการปัญหาครั้งนี้ยากจริง แต่ถ้าเห็นแก่สถานการณ์บ้านเมือง เขาคิดว่าสองผัวเมียตำหนักบูรพาคงไม่กล้ามีเรื่องกับเขาหรอก

เรื่องถึงขั้นนี้แล้วเขาจำต้องลดศักดิ์ศรีตัวเอง พยายามทำให้อีกฝ่ายหายโกรธ จะได้มีทางออกกันทั้งสองฝ่าย

ทว่าอวิ๋นหลิงไม่ได้ไว้หน้าเขา แสยะยิ้ม “ข้าว่าเจ้ากล้ามาก คนทั่วไปทำแบบนี้แล้วโดนจับได้ จะโขกหัวขอร้องแล้ว แต่เจ้ายังมีหน้าให้พวกเราให้อภัย ไยจึงบังอาจเพียงนี้? เจ้าคิดว่าราชวงศ์ต้องยำเกรงตระกูลยินอย่างนั้นรึ?”

“มิน่าละเจ้าลักพาตัวลูกชายข้ามาแล้วยังไม่วิตกกังวล ยังกล้าขังไว้ในห้องเก็บฟืน ถ้าจับมาโดยไม่ตั้งใจ ไยเจ้าถึงไม่รีบส่งตัวกลับสำนักศึกษา?”

“ยินถัง ข้าว่าเจ้าจับหลิ่วชิงเยี่ยนเพราะอำพรางเป้าหมายที่แท้จริงมากกว่า เป้าหมายหลักของเจ้าคือลูกชายข้า ถ้าเจ้าไม่คิดกบฏ ไยจึงบังอาจเพียงนี้?”

อวิ๋นหลิงพูดเป็นชุด ๆ พูดเสียงทรงพลังทุกประโยค จนกู้ฮั่นม่อกับหลิ่วชิงเยี่ยนที่อยู่ห้องตรงข้ามได้ยินชัดเจน ล้วนสบตากันด้วยความแปลกใจ

คนฉลาดฟังแล้วก็เข้าใจในบัดดล พระชายาต้องการพูดให้เรื่องรุนแรง

นางโกรธแค้นยินถังจนไม่อยากปล่อยผ่าน อันนี้เข้าใจได้ แต่ความผิดฐานก่อกบฏอันนี้ใหญ่เกินไป ไม่ใช่แค่ไม่ตรงประเด็น ทั้งยังเอาผิดตระกูลยินได้ยากขึ้น

หากต้องการสั่งสอนยินถัง ก็สามารถลงโทษฐานใช้อำนาจรังเกผู้อื่นได้ และฝืนใจคุณหนูขุนนางคือเหตุผลที่ดีที่สุด

ดังคาด ตอนแรกยินถังก็ยังคงตึงเครียดอยู่ แต่ประโยคสุดท้ายทำให้เขาวางใจ

สองผัวเมียตำหนักบูรพาคู่นี้ยำเกรงและไม่กล้าทำอะไรตระกูลยินจริง ได้แต่แยกเขี้ยวยิงฟันแล้วด่าระบายอารมณ์ คนเป็นปอดแหกนี่เอง

หาไม่แล้วไยถึงไม่พูดเรื่องเขาลักพาตัวหลิ่วชิงเยี่ยน?

ก็เพราะไม่กล้าตัดสินโทษของเขาอย่างไรเล่า

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ