เข้าสู่ระบบผ่าน

พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 946

“หลิ่วอี้ฉวนแห่งกรมอาญา เฉิงชิงแห่งศาลต้าหลี่ และจางเฮ่อแห่งสำนักตรวจการรับคำสั่ง ทั้งสามศาลร่วมกันสืบสวนคดีนี้ทันที ต้องทำการจับกุมโจรกบฏที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ได้”

ขุนนางใหญ่ทั้งสามที่ถูกขานชื่อรับรู้ข่าวคราวล่วงหน้าแล้ว ต่างก็รับคำสั่งด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

อาลักษณ์ยินถูกโจมตีโดยไม่ทันตั้งตัว แม้แต่โอกาสแก้ต่างก็ไม่มี ถูกลากตัวออกไปทันที

ขุนนางในราชสำนักที่เหลือยังคงตั้งตัวไปทันกับเหตุการณ์น่าตื่นตระหนกที่เกิดขึ้นติดต่อกัน ไม่ง่ายเลยกว่าจะทำความเข้าใจกับข่าวใหญ่ที่ได้รับรู้ ตำหนักทองหลวงได้เลิกประชุมราชสำนักก่อนเวลา

อวิ๋นหลิงกับเซียวปี้เฉิงสบตากัน ต่างก็ไปปรึกษาหารือกันที่ห้องตำรา พระเจ้าหลวงที่ไม่ได้ย่างเข้ามาที่นี่ก็อยู่ด้วย กำลังขมวดคิ้วพลางสูบยาสูบไม่หยุด

“นางหนู ทางด้านจวนยินเป็นอย่างไรบ้าง”

อวิ๋นหลิงรีบตอบอย่างรวดเร็วว่า “ได้ส่งทหารรักษาพระองค์ไปควบคุมเอาไว้แล้ว ข้าอ่านจดหมายระหว่างอาลักษณ์ยินกับอ๋องไหวเซียง ฝ่ายหลังเคยใช้เหตุผลต่างๆนานาร้องขอแผนการวางแนวป้องกันชายแดนและภาพพิมพ์เขียวการสร้างปืนคาบศิลา น่าจะเป็นเพราะอ๋องไหวเซียงรู้ถึงจุดประสงค์ของพวกเรา จึงใช้แผนซ้อนแผน ใช้ตระกูลยินในการกระดานไต่เต้าควบคุมการเคลื่อนไหวในเมืองหลวง”

สำหรับอ๋องไหวเซียงแล้ว ตระกูลยินไม่รู้เรื่องที่องค์หญิงอี๋อันถูกหย่า ยังสู่ขอลูกบุญธรรมที่ไม่น่าสนใจคนนั้นแต่งเข้าตระกูลอย่างเอิกเกริก ทั้งยังให้ผลประโยชน์มากมายแก่เขา หากไม่มีเลศนัยแอบแฝงคงเป็นไปไม่ได้

ที่สุดแล้วก็เป็นผู้ที่มีเจตนาจะกบฏมายี่สิบกว่าปีแล้ว ไม่ช้าก็คาดเดาแผนการของตำหนักบูรพาได้ จึงแสร้งทำเป็นไม่รู้อะไรทั้งสิ้น ไปมาหาสู่กับตระกูลยินอย่างมีไมตรี ฉวยโอกาสเอาสิ่งของจากตระกูลยินไปไม่น้อย

ตอนนี้อ๋องไหวเซียงเตรียมตัวจะหนีแล้ว คนโง่อย่างตระกูลยินถึงจะเจ็บเท่าไหร่ก็ต้องกล้ำกลืนเข้าไป

คิ้วของพระเจ้าหลวงจึงคลายลงเล็กน้อย “ก็ไม่ถือว่าเป็นกระดานไต่เต้า ตระกูลยินก็แค่ไม่เข้าใจในตัวอ๋องไหวเซียงเท่านั้น หากเป็นเช่นนี้ต่อไป แม้ว่าตอนนี้พวกเขาจะไม่มีเจตนากบฏแล้ว ภายหน้าก็ต้องเกิดขึ้นอีก”

แม้คำอธิบายของสองสามีภรรยาอวิ๋นหลิงที่ต้องการใช้เพื่อปราบปรามตระกูลยินเป็นการกล่าวหา แต่ก็ทำให้สามารถมองเห็นทิศทางในอนาคตได้

ถ้าหากไม่กำจัดตระกูลยินตั้งแต่ตอนนี้ ภายหน้าคนกลุ่มนี้จะต้องกลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดกับโจรกบฏเป็นแน่แท้

เซียวปี้เฉิงเอ่ยว่า “เสด็จปู่ เช้านี้ทางเซียวโจวได้ส่งข่าวมาอีกแล้ว เฟิงหยางช่วยเหลือลูกสาวของเสด็จพี่เนี่ยนเอ๋อร์ได้แล้ว ข้าได้บอกข่าวนี้ให้เสด็จพี่ทราบในทันที ท่านกับเสด็จพ่อทรงว่าใจได้แล้ว”

จักรพรรดิจาวเหรินนั่งอยู่ข้างๆ สีหน้าเหนื่อยล้า ในดวงตาแฝงแววเลื่อนลอยอยู่สายหนึ่ง

เขาก็รู้สึกตั้งตัวไม่ทันเหมือนกับอาลักษณ์ยิน ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขอยู่ดีๆ จู่ๆก็ราวกับถูกคลื่นใหญ่ซัดกระหน่ำจนเรือคว่ำ

พระเจ้าหลวงถือกล้องยาสูบเอาไว้ เอ่ยเสียงทุ้มว่า “เรื่องของตระกูลยิน เจ้าเตรียมจะจัดการอย่างไร”

จักรพรรดิจาวเหรินตัวสั่นสะท้านและได้สติกลับมา มองพวกเขาด้วยความเงียบขรึมครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อยๆเอ่ยขึ้นว่า

“......ย่อมไม่สามารถเก็บเอาไว้ได้ แต่ก็ไม่สามารถสั่งการให้ประหารทั้งตระกูลได้ในทันที ข้าคิดจะประหารยินซู่ เขาเป็นหัวหน้าของฝ่ายกรมขุนนาง จำเป็นต้องสังหารเพื่อเป็นอุทาหรณ์แก่ผู้อื่น ส่วนลูกหลานเชื้อสายโดยตรงของเขาให้เนรเทศไปยังชายแดน ไม่สามารถเป็นขุนนางได้สามชั่วอายุคน ส่วนผู้สืบสกุลสายอื่นให้ไล่ออกจากเมืองหลวง ไม่สามารถกลับเข้าเมืองหลวงได้ตลอดชีวิต”

พระเจ้าหลวงเลิกคิ้วขึ้น “เอ๋ ทำไมไม่ประหารให้เรื่องมันจบๆไป”

จักรพรรดิจาวเหรินสังเกตสีหน้าของตาแก่น้อยอย่างระมัดระวัง รู้สึกเหมือนกำลังถูกทดสอบ

เขาตั้งสติ เอ่ยตอบอย่างตรงไปตรงมาว่า “แคว้นต้าโจวตั้งแต่ราชวงศ์ที่แล้วมีการยกเลิกการประหารเก้าชั่วโคตรไปแล้ว แต่การประหารทั้งตระกูลก็โหดร้ายเกินไป ตระกูลยินแม้จะบ่อนทำลายประเทศชาติ แต่ก็ยังมีคนที่ไม่ได้แปดเปื้อนโคลนตมมีพรสวรรค์สามารถปลูกปั้นได้ ประหารไปก็เสียดาย สองสามีภรรยาเจ้าสามขาดคนช่วยเหลือพอดี ไม่สู้เปิดใจกว้างแสดงน้ำใจ ดึงมาเป็นพวก”

“อีกอย่าง ก่อนหน้านี้เสียนอ๋อง......เรื่องของเจ้าสองรุนแรงกว่าสถานการณ์ตอนนี้เสียอีก ทุกท้ายเขาก็แค่ถูกปลดเป็นสามัญชน ตระกูลเสิ่นก็ไม่ได้ถูกลงโทษประหารข้อหากบฏ ถ้าหากประหารคนทั้งตระกูลยิน เกรงว่าจะถูกประชาชนในใต้หล้าประณามเอาได้”

ตระกูลยินมีสุนัขรับใช้ตั้งมากมาย ถ้าหากมีคนฉวยโอกาสเอ่ยคัดค้าน ถึงเวลาจะกลายเป็นว่าราชวงศ์ไร้เหตุผล

เส้นทางในการเนรเทศมีการเปลี่ยนแปลงมากเกินไป นอกเสียจากนางจะจับตาดูด้วยตัวเอง มิเช่นนั้นไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ไว้ใจที่จะให้จักรพรรดิจาวเหรินส่งคนไปจัดการเอง

เซียวปี้เฉิงเข้าใจว่านางเกรงว่ายินถังจะหนี ตัดหญ้าไม่กำจัดรากเมื่อฤดูใบไม้มาก็จะงอกขึ้นมาใหม่

เขาครุ่นคิด เอ่ยเสนอแนะว่า “เสด็จพ่อยังไม่มีพระบัญชาในเร็วๆนี้ ไม่สู้พวกเราให้คนไปส่งข่าวเท็จกับตระกูลยิน ถ้าหากเขาคิดว่าเสด็จพ่อจะประหารลูกหลานเชื้อสายตรงทุกคน ต้องคิดหาวิธีแหกคุกแน่ ถ้าหากแหกคุก ก็เป็นโทษประหารที่สมเหตุสมผลแล้ว”

เพียงแต่ เรื่องส่งข่าวเท็จจะให้ใครไปทำ

เสวียนจีรู้แผนการของพวกเขา ยกมือขึ้นด้วยดวงตาเป็นประกายคนแรก

“ข้าๆๆ ย่อมต้องให้ข้าจินหยวนเป่าออกโรงเอง เรื่องกำจัดเขามอบให้เป็นหน้าที่ข้าเหมาะสมที่สุดแล้ว”

มีนางออกโรง ไม่ว่าจะยินถังหรือหน่วยกล้าตาย ล้วนง่ายดายราวกับหั่นผัก

เฟิ่งเหมียนขมวดคิ้วคัดค้าน “อยู่ของเจ้าดีๆจะหาเรื่องทำไม เรื่องโจรกบฏแหกคุก เจ้าคิดว่าเป็นเรื่องเล่นๆหรืออย่างไร”

ถ้าหากนางไปแล้ว จะกลายเป็นตัวประกันของยินถังทันที

“ฮึๆ ก็เพราะว่าเรื่องมันใหญ่มาก จึงจะสนุก ท่านอย่าดูถูกข้า งานเช่นนี้เมื่อก่อนข้าเป็นมืออาชีพเชียวนะ”

เสวียนจีถูมือไปมาราวกับแมลงวัน น้ำเสียงแฝงไปด้วยแววตื่นเต้นและคาดหวัง เหมือนเด็กน้อยที่เบื่อหน่ายมานานในที่สุดก็หาของเล่นที่แปลกใหม่จนพบ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ