เสิ่นชิ่นรอให้เด็ก ๆ เลิกเรียนแล้วไปซื้อของขวัญพบหน้าตอนบ่าย พรุ่งนี้จะไปหาเวินฮุ่ยเจินพร้อมลูกที่โรงยา
อวิ๋นหลิงเห็นนางใจเย็นและมีแนวทาง จึงไม่ได้พูดอะไรมาก เตรียมแวะโรงยาระหว่างทางกลับ
เวลานี้มีเสียงเคาะประตูด้วยความเร่งรีบดังขึ้น
“พี่เสิ่นอยู่ด้านในไหม? เกิดเรื่องใหญ่ที่ประตูใหญ่แล้ว พี่ใหญ่เสิ่นทัวไม่รู้ว่าไปทำท่าไหนกับคุณหนูลูกขุนนาง อีกฝ่ายเอาแส้เฆี่ยนเขา ท่านรีบไปดูเถิด”
เสิ่นชิ่นฟังออกว่าเป็นเสียงเด็กหนุ่มที่คอยคุ้มภัยในโรงเรียนอนุบาลแห่งนี้ นางรีบเปิดประตู
“ข้าจะไปเดี๋ยวนี้”
อวิ๋นหลิงกับเซียวปี้เฉิงสบตากัน เลิกคิ้วแล้วตามเสิ่นชิ่นไปด้วย
เสิ่นทัวกลับมามีสติปัญญาเหมือนคนปกติก็ทำตัวอ่อนโยนเสมอมา ไม่เคยมีเรื่องกับใครโดยไร้สาเหตุ
......
สิบห้านาทีก่อน บนถนนหน้าประตูโรงเรียนอนุบาล
เด็กอายุห้าขวบสวมเสื้อตัวบางเก่าเดินกลางหิมะ ใส่งอบที่มีผ้าม่านสีดำคลุมไว้ งอบไม่เพียงแต่บังหิมะได้ ยังอำพรางใบหน้าสีม่วงได้อีกด้วย
เวินฮุ่ยเจินกับลูกชายย้ายมาอยู่ในเมืองหลวงสามวันแล้ว เมื่อคืนหิมะตกจนอากาศหนาวเหน็บ ก่อนหน้านี้นางกับลูกอยู่ในเมืองทิศใต้ของแคว้น จึงเพิ่งเคยสัมผัสความหนาวเหน็บนี้เป็นครั้งแรก เสื้อผ้าที่เอามาด้วยกันหนาวไม่ได้
วันนี้เวินฮุ่ยเจินจึงออกมาเพื่อซ้อผ้าฝ้ายเพื่อเย็บเสื้อตัวใหม่ เวินหรูเฟยก็มากับนางด้วย ระหว่างที่มารดาซื้อผ้าอยู่ในร้าน เขาก็จะไปขายหนังสือพิมพ์ในถนนด้านข้าง
แม้เขาจะอายุเพียงห้าขวบ ทว่ากลับรู้ความ เห็นเด็กคนอื่นขายหนังสือพิมพ์ก็รับไปขายด้วยสามสิบฉบับ
“พี่ชาย พี่สาว หนังสือพิมพ์ประชาชนของวันนี้ขายเพียงห้าเหวินเท่านั้น”
“เด็กน้อย เอามาให้ข้าหนึ่งฉบับ”
เสียงเด็กร้องขายหนังสือพิมพ์ดังก้อง ไม่นานก็มีเจ้าของร้านข้างทางเรียกเขาไป
เมืองหลวงต้าโจวขายหนังสือพิมพ์ยังทิศเหนือใต้ออกตก รวมทั้งสิ้นสี่แห่ง ซึ่งจะขายในราคาสามเหวินต่อหนึ่งฉบับ แล้วหนังสือพิมพ์ที่นำมาขายบนถนนจะห้าเหวินขึ้นไป
เพราะมีคนอยากอ่านหนังสือพิมพ์กันเยอะ แต่ไม่อยากวิ่งไปซื้อในสำนักพิมพ์ไกล ๆ ต่อให้เด็กบนถนนขายแพงหน่อย แต่ก็ยินดีซื้อ
จุดที่ยิ่งไกลจากสำนักพิมพ์ ราคาหนังสือพิมพ์ก็จะยิ่งสูงขึ้น แต่ราคาที่เวินหรูเฟยขายจะถูกกว่าคนอื่นหนึ่งเหวิน
เขาตะโกนขายตลอดทาง ไม่นานในกระเป๋าก็เหลือหนังสือพิมพ์เพียงหนึ่งฉบับ
เวลานี้เขาได้ยินเสียงหัวเราะ หยอกล้อด้านในโรงเรียนอนุบาล ก็อดหยุดเดินแล้วทอดสายตามองเข้าไปไม่ได้
เวินหรูเฟยไม่เคยเข้าโรงเรียน หนังสือที่เขารู้ก็เป็นเพราะเวินฮุ่ยเจินสอน นางเป็นบุตรีอาจารย์ศาลาว่าการ ย่อมมีวิชาติดตัว
“โรง...เรียน...อนุบาล...หลวง”
เขาอ่านป้ายอย่างติด ๆ ขัด ๆ มีน้ำเสียงปรารถนาและหดหู่ผสมปนเปกัน
แม้จะอายุน้อย เมื่อเห็นคำว่าหลวงเขาก็รู้ว่าไร้วาสนากับที่นี่
ระหว่างที่กำลังเศร้าใจอยู่นั้น เมื่อประตูใหญ่โรงเรียนอนุบาลเปิดออก ก็มีบุรุษร่างสูงใหญ่เดินออกมา
ทั้งสองสบตากัน ก่อนจะอึ้งไปชั่วขณะ
เวินหรูเฟยเบิกตากว้างด้วยความเหลือเชื่อ เขาเห็นคนที่เหมือนเขา
หาใช่หน้าตาเหมือนกันไม่ แต่ผิวสีม่วงเหมือนกัน
เสิ่นทัวออกมาเพื่อซื้องาตัดให้นั่วเอ๋อร์ ทันทีที่เดินออกจากประตูก็เห็นเด็กน้อยตรงหน้า หลังสบตากับอีกฝ่ายก็รู้สึกแปลก ๆ อยู่บอกไม่ถูก
 ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
ทำไมซื้อตอนไม่ได้คะ...
เติมเหรียญอย่างไร...
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......