ลมหนาวพัดโชย ผสมกับเกล็ดหิมะโปรยปรายลงมาบนใบหน้าของเฟิ่งเหมียน นำความเหน็บหนาวมาให้ ขณะที่รู้สึกเป็นกังวล ในใจเขาก็มีความรู้สึกเจ็บปวดแผ่ซ่านขึ้นมาอย่างไม่เคยมีมาก่อน
ความรู้สึกเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก ตอนที่เสวียนจีปกปิดเขาเรื่องการระเบิดตัวตาย นอกจากความเสียใจและเจ็บปวดแล้ว ก็คือความผิดหวังจากการไม่เชื่อใจ
เฟิ่งเหมียนคิดว่าพวกเขารู้จักกันมาตั้งนานแล้ว ผ่านเรื่องราวมาด้วยกันตั้งมากมาย มีความรู้สึกที่คนทั่วไปยากจะเทียบได้
แต่ในเรื่องที่สำคัญเช่นนี้ เสวียนจียังคงไม่แบ่งแยกว่าเขาเป็นคนกันเองที่สามารถเชื่อถือได้
กระทั่งถ้าหากเขาไม่ได้พบกับนักบวชที่แปลกประหลาดคนนั้น บางทีผ่านไปหลายปีแล้วเขาก็ยังคงไม่รู้ ว่าที่จริงนางได้เปลี่ยนชื่อสกุลใช้ชีวิตอย่างดีอยู่อีกสถานที่หนึ่ง
หลังจากที่เสวียนจีออดอ้อนรบเร้ายอมรับผิดต่อเขา เฟิ่งเหมียนเกลี้ยกล่อมตัวเอง นางก็แค่คิดว่าเขายืนอยู่ฝั่งเดียวกับจักรพรรดิตงฉู่ ดังนั้นจึงเลือกที่จะปิดบังเขา ทุกอย่างเป็นแค่การเข้าใจผิด
แต่วินาทีนี้ เขาไม่อาจไม่ยอมรับว่า สำหรับพวกเสวียนจีแล้ว ตนเองเป็นแค่คนนอกอย่างแท้จริง
แค่คิดถึงจุดนี้ เฟิ่งเหมียนมีความรู้สึกหนักอึ้งจุกอยู่ในอกอย่างไม่สามารถอธิบายได้ ทำให้หายใจอย่างยากลำบาก
แม้จะผิดหวัง แต่เขาก็สามารถเข้าใจการปกปิดการเคลื่อนไหวอันเป็นความลับของราชสำนักของพวกอวิ๋นหลิงได้ เพราะเขาไม่ได้อยู่ในแผนการ อีกฝ่ายไม่มีหน้าที่ต้องอธิบายอะไรกับเขา
แต่ว่าเสวียนจีเล่า
แม้จะไม่ยินดีเป็นสามีภรรยากับเขา อย่างน้อยพวกเขาก็เป็นเพื่อนที่เคยผ่านความเป็นความตายมาด้วยกันตั้งหลายครั้ง
นางหนูที่ไร้หัวใจคนนี้ แม้แต่คำว่า”ท่านวางใจได้ ข้าจะไม่เป็นไร” ก็ไม่ยอมพูดให้เขาฟัง
ลมหนาวพัดจนมือของเฟิ่งเหมียนแข็งค้าง เขาเข้าใกล้ศาลต้าหลี่ด้วยความเร็วที่มากขึ้น
ปะทะกับหิมะที่โปรยปราย เฟิ่งเหมียนอดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยตัวเอง
คิดแล้วก็น่าขัน เขาไม่แยแสเรื่องทางโลกตั้งหลายปี เคยมีคนตั้งมากมายสรรเสริญเยินยอ อยากจะใกล้ชิดกับเขา ต่างก็ถูกปฏิเสธด้วยความหยิ่งผยอง
ตอนนี้เขาเปิดใจด้วยตัวเอง ยินดีให้คนคนหนึ่งเดินเข้ามาในโลกของตนเอง อีกฝ่ายกลับไม่สนใจ
ที่แท้การถูกคนที่ใส่ใจปฏิเสธ มันเป็นความรู้สึกเช่นนี้นี่เอง
……
ภายในศาลต้าหลี่ ท้องฟ้ามีหิมะโปรยปราย
โคมไฟใต้ชายคาโยกไหวตามสายลม ดวงไฟกลมๆส่องสว่างและสั่นไหวอยู่ใต้ท้องฟ้ามืดมิด ราวกับวินาทีต่อไปจะดับลงแล้ว
เสวียนจีได้ถือกล่องอาหารไปถึงหน้าห้องขังของยินถังแล้ว
“พี่ยินถัง”
หลังจากยินถังเห็นนางก็นิ่งอึ้งไป ดวงตาที่มีแววประหลาดใจปิดบังความยินดีที่ผุดขึ้นมาอย่างรวดเร็วเอาไว้ไม่ได้ “น้องหยวนเป่า ทำไมคืนนี้เจ้าจึงมาที่ศาลต้าหลี่”
อีกฝ่ายไม่ได้มาที่ศาลต้าหลี่เป็นเวลาติดต่อกันสามวันแล้ว เขายังกังวลอยู่ว่าใช่จวนอ๋องจินสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติใช่หรือไม่
เสวียนจียิ้มหวาน “ใกล้จะปีใหม่แล้ว ในจวนมีงานเยอะมาก จึงยุ่งจนไปไหนไม่ได้ ดีที่ตอนนี้แต่ละที่ก็ทยอยหยุดงานเพื่อฉลองเทศกาลแล้ว ข้าจึงมีเวลาว่างมาเยี่ยมท่าน อีกไม่กี่วันก็จะสิ้นปีแล้ว ข้าได้นำของว่างกับเหล้ามาเยี่ยมท่านโดยเฉพาะ”
“น้องหยวนเป่า ลำบากเจ้าแล้ว แต่ว่าข้าเพิ่งจะกินอาหารเย็นไปไม่นาน”
ยินถังสีหน้าซาบซึ้งใจ แต่กลับไม่มีทีท่าจะดื่มเหล้ากินของว่างเลยสักนิด
ครั้งที่แล้วหลังจากที่จินหยวนเป่ามาส่งของว่างให้เขา เขาก็ผายลมติดต่อกันหลายวัน ไม่เพียงแต่เสียงดังลั่นเท่านั้น ยังมีกลิ่นเหม็นรุนแรงด้วย
คุกหลวงไม่ระบายอากาศ หลายวันนั้นเขาเกือบจะถูกตดของตนเองรมจนประสาทการรับรู้กลิ่นไม่ทำงาน
ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะของว่างมีปัญหา หรือว่าอาการของคุกหลวงมีปัญหา
เอาเป็นว่าถ้าไม่ใช่เพราะจินหยวนเป่าช่วยส่งข่าวให้ตระกูลยิน ยินถังคงจะสงสัยจุดประสงค์ที่นางส่งของว่างมาให้แล้ว
เสวียนจีก็ไม่ได้บังคับให้เขากิน เอ่ยเสียงเบาว่า “พี่ยินถัง คืนนี้คนอยู่เวรในศาลต้าหลี่มีไม่มาก ข้าได้มอบเงินหนึ่งร้อยตำลึงให้กับองครักษ์ที่คุมคุกไปดื่มเหล้าที่ลานด้านนอก เช่นนี้ก็สามารถอยู่เป็นเพื่อนท่านได้นานหน่อย”
ยินถังได้ยินเช่นนี้ก็กระตือรือร้นขึ้นมา
หน่วยกล้าตายที่ถือปืนคาบศิลาคนหนึ่งเอากุญแจออกมา ช่วยยินถังออกมาจากห้องขัง
“สถานการณ์ในศาลต้าหลี่เป็นอย่างไรบ้าง ท่านปู่เล่า”
“เรียนคุณชายใหญ่ คาดว่าเป็นเพราะใกล้จะถึงปีใหม่แล้ว การคุ้มกันของที่นี่จึงหละหลวมมาก พวกเราลอบเข้าไปในห้องเพื่อจับตัวหัวหน้าศาลต้าหลี่ได้อย่างราบรื่น ตอนนี้องครักษ์ที่อยู่ข้างนอกถูกพวกเราควบคุมไว้หมดแล้ว พวกเราได้กุญแจมาจากตัวหัวหน้าศาลต้าหลี่ ได้ส่งคนไปช่วยใต้เท้าอาลักษณ์แล้ว”
ยินถังได้ยินเช่นนี้ ก็เผยสีหน้ายินดี ไม่สงสัยเลยสักนิดว่าทำไมเรื่องราวดำเนินไปอย่างราบรื่นมาก
ในมุมมองของเขา ตระกูลยินได้วางแผนการไว้ล่วงหน้า หน่วยกล้าตายที่เขาฝึกออกมามีฝีมือไม่ด้อยไปกว่าทหารองครักษ์เลย
ทุกอย่างน่าจะอยู่ในการควบคุมของพวกเขา ตระกูลเซียวที่เพิ่งจะได้ครองบัลลังก์ฮ่องเต้อาศัยอะไรมาจัดการกับตระกูลยิน
“อือๆๆ”
ข้างกาย เสวียนจีมองยินถังอย่างไม่อยากจะเชื่อ ใช้สายตาที่เต็มไปด้วยความตื่นตระหนกและสับสนถามเขาว่าเกิดอะไรขึ้น
กวาดตามองนางแวบหนึ่ง ยินถังแววตาเย็นชา “น้องหยวนเป่า พูดตามความจริง ข้าชอบเจ้าจากใจจริงๆ ถ้าหาเป็นไปได้ละก็ ข้าก็ไม่อยากหลอกใช้เจ้า......จะโทษก็ต้องโทษที่ราชวงศ์โหดเหี้ยมไร้เมตตา บีบให้ตระกูลยินต้องมาถึงจุดนี้”
จากนั้นเขาก็ไม่เสียเวลาอีก ก้าวออกไปยังด้านนอกของคุกหลวง
เสวียนจีถูกหน่วยกล้าตายคนหนึ่งคุมตัวให้เดินตามหลังยินถังไปติดๆ ส่วนทางด้านหลัง เป็นหน่วยกล้าตายสองคนที่ถือปืนด้วยท่าทีโหดเหี้ยม ไม่มีใครสนใจว่าในมือนางยังถือกล่องข้าวใบเล็กๆไว้แน่น
หลังจากเดินออกมาจากคุก เสวียนจีก็เห็นสถานการณ์ในลานกว้างอย่างชัดเจน
ใต้แสงจันทร์เยือกเย็น หิมะตกลงมาอย่างไร้สุ้มเสียง ใต้เท้าเฉิงหัวหน้าศาลต้าหลี่ถูกหน่วยกล้าตายคนหนึ่งบีบคอเอาไว้ สีหน้าแดงก่ำไปหมด
หน่วยกล้าตายสิบกว่านายล้อมตัวเขาเอาไว้ กำลังปะทะคารมกับจ่าศาลต้าหลี่และองครักษ์คนอื่นๆอยู่
จ่าศาลต้าหลี่ตะคอกว่า “ช่างบังอาจยิ่งนัก ถึงกับกล้าแหกคุก ไม่เห็นอำนาจฮ่องเต้และกฎหมายอยู่ในสายตา ยังไม่รีบปล่อยตัวใต้เท้าเฉิงอีก มิเช่นนั้นหากทหารองครักษ์มาถึงที่นี่ พวกเจ้าล้วนต้องถูกตัดหัวทันที”
หน่วยกล้าตายที่ใส่ชุดสีดำบีบคอใต้เท้าเฉิงขู่เสียงเย็นว่า “เจ้าหยุดคิดที่จะแอบส่งข่าวเสียเถอะ ถ้าเจ้าดึงดูดทหารองครักษ์มา คนที่อยู่ที่นี่ต้องตายหมด ไม่เชื่อละก็ เจ้าสามารถลองดูได้ พลุสัญญาณของเจ้า หรือปืนคาบศิลาในมือพวกข้าอันไหนจะเร็วกว่ากัน”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
ทำไมใช้เหรียญไม่ได้ติดต่อกันเป็นอาทิตย์ละคะ...
ทำไมแสดงความคิดเห็น แล้วข้อความหายอ่ะ...
ซื้อตอนแล้วไม่ได้ปลดล๊อคค้างไว้เหรอคะ แบบนี้ก็ย้อนกลับมาอ่านไม่ได้สิคะ มือกดโดนผิดวิ่งไปหน้าอื่นต้องเสียเงินอีกรอบงี้เหรอ...
ทำไมซื้อตอนปลดล๊อคแล้ว กลับไปย้อนอ่านต้องปลดล๊อคใหม่คะ...
ทำไมตอนซื้อแล้วล๊อคไม่ได้คะ...
ทำไมซื้อตอนแล้วเปิดหน้าใหม่แล้วย้อนกลับไปอ่านไม่ได้คะ ล๊อคเหมือนเดิมต้องจ่ายเงินซื้อใหม่ตลอดรึคะ...
ทำไมปลดล๊อคแล้ว กดข้ามไปตอนใหม่แล้วย้อนกลับมาอ่านไม่ได้คะ...
ทำไมซื้อตอนไม่ได้คะ...
เติมเหรียญอย่างไร...
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...