เสี้ยววินาทีนั้น เสวียนจีคิดว่าตัวเองตาฝาดไป
แต่หลังจากที่ควันสลายไปแล้ว ชายหนุ่มที่สวมชุดนักบวชสีม่วง ยืนอยู่ใต้แสงจันทร์ ไม่ใช่เฟิ่งเหมียนจะเป็นใคร
ตอนที่เฟิ่งเหมียนอยู่ห่างจากศาลต้าหลี่ประมาณร้อยเมตร ก็ได้ยินเสียงปื้นดังมาจากที่นี่
เขาที่ไม่นานมานี้เพิ่งจะมีประสบการณ์รบราฆ่าฟันแคว้นตงฉู่มา แค่ชั่วพริบตาก็แยกแยะได้ว่าเสียงนั้นไม่ใช่เสียงพลุดอกไม้ไฟ แต่เป็นเสียงที่มาจากปืนคาบศิลา
หัวใจของเขาเต้นแรงขึ้นมาทันที หลังจากที่มาถึงประตูศาลต้าหลี่ แทบจะทิ้งรถไม้และวิ่งเข้ามา
พอมาถึงลานด้านหน้า ภาพตรงหน้าแทบจะทำให้หัวใจของเฟิ่งเหมียนกระเด็นออกมานอกอก
ควันลอยคละคลุ้ง เงาร่างของคนจำนวนไม่น้อยเคลื่อนไหวไปมาอย่างรวดเร็ว เสียงปะทะกันของดาบและโล่ดังออกมาจากกลุ่มควัน ลมเย็นที่พัดเข้ามาปะปนไปด้วยกลิ่นคาวเลือดรุนแรง
หลังจากที่มองภาพในหมอกควันชัดเจน เฟิ่งเหมียนจำร่างบอบบางนั้นได้ทันที สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน
“รีบหลบไป”
เสวียนจีถูกการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของเขาทำเอาตกตะลึง ในเสี้ยววินาทีที่รู้สึกประหลาดใจ คมดาบแวววาวก็ฟาดฟันมาจากทางด้านข้าง
ร่างกายที่เคยมีประสบการณ์ต่อสู้มามากได้สร้างความทรงจำในกล้ามเนื้อ หลบหลีกการโจมตีนี้ได้อย่างคล่องแคล่วด้วยสัญชาตญาณ
นางกวาดตามองหน่วยกล้าตายที่สูดดมควันสลบเข้าไป อีกฝ่ายเคลื่อนไหวได้ช้าลงมาก
วินาทีต่อมา นางไม่เพียงแต่อยู่ให้ห่างออกไป กลับฉวยโอกาสที่อีกฝ่ายถูกรมควันจนน้ำตาไหลไม่หยุดเข้าใกล้มากขึ้น
ในกลุ่มคนที่วุ่นวายภายในหมอกควัน นางราวกับปลาที่กระโจนลงน้ำ เคลื่อนไหวไปมาอย่างอิสรเสรี
ยกฝ่ามือขึ้น โจมตีไปที่ง่ามมือของหน่วยกล้าตายชุดดำอย่างแรง ดาบคมกริบหล่นลงมาในฝ่ามือของเสวียนจี
ยกมือขึ้นมาอีกครั้ง บาดคออีกฝ่ายในดาบเดียว
เลือดอุ่นร้อนสาดกระเด็นมาบนหน้ากากป้องกันพิษสีดำ ดวงตาที่อยู่ใต้หน้ากากคู่นั้นกลับไม่กะพริบเลยสักครั้ง
อืม ทักษะพิเศษของนายท่านหลีว์
แม้ว่านางจะใช้ดาบไม่เก่ง แต่กระบวนท่านี้อย่างไรเสียก็น่าจะเทียบกับทักษะของอีกฝ่ายได้สามส่วน
เฟิ่งเหมียนเห็นนางสังหารคนที่บุกโจมตี ความตื่นตกใจเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นความโล่งใจ
เวลานี้ ยินถังที่สองขาถูกยิงจนบาดเจ็บก็ถูกเสียงร้องนั้นดึงดูดความสนใจ
ดวงตาทั้งคู่ของเขาแดงก่ำ อดทนต่อความเจ็บปวดอย่างรุนแรงที่ขา ยกมือขึ้นชี้ไปยังทิศทางของเฟิ่งเหมียน “ฝ่าวงล้อม ฝ่าวงล้อมไม่ได้ก็ฆ่าเขาซะ ไม่ว่าต้องแลกกับอะไรก็ตาม”
เฟิ่งเหมียนเคยเป็นถึงราชครูอันเป็นที่เคารพของคนนับหมื่นในแคว้นตงฉู่ ถ้าหากเขามาตายที่นี่ ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุอะไร แคว้นต้าโจวต้องนำมาซึ่งความไม่พอใจและโกรธแค้นของชาวแคว้นตงฉู่แน่
เวลานี้ ยินถังไม่กล้าหวังว่าจะสามารถหนีพ้นความตายได้ ขอแค่สามารถดึงคนที่อยู่ที่นี่ให้ล่มจมไปด้วยกันคนหนึ่งก็ยังดี
บีบเขาให้มาถึงจุดนี้ เช่นนั้นก็อย่าคิดว่าจะได้อยู่กันอย่างมีความสุขเลย
ตอนนี้ สีหน้าของเสวียนจีจะผ่อนคลายต่อไปไม่ได้อีกแล้ว
ต้องรู้ว่า เฟิ่งเหมียนเป็นแค่ผู้ช่วยอ่อนหัดที่เชี่ยวชาญเรื่องโหราศาสตร์และการทำนายดวงชะตาเท่านั้น
แม้จะบำเพ็ญเพียรฝึกยุทธตลอดมา พื้นฐานร่างกายแข็งแรงกว่าคนทั่วไปไม่น้อย แต่นั่นล้วนใช้สำหรับการรักษาร่างกายให้แข็งแรง ไม่ใช่ความสามารถที่จะฆ่าศัตรูในสนามรบ
ก็เหมือนพวกคุณลุงที่ฝึกมวยไทเก๊กในสวนสาธารณะ สามารถสู้กับนักสู้มืออาชีพในโรงเรียนสอนการต่อสู้ได้หรือ
“เร็ว รีบหลบไป” เสวียนจีตะโกนด้วยสีหน้าร้อนใจ หมุนตัวหันไปตะโกนกับหน้ากากเงินว่า “เปลี่ยนรูปแบบทหารโล่ กระจายการคุ้มกัน”
ภายในลานกว้าง องครักษ์ทั้งหมดล้วนถือโล่กำบังตั้งแถวเป็นแนวกำแพงที่มิดชิด คุ้มกันหัวหน้าศาลต้าหลี่ต้านกระสุนปืนคาบศิลา และมีดดาบของศัตรู
เฟิ่งเหมียนยืนอยู่ที่ประตูทางออกเพียงทางเดียวของศาลต้าหลี่ มีหน่วยกล้าตายสิบกว่านายคั่นกลางระหว่างเขากับแนวทหารโล่
เสวียนจีอยู่ใกล้เขามากที่สุด ตามแผนการควรจะอาศัยโอกาสที่หน้ากากเงินโจมตีด้วยหมอกควัน หลบไปอยู่ทางด้านหลังโล่กำบัง ในขณะเดียวกันก็จะมีมือธนูอีกกลุ่มหนึ่งออกมาสังหารโจรกบฏ
ดีที่ในช่วงแห่งความเป็นความตายยี่สิบวินาทีนี้ เพียงพอที่จะให้ทหารโล่เปลี่ยนรูปแบบเข้าสู้การต่อสู้
พวกหน่วยกล้าตายเดิมทีก็สูดเอาควันยาสลบเข้าไป ภายใต้ฤทธิ์ยาทำให้พลังในการต่อสู้ลดลง เสวียนจีเห็นเช่นนั้นก็ปาดเหงื่อที่หน้าผาก มือมีอาการสั่นเทาอยู่บ้าง
“คิดว่าจะต้องสิ้นใจที่นี่ซะแล้ว ทำเอาข้าตกใจแทบแย่”
นางไม่ใช่นายท่านหลีว์ ทักษะที่ชำนาญที่สุดคือหลบหนีเอาตัวรอด ไม่ใช่อัศวินขี่ม้าขาวช่วยเหลือคนอื่น
เพราะนางมีสุดยอดสมองซึ่งเป็นพรสวรรค์พิเศษ ตอนที่อยู่ในองค์กร นางก็เหมือนกับหลงเย่ มักจะเป็นคนที่ถูกคุ้มกันและปกป้องก่อนเสมอ
การเอาตัวปกป้องคนอื่นอย่างไม่คิดชีวิตเช่นนี้ เกิดขึ้นน้อยมาก
เห็นว่าใกล้จะสิ้นสุดแล้ว เสวียนจีก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ เดินไปข้างกายเฟิ่งเหมียน จ้องมองเขาอย่างโกรธเคืองดุดัน
“ทำไมจู่ๆท่านจึงมาที่ศาลต้าหลี่ อยากจะให้ข้าตายใช่ไหม ท่านจึงได้ทำการโจมตีอย่างกะทันหันเช่นนี้”
เฟิ่งเหมียนเพิ่งจะได้สติกลับมากจากสถานการณ์พลิกไปมาอย่างรวดเร็ว มองเงาร่างบอบบางที่อยู่ตรงหน้าอย่างนิ่งอึ้ง ในใจมีความรู้สึกรุนแรงที่ยากจะอธิบายผุดขึ้นมา
“ข้า......”
เขาอ้าปาก ทั้งๆที่ตอนมาในใจเต็มไปด้วยความกังวล ตอนนี้กลับพูดไม่ออกแม้แต่คำเดียว
ขณะนี้เอง หน้ากากเงินที่อยู่ไม่ไกลนักจัดการกับหน่วยกล้าตายได้คนหนึ่ง ที่เหลือกระจัดกระจายอีกสองสามคนไม่ได้ทำให้รู้สึกกลัวแล้ว
เพิ่งจะได้พักหายใจ หางตาก็เหลือบไปเห็นเงาร่างสายหนึ่งกำลังดิ้นรนเคลื่อนไหว
ยินถังที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสลากขาสองข้างที่มีเลือดไหลออกมา ไม่รู้ว่าไปเก็บปืนคาบศิลาที่หน่วยกล้าตายของตระกูลยินทำหล่นไปตอนต่อสู้กันขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ เล็กกระบอกปืนไปที่พวกเสวียนจีด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความแค้นใจ
ม่านตาของหน้ากากเงินหดลง ร้องตะโกนเสียงดังว่า “รีบหมอบลง”
ปัง......

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
ทำไมใช้เหรียญไม่ได้ติดต่อกันเป็นอาทิตย์ละคะ...
ทำไมแสดงความคิดเห็น แล้วข้อความหายอ่ะ...
ซื้อตอนแล้วไม่ได้ปลดล๊อคค้างไว้เหรอคะ แบบนี้ก็ย้อนกลับมาอ่านไม่ได้สิคะ มือกดโดนผิดวิ่งไปหน้าอื่นต้องเสียเงินอีกรอบงี้เหรอ...
ทำไมซื้อตอนปลดล๊อคแล้ว กลับไปย้อนอ่านต้องปลดล๊อคใหม่คะ...
ทำไมตอนซื้อแล้วล๊อคไม่ได้คะ...
ทำไมซื้อตอนแล้วเปิดหน้าใหม่แล้วย้อนกลับไปอ่านไม่ได้คะ ล๊อคเหมือนเดิมต้องจ่ายเงินซื้อใหม่ตลอดรึคะ...
ทำไมปลดล๊อคแล้ว กดข้ามไปตอนใหม่แล้วย้อนกลับมาอ่านไม่ได้คะ...
ทำไมซื้อตอนไม่ได้คะ...
เติมเหรียญอย่างไร...
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...