เข้าสู่ระบบผ่าน

พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 970

เสี้ยววินาทีนั้น เสวียนจีคิดว่าตัวเองตาฝาดไป

แต่หลังจากที่ควันสลายไปแล้ว ชายหนุ่มที่สวมชุดนักบวชสีม่วง ยืนอยู่ใต้แสงจันทร์ ไม่ใช่เฟิ่งเหมียนจะเป็นใคร

ตอนที่เฟิ่งเหมียนอยู่ห่างจากศาลต้าหลี่ประมาณร้อยเมตร ก็ได้ยินเสียงปื้นดังมาจากที่นี่

เขาที่ไม่นานมานี้เพิ่งจะมีประสบการณ์รบราฆ่าฟันแคว้นตงฉู่มา แค่ชั่วพริบตาก็แยกแยะได้ว่าเสียงนั้นไม่ใช่เสียงพลุดอกไม้ไฟ แต่เป็นเสียงที่มาจากปืนคาบศิลา

หัวใจของเขาเต้นแรงขึ้นมาทันที หลังจากที่มาถึงประตูศาลต้าหลี่ แทบจะทิ้งรถไม้และวิ่งเข้ามา

พอมาถึงลานด้านหน้า ภาพตรงหน้าแทบจะทำให้หัวใจของเฟิ่งเหมียนกระเด็นออกมานอกอก

ควันลอยคละคลุ้ง เงาร่างของคนจำนวนไม่น้อยเคลื่อนไหวไปมาอย่างรวดเร็ว เสียงปะทะกันของดาบและโล่ดังออกมาจากกลุ่มควัน ลมเย็นที่พัดเข้ามาปะปนไปด้วยกลิ่นคาวเลือดรุนแรง

หลังจากที่มองภาพในหมอกควันชัดเจน เฟิ่งเหมียนจำร่างบอบบางนั้นได้ทันที สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน

“รีบหลบไป”

เสวียนจีถูกการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของเขาทำเอาตกตะลึง ในเสี้ยววินาทีที่รู้สึกประหลาดใจ คมดาบแวววาวก็ฟาดฟันมาจากทางด้านข้าง

ร่างกายที่เคยมีประสบการณ์ต่อสู้มามากได้สร้างความทรงจำในกล้ามเนื้อ หลบหลีกการโจมตีนี้ได้อย่างคล่องแคล่วด้วยสัญชาตญาณ

นางกวาดตามองหน่วยกล้าตายที่สูดดมควันสลบเข้าไป อีกฝ่ายเคลื่อนไหวได้ช้าลงมาก

วินาทีต่อมา นางไม่เพียงแต่อยู่ให้ห่างออกไป กลับฉวยโอกาสที่อีกฝ่ายถูกรมควันจนน้ำตาไหลไม่หยุดเข้าใกล้มากขึ้น

ในกลุ่มคนที่วุ่นวายภายในหมอกควัน นางราวกับปลาที่กระโจนลงน้ำ เคลื่อนไหวไปมาอย่างอิสรเสรี

ยกฝ่ามือขึ้น โจมตีไปที่ง่ามมือของหน่วยกล้าตายชุดดำอย่างแรง ดาบคมกริบหล่นลงมาในฝ่ามือของเสวียนจี

ยกมือขึ้นมาอีกครั้ง บาดคออีกฝ่ายในดาบเดียว

เลือดอุ่นร้อนสาดกระเด็นมาบนหน้ากากป้องกันพิษสีดำ ดวงตาที่อยู่ใต้หน้ากากคู่นั้นกลับไม่กะพริบเลยสักครั้ง

อืม ทักษะพิเศษของนายท่านหลีว์

แม้ว่านางจะใช้ดาบไม่เก่ง แต่กระบวนท่านี้อย่างไรเสียก็น่าจะเทียบกับทักษะของอีกฝ่ายได้สามส่วน

เฟิ่งเหมียนเห็นนางสังหารคนที่บุกโจมตี ความตื่นตกใจเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นความโล่งใจ

เวลานี้ ยินถังที่สองขาถูกยิงจนบาดเจ็บก็ถูกเสียงร้องนั้นดึงดูดความสนใจ

ดวงตาทั้งคู่ของเขาแดงก่ำ อดทนต่อความเจ็บปวดอย่างรุนแรงที่ขา ยกมือขึ้นชี้ไปยังทิศทางของเฟิ่งเหมียน “ฝ่าวงล้อม ฝ่าวงล้อมไม่ได้ก็ฆ่าเขาซะ ไม่ว่าต้องแลกกับอะไรก็ตาม”

เฟิ่งเหมียนเคยเป็นถึงราชครูอันเป็นที่เคารพของคนนับหมื่นในแคว้นตงฉู่ ถ้าหากเขามาตายที่นี่ ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุอะไร แคว้นต้าโจวต้องนำมาซึ่งความไม่พอใจและโกรธแค้นของชาวแคว้นตงฉู่แน่

เวลานี้ ยินถังไม่กล้าหวังว่าจะสามารถหนีพ้นความตายได้ ขอแค่สามารถดึงคนที่อยู่ที่นี่ให้ล่มจมไปด้วยกันคนหนึ่งก็ยังดี

บีบเขาให้มาถึงจุดนี้ เช่นนั้นก็อย่าคิดว่าจะได้อยู่กันอย่างมีความสุขเลย

ตอนนี้ สีหน้าของเสวียนจีจะผ่อนคลายต่อไปไม่ได้อีกแล้ว

ต้องรู้ว่า เฟิ่งเหมียนเป็นแค่ผู้ช่วยอ่อนหัดที่เชี่ยวชาญเรื่องโหราศาสตร์และการทำนายดวงชะตาเท่านั้น

แม้จะบำเพ็ญเพียรฝึกยุทธตลอดมา พื้นฐานร่างกายแข็งแรงกว่าคนทั่วไปไม่น้อย แต่นั่นล้วนใช้สำหรับการรักษาร่างกายให้แข็งแรง ไม่ใช่ความสามารถที่จะฆ่าศัตรูในสนามรบ

ก็เหมือนพวกคุณลุงที่ฝึกมวยไทเก๊กในสวนสาธารณะ สามารถสู้กับนักสู้มืออาชีพในโรงเรียนสอนการต่อสู้ได้หรือ

“เร็ว รีบหลบไป” เสวียนจีตะโกนด้วยสีหน้าร้อนใจ หมุนตัวหันไปตะโกนกับหน้ากากเงินว่า “เปลี่ยนรูปแบบทหารโล่ กระจายการคุ้มกัน”

ภายในลานกว้าง องครักษ์ทั้งหมดล้วนถือโล่กำบังตั้งแถวเป็นแนวกำแพงที่มิดชิด คุ้มกันหัวหน้าศาลต้าหลี่ต้านกระสุนปืนคาบศิลา และมีดดาบของศัตรู

เฟิ่งเหมียนยืนอยู่ที่ประตูทางออกเพียงทางเดียวของศาลต้าหลี่ มีหน่วยกล้าตายสิบกว่านายคั่นกลางระหว่างเขากับแนวทหารโล่

เสวียนจีอยู่ใกล้เขามากที่สุด ตามแผนการควรจะอาศัยโอกาสที่หน้ากากเงินโจมตีด้วยหมอกควัน หลบไปอยู่ทางด้านหลังโล่กำบัง ในขณะเดียวกันก็จะมีมือธนูอีกกลุ่มหนึ่งออกมาสังหารโจรกบฏ

ดีที่ในช่วงแห่งความเป็นความตายยี่สิบวินาทีนี้ เพียงพอที่จะให้ทหารโล่เปลี่ยนรูปแบบเข้าสู้การต่อสู้

พวกหน่วยกล้าตายเดิมทีก็สูดเอาควันยาสลบเข้าไป ภายใต้ฤทธิ์ยาทำให้พลังในการต่อสู้ลดลง เสวียนจีเห็นเช่นนั้นก็ปาดเหงื่อที่หน้าผาก มือมีอาการสั่นเทาอยู่บ้าง

“คิดว่าจะต้องสิ้นใจที่นี่ซะแล้ว ทำเอาข้าตกใจแทบแย่”

นางไม่ใช่นายท่านหลีว์ ทักษะที่ชำนาญที่สุดคือหลบหนีเอาตัวรอด ไม่ใช่อัศวินขี่ม้าขาวช่วยเหลือคนอื่น

เพราะนางมีสุดยอดสมองซึ่งเป็นพรสวรรค์พิเศษ ตอนที่อยู่ในองค์กร นางก็เหมือนกับหลงเย่ มักจะเป็นคนที่ถูกคุ้มกันและปกป้องก่อนเสมอ

การเอาตัวปกป้องคนอื่นอย่างไม่คิดชีวิตเช่นนี้ เกิดขึ้นน้อยมาก

เห็นว่าใกล้จะสิ้นสุดแล้ว เสวียนจีก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ เดินไปข้างกายเฟิ่งเหมียน จ้องมองเขาอย่างโกรธเคืองดุดัน

“ทำไมจู่ๆท่านจึงมาที่ศาลต้าหลี่ อยากจะให้ข้าตายใช่ไหม ท่านจึงได้ทำการโจมตีอย่างกะทันหันเช่นนี้”

เฟิ่งเหมียนเพิ่งจะได้สติกลับมากจากสถานการณ์พลิกไปมาอย่างรวดเร็ว มองเงาร่างบอบบางที่อยู่ตรงหน้าอย่างนิ่งอึ้ง ในใจมีความรู้สึกรุนแรงที่ยากจะอธิบายผุดขึ้นมา

“ข้า......”

เขาอ้าปาก ทั้งๆที่ตอนมาในใจเต็มไปด้วยความกังวล ตอนนี้กลับพูดไม่ออกแม้แต่คำเดียว

ขณะนี้เอง หน้ากากเงินที่อยู่ไม่ไกลนักจัดการกับหน่วยกล้าตายได้คนหนึ่ง ที่เหลือกระจัดกระจายอีกสองสามคนไม่ได้ทำให้รู้สึกกลัวแล้ว

เพิ่งจะได้พักหายใจ หางตาก็เหลือบไปเห็นเงาร่างสายหนึ่งกำลังดิ้นรนเคลื่อนไหว

ยินถังที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสลากขาสองข้างที่มีเลือดไหลออกมา ไม่รู้ว่าไปเก็บปืนคาบศิลาที่หน่วยกล้าตายของตระกูลยินทำหล่นไปตอนต่อสู้กันขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ เล็กกระบอกปืนไปที่พวกเสวียนจีด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความแค้นใจ

ม่านตาของหน้ากากเงินหดลง ร้องตะโกนเสียงดังว่า “รีบหมอบลง”

ปัง......

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ