เข้าสู่ระบบผ่าน

พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 975

ใต้แสงจันทร์อันหนาวเหน็บ หิมะบนพื้นแทบจะกลายเป็นสีแดงจากเลือดสดจนหมด

หลิวฉิงถือกระบี่ที่มีเลือดหยดลงมา พลางมองชายวัยกลางคนที่ใบหน้าบูดเบี้ยวจากความเจ็บปวด

“แม่แต่เด็กทารกก็ไม่เว้น ถ้ารู้แต่แรก ข้าควรแทงเจ้าให้ตายเสียเลย”

บุรุษที่ทรมานจากการกลืนกินหัวใจของพิษกู่คือบิดาของยินถัง ยินไหว

รอบด้านเขามีแต่ศพ มีทั้งหน่วยกล้าตายที่ชุบเลี้ยงมากับเด็กน้อยใหญ่ของตระกูลยิน

ต้นสายปลายเหตุของเรื่องนี้ต้องเล่าเมื่อหนึ่งชั่วยามก่อน

......

ตามแผนที่วางไว้ พวกอวิ๋นหลิงมาถึงจวนยินช่วงพลบค่ำ นำกำลังทหารมาตรวจค้นจวนยิน เพื่อหาหลักฐานการก่อกบฏ

แต่ความจริงกลับมาค้นหาเส้นทางลับทุกซอกทุกมุม ทั้งยังใช้พลังจิตตรวจจับตำแหน่งที่หน่วยกล้าตายเร้นกาย

ยินไหวเป็นคนระแวดระวัง ช่วงนาทีใกล้ถึงมือมัจจุราช สองผัวเมียตำหนักบูรพายังนำคนมาตรวจค้นหลักฐานอีก จึงไหวตัวทันทันที

ต่างฝ่ายต่างรู้ดีแก่ใจ คดีก่อกบฏเป็นการยัดเยียดข้อหา เพราะศาลต้าหลี่ร่วมมือกับสำนักตรวจการ กรมอาญา เคยมาค้นหาหลักฐานในจวนหลายครั้งแล้ว

ถึงขั้นนี้แล้วสองผัวเมียยังต้องการหลักฐานใดอีก?

ดังนั้นตอนที่ทหารของตำหนักบูรพาบอกให้รวมตัวกันที่ลาน เพื่อไม่ให้หลบหนีเส้นทางลับ ยินไหวก็พอจะคาดเดาได้ว่า โดนเปิดโปงแผนหลบหนีออกจากคุกเสียแล้ว

หาไม่แล้วเหตุใดอีกฝ่ายจึงมาในนาทีสำคัญ ทั้งยังกระทำอย่างโจ่มแจ้งอีกด้วย

แผนการใช้เส้นทางลับสี่สายโดนทำลาย ยินไหวอ้างว่าขอเข้าสุขาโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า แต่แท้จริงแล้วจะทำการหลบหนีจากการอารักขาของหน่วยกล้าตาย

ทว่าอวิ๋นหลิงจับตามองยินไหวตลอดเวลา ไหนเลยจะให้โอกาสเขา ใช้เครื่องเทศพิเศษที่หลิงซูปลุกให้พิษกู่ในร่างกายเขาตื่น

เวลาจับโจรต้องจับหัวหน้าก่อน เมื่อควบคุมชะตาชีวิตของยินไหว ผู้เป็นนายใหญ่ได้แล้ว การดำเนินการครั้งนี้ก็ถือว่าสำเร็จกว่าครึ่ง หน่วยกล้าตายที่เหลือสิบกว่าคนไม่กล้าทำอะไรส่งเดช

ยินไหวกุมหน้าอกที่ทั้งคันและปวด ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยความเหลือเชื่อและไม่พอใจ

“พวกเจ้ารู้แผนข้าเมื่อใด? ข้าผิดพลาดจุดไหน พวกเจ้ารู้ได้อย่างไร”

เซียวปี้เฉิงแสยะยิ้ม “ทุกการเคลื่อนไหวอยู่ในการควบคุมของตำหนักบูรพาตลอด ถ้าพวกข้าไม่ผ่อนผัน ลำพังความสามารถอันน้อยนิดของพวกเจ้าคิดว่าจะส่งจดหมายลับหายินถังที่อยู่ในคุกได้รึ?”

ยินไหวราวกับโดนฟ้าผ่า ตอบสนองทันอย่างรวดเร็ว “พวกเจ้าวางแผนไว้แล้ว พวกเจ้าจงใจให้ตระกูลยินหนีออกจากคุก”

ตำแหน่งงานในราชสำนักของยินไหวไม่สูงมากนัก เป็นบุคคลที่ไม่มีผลกระทบใด ๆ ปกติก็ไม่เป็นที่สนใจของผู้อื่น

แต่ไม่ใช่เพราะความสามารถเขาไม่ถึง หากแต่เป็นเพราะพวกเขาพึ่งบุตรชายเอก ผู้ที่อาลักษณ์ยินโปรดปรานที่สุด ทำการค้าสีเทา ซึ่งเป็นเสาหลักของตระกูล

อาจเป็นเพราะเขาอยู่ในตำแหน่งขุนนางมานาน ส่งผลให้ไม่ค่อยระวังตัวมากนัก

กอปรกับปกติทำเรื่องไม่ดีไว้เยอะ เมื่อเจอราชสำนักจึงเกิดความกลัว ดังนั้นเมื่อรู้ว่าราชสำนักจะรื้อจวนยิน จึงวางแผนแหกคุกทันที

ถ้าเป็นอาลักษณ์เฆ่ายิน จะไม่รีบทำเช่นนี้เด็ดขาด

เมื่อยินไหวรู้ตัวว่าทำผิดพลาด นำความหายนะมาสู่ตระกูลยิน ก็หายใจรัวแรง ใบหน้าบูดเบี้ยวเป็นพิเศษ

“พวกเจ้ามีสายลับอยู่ในกลุ่มหน่วยกล้าตายใช่หรือไม่ จักรพรรดิจาวเหรินดักดานเพียงนั้น แล้วขุนนางทั่วราชสำนักก็มีแต่สวะ หลายสิบปีมานี้ไม่มีผู้ใดเห็นธาตุแท้ตระกูลยินมาก่อน แล้วพวกเจ้าทำได้อย่างไร”

ไม่แปลกหรอกที่ยินไหวจะคลุ้มคลั่งเพียงนี้ ไม่ว่าจะเรื่องการอุทิศตนเพื่อตระกูลยินต่าง ๆ หรือเรื่องวางแผนหนีออกจากคุกครั้งนี้ ถือว่ารัดกุม แยบยลยิ่ง

แต่ใครใช้ให้เขาเจอมนุษย์ที่มีพลังวิเศษ สามารถจู่โจมคนธรรมดาได้อย่างง่ายดาย

บัดนี้ที่นี่นอกจากมีคนสายหลักแล้ว ยังมีลูกอนุ เมื่อสตรีอุ้มเด็กเริ่มระบายความโกรธแค้น ก็เกิดความขุ่นข้องหมองใจตามมาไม่หยุด

“พี่ใหญ่ เคยคิดผลกระทบที่ทำเช่นนี้ไหม? พวกท่านหนีไปได้แล้ว แล้วพวกข้าล่ะ?”

“ยินไหว ช่างรู้จักคิด ให้พวกเราตายแทนครอบครัวสายหลักของพวกเจ้ารึ?”

“รัชทายาทโปรดพิจารณาด้วยพ่ะย่ะค่ะ พวกกระหม่อมไม่เคยคิดกบฏ สายรองของพวกกระหม่อมไม่รู้เรื่องด้วยเลย...”

“ใช่แล้วเพคะพระชายา โปรดเมตตาด้วย สายสามของพวกเราเป็นเพียงลูกอนุ ไม่เคยมีส่วนร่วมกับเรื่องชั่ว ๆ ที่สายหลักทำเลยเพคะ...”

ตระกูลยินเป็นครอบครัวใหญ่ เกิดความแตกแยกภายใน แก่งแย่งชิงดีชิงเด่นระหว่างลูกภรรยาเอกกับลูกอนุก็เป็นเรื่องที่พบเห็นได้ทั่วไป

ยิ่งเรื่องที่เดิมพันด้วยชีวิตแล้ว ย่อมมีคนเสนอตัวอยู่ข้างตำหนักบูรพา บอกว่าจะมอบหลักฐานครอบครัวสายหลัก ยินไหวที่เที่ยวติดสินบนขุนนางยังที่ต่าง ๆ และยังมีหลักฐานการข่มเหงรังแกประชาชนเหมือนผักปลาอีกด้วย ขอเพียงให้พวกเขารับโทษสถานเบาเป็นพอ

อวิ๋นหลิงเลิกคิ้ว ไม่คิดว่าความแตกแยกภายในตระกูลยินจะสาหัสปานนี้ พวกนางจึงได้รับผลประโยชน์โดยไม่คาดคิด

แต่แล้วระหว่างนี้ยินไหวกลับหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง

“พวกเจ้าเป็นคนตระกูลยิน คิดว่าสายหลักตกอับแล้วพวกเจ้าจะหนีไปได้หรือ? อย่าได้ฝันลม ๆ แล้ง ๆ หน่อยเลย”

เขาเป่านกหวีดที่คอเสื้อ มองคนตระกูลยินด้วยแววตาโหดร้าย “องครักษ์เงาจันทร์ฟังคำสั่ง ฆ่าพวกมันให้หมด”

ถ้าจะต้องตาย งั้นก็ตายกันให้หมดนี่แหละ

สิ้นเสียง หน่วยกล้าตายชุดสีดำก็ปรากฏตัวจากที่เร้นกาย ไม่แม้แต่จะชายตามองทหาร ถือกระบี่และปืนคาบศิลาแล้วพวยพุ่งเข้าใส่คนตระกูลยินที่ไร้อาวุธในมือ

ในฝูงชน โม่อี้ซือตัวสั่นเทิ้ม หน้าซีดเผือด ส่งเสียงกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ