เข้าสู่ระบบผ่าน

พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 976

ขณะที่มีเสียงกรีดร้องด้วยความหวาดกลัวก็เกิดเสียงปืนดังขึ้นหลายนัดติดต่อกัน

คนตระกูลยินที่ยืนหน้าลานอย่างเชื่อฟังเมื่อครู่ พากันหนีกระเจิงคนละทิศละทาง

อวิ๋นหลิงคิด ซ้ำ ๆ หลาย ๆ รอบ สันนิษฐานความเป็นไปได้ต่าง ๆ นา ๆ แต่ไม่คิดว่ายินไหวจะเห็นแก่ตัว เป็นคนบ้าบิ่นเพียงนี้

นางอึ้งชั่วอึดใจแล้วสั่งทหารขัดขวางหน่วยกล้าตาย ปกป้องคนตระกูลยินที่เหลือ

“จับตัวพวกเขาไว้ อย่าให้คนชุดดำกลุ่มนี้มีชีวิตรอด”

หน่วยกล้าตายถูกล้างสมองมาแล้ว ไม่มีทางดึงเข้าใช้งานได้ ดังนั้นปล่อยให้มีชีวิตต่อไปก็รังแต่จะเกิดภัยกับตัวเปล่า ๆ

สิ้นเสียงหลิวฉิงก็ชักกระบี่ที่เอวออก พุ่งเข้าไปด้วยใบหน้าเย็นยะเยือก

“น้องหลิงดูด้านหลังให้ดี ตอนที่ทหารถือโล่เปลี่ยนค่ายกล พวกมันอาจจะยิงโต้ตอบได้ น้องเขยสาม จัดการคนที่มีปืนก่อน เจ้ากับข้าคนละหนึ่งคน จัดการให้เร็วที่สุด”

เซียวปี้เฉิงเข้าใจความหมายของหลิวฉิงทันที

ในบรรดาหน่วยกล้าตายชุดดำสี่สิบกว่าคน คนที่ถือปืนคาบศิลาอยู่ด้านหลัง เขารีบใช้พลังจิตเพ่งไปยังหนึ่งในผู้ถือปืน

ทันทีที่เกิดจิตสังหาร ผู้ถือปืนศิลาพลันหมดลมหายใจอย่างไม่ทราบสาเหตุ ทิ้งตัวลงพร้อมกับปืนคาบศิลา

โชคดีที่ตอนนี้เกิดความชุลมุนวุ่นวาย ไม่มีสังเกตหน่วยกล้าตายชุดดำตายอย่างปริศนาเช่นไร

เมื่อไร้ภัยทำลายล้างจากปืนคาบศิลา หน่วยกล้าตายชุดดำที่เหลือก็ไม่น่ากลัวสักนิด

แต่เป็นเพราะคนตระกูลยินหนีหัวซุกหัวซุนด้วยความหวาดกลัว สูญเสียสติปัญญา ทำให้ทหารช่วยเหลือยากขึ้น

กลุ่มหนึ่งหนีสุดชีวิต อีกกลุ่มหนึ่งก็ต้องไล่คุ้มกัน บรรยากาศยุ่งเหยิงเพียงนี้ แม้อยากจะใช้พลังจิตโจมตีศัตรูใช่เรื่องง่ายไม่

“หยุดวิ่งเดี๋ยวนี้ ไปหลบด้านหลังทหาร ถ้าวิ่งส่งเดชอีกมีหวังต้องตายแน่”

หลิวฉิงถือกระบี่แล้วเหินเวหา ชั่วพริบตาก็มีศพหน่วยกล้าตายรอบข้างหลายศพ

หลังนางตะโกนเสียงดัง คนตระกูลยินก็ไม่หยุดวิ่งหนี ทางกลับกันยังวิ่งหนีเร็วกว่าเดิมด้วย

ชั่วขณะนี้ภายในจวนยุ่งเหยิงราวกับกำลังหนีการเข่นฆ่าครั้งใหญ่

ท่ามกลางเสียงกรีดร้องไม่ขาดสาย เริ่มมีเสียงสะอื้นกับร้องร่ำไห้แล้ว

อวิ๋นหลิงเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งโดนหน่วยกล้าตายจู่โจมทั้งสองด้าน ก็รีบยกมือ ปล่อยเข็มคมออกจากหน้าไม้จิ๋วออกไป และแล้วหน่วยกล้าตายทั้งสองคนก็ล้มลง ไม่กระดุกกระดิกอีก

ชายหนุ่มผู้นั้นหลุดพ้นจากการล้อมโจมตีของหน่วยกล้าตาย ก็วิ่งล้มลุกคลุกคลานไปยังจุดหนึ่งที่ไม่ไกลมากนัก

สตรีที่อุ้มเด็กทารกนอนแน่นิ่งบนพื้น นางไม่ได้ส่งเสียงแหลมก่นด่าเหมือนเมื่อครู่ และเด็กทารกในมือนางก็ไม่ได้ร้องไห้โวยวายอีก

ชายหนุ่มอุ้มสตรีกับเด็กทารกขึ้น

“ฮูหยิน...ฮูหยิน...ลูก”

เขาตะโกนด้วยความร้อนรนใจ ทว่าอีกฝ่ายกลับไม่มีการตอบสนอง แววตาเขามึนงง ไม่เข้าใจว่าเหตุใดภรรยาขี้บ่นในยามปกติถึงเงียบเพียงนี้

อวิ๋นหลิงเห็นภาพก็รีบเข้าไปแล้วก็ต้องใจหายใจคว่ำ

นางไม่ต้องตรวจอาการ พลังจิตก็บอกคำตอบนางแล้ว

เมื่อครู่สตรีผู้นี้ด่ากราดยินไหวอยู่ด้านหน้าสุด ตอนที่หน่วยกล้าตายทำตามคำสั่ง นางย่อมต้องเป็นรายแรก รอยยิงสามจุดบนตัว มีสองจุดที่โดนอวัยวะสำคัญ จึงสิ้นใจทันที

ทารกน้อยในมือย่อมโชคร้ายตามไปด้วย

ชายหนุ่มเงยหน้ามองอวิ๋นหลิงที่ยืนใกล้อยู่ด้านหน้า ใบหน้าตื่นตระหนกเกิดความอึ้ง นัยน์ตาเปี่ยมไปด้วยความสิ้นหวัง

“ฮูหยิน...ฮูหยินอย่าทำให้ข้าตกใจสิ เจ้ากับลูกจากไปแล้วข้าจะอยู่อย่างไรต่อไป”

อวิ๋นหลิงใบหน้าเย็นชาในบัดดล ทว่ายังคงอธิบายอย่างอดทน “อ๋องไหวเซียงกบฏจริง ตระกูลยินจับพรรค ชกราษฎร์บังหลวงก็เป็นเรื่องจริง แล้วพี่ยินถังก็ใจกล้า ลักพาตัวลูกหลายเชื้อพระวงศ์จริงๆ”

“แต่เจ้าไม่เดือดร้อนหรอก ราชวงศ์จะปกป้องเจ้ากับองค์หญิงอี๋อัน แต่เจ้าต้องทำตัวดี ๆ เจ้ายังคงเป็นเสี่ยนจู่ผู้สูงศักดิ์”

หลังข่าวตระกูลยินลือกระฉ่อน องค์หญิงอี๋อันก็รู้ว่าลูกสาวบุญธรรมมีข้อดีในเรื่องนี้อย่างไร

แม้นางจะไม่พอใจที่พวกอวิ๋นหลิงเอาโม่อี้ซือเป็นหมากตัวหนึ่ง แต่หลังจากรู้ว่าอ๋องไหวเซียงก่อกบฏแล้ว ความไม่สบอารมณ์ก็เปลี่ยนเป็นซาบซึ้งใจ

ซาบซึ้งที่ตำหนักบูรพาเตรียมการเช่นนี้ เท่ากับเป็นการช่วยลูกสาวแท้ ๆ ที่อยู่เซียงโจว

สำหรับโม่อี้ซือ เพราะเป็นลูกสาวบุญธรรมของอ๋องไหวเซียง องค์หญิงอี๋อันขอจักรพรรดิจาวเหรินว่าอย่าลงโทษอีกฝ่าย จักรพรรดิจาวเหรินก็ยอมรับปาก

ทว่าโม่อี้ซือเหมือนจะยังคิดไม่ได้ นางยังคงจ้องอวิ๋นหลิงด้วยความเคียดแค้น “เจ้าโกหก เจ้ากล่าวหาลอย ๆ พวกเจ้าเห็นว่าตระกูลยินขัดขวางความเจริญ อยากจะสนับสนุนคนในสำนักศึกษาชิงอี้ให้เรืองอำนาจ พวกเจ้าถึงเอาตระกูลยินแห่งกรมขุนนางเชือกไก่ให้ลิงดู”

อวิ๋นหลิงไร้อารมณ์ทางสีหน้า ได้ยินดังนั้นก็อยากหัวเราะ

โม่อี้ซือแต่งเข้าจวนยินแล้วเริ่มหัวการเมืองมากขึ้น แต่ก็ไม่มาก

“สถานการณ์ยามนี้ เจ้ายังแยกผลได้ผลเสียไม่ออกอีกรึ?”

โม่อี้ซือน้ำตาไหลพราก ชี้หน้าด่านางด้วยความคับแค้นใจ “ข้าไม่รู้ว่าอะไรคือข้อดี อะไรคือข้อเสียหรอก ข้ารู้เพียงว่าพี่ยินถังไม่ผิด เจ้าใช้อำนาจราชวงศ์รังแกพวกข้า ทำลายขุนนางภักดี บริสุทธิ์ เจ้าไม่ควรเป็นพระชายารัชทายาท...อ๊าก..”

นางยังพูดไม่จบก็โดนอวิ๋นหลิงหยุมหัว แล้วกดหัวลงพื้นหิมะ

“ถ้าคิดไม่ตกก็ตั้งสติก่อนแล้วค่อยคิด”

ภักดี บริสุทธิ์รึ?

สตรีอุ้มเด็กทารกตายอยู่ใกล้ตัวโม่อี้ซือเพียงนี้ ถึงกระนั้นนางยังคงเอ่ยวาจาเยี่ยงนี้ได้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ