เข้าสู่ระบบผ่าน

พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 977

โม่อี้ซือโดนกดหัวเข้าหิมะ เสียงตกใจถูกกลืนกิน ได้แต่ร้องไห้ดิ้นรน

แรงของนางไม่เท่าปลากระดิกหางด้วยซ้ำ อวิ๋นหลิงพันธนาการนางได้อย่างง่ายดาย

ชั่วพริบตานั้นความหยามเหยียดและเกลียดแค้นทะลักเข้าหัวใจโม่อี้ซือ

นางแค่อยากมีชีวิตอย่างสงบสุข อยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน เรียนรู้วิธีการเป็นนายหญิงใหญ่แต่โดยดี

ทว่าจู่ ๆ สามีก็ถูกจับเข้าคุก ทั้งจวนยินถูกกักบริเวณเหมือนคนทรยศชาติ

แม่สามีพ่อสามีกับคนอื่นในจวนที่ชื่นชอบนางตอนแรกก็เปลี่ยนไป ต่างมองนางด้วยความเกรี้ยวกราด ตำหนิไม่เลิก

คนตระกูลยินด่านางว่าไร้ยางอาย ต้มตุ๋น เป็นเพียงลูกทาส แต่กลับหลอกว่าเป็นเสี่ยนจู่หน้าตาเฉย

สายตาตำหนิติเตียนและก่นด่าทำให้โม่อี้ซืออับอาย หวาดกลัวจนแทบหมดสติ

นางไม่อยากให้ผู้อื่นกล่าวถึงเรื่องชาติกำเนิดอันต่ำต้อย แม้ผู้อื่นจะรู้ว่านางเป็นเพียงลูกสาวบุญธรรมขององค์หญิงอี๋อัน แต่นางก็บอกคนนอกเสมอว่าพ่อแม่นางเป็นเพื่อนสนิทมิตรสหายขององค์หญิงอี๋อัน ทั้งยังมีบุญคุณช่วยชีวิตด้วย

แต่ความวุ่นวายของเมืองเซียวโจว หลังสำนักต่าง ๆ ของราชวงศ์ไต่สวนคดีกบฏ ก็ย่อมรู้ประวัติส่วนตัวของทุกคน คนตระกูลยินย่อมรู้ว่าโม่อี้ซือเป็นลูกของทาส

พูดให้ถูกก็คือ ชาติกำเนิดที่แท้จริงของนางคือ ลูกของข้ารับใช้ในจวนอ๋อง แต่ได้รับความเมตตาจากองค์หญิงอี๋อันจนได้เกียรติยศเช่นนี้

แต่หญิงสาวที่ไม่สะดุดตา ไม่เอาถ่านกลายเป็นตัวจุดชนวนนำตระกูลยินไปสู่วิกฤต แล้วพวกยินไหวจะไม่เกลียดแค้นได้อย่างไร

หากรู้แต่แรกว่าโม่อี้ซือเป็นเพียงทาสในจวนอ๋องไหวเซียง พวกเขาก็จะไม่ให้ยินถังแต่งงานกับนางเด็ดขาด

ช่วงนี้โม่อี้ซือต้องใช้ชีวิตในจวนยินอย่างหวาดระแวง ไม่กล้าหายใจแรง กลัวว่าคนตระกูลยินอดไม่ได้ วิ่งฝ่ากลุ่มทหารมาถลกหนังนาง

นางโดนกักขังอยู่ในจวนยิน ไม่รู้สถานการณ์ด้านในและนอกของวัง ไม่ว่าจะข้อร้องอ้อนวอนเช่นไร พวกทหารก็ไม่ยอมส่งข่าวไปบอกองค์หญิงอี๋อันในวัง

โม่อี้ซือทั้งโกรธและอนาทรร้อนใจ นางรู้ว่าองค์หญิงอี๋อันไม่มีทางทอดทิ้งนางแน่ ดังนั้นต้องมีคนคอยคุมไม่ให้ข่าวในของจวนยินแพร่เล็ดลอดออกไป และไม่ยอมให้ข่าวด้านนอกเข้าจวน

นางเดินไปสอบถามทั่วจวน จึงรู้จากปากยินไหวว่าทหารพวกนี้มาจากตำหนักบูรพา ไม่อนุญาตให้จวนยินติดต่อโลกภายนอก

โม่อี้ซือก็โกรธแค้น เข้าใจว่าอวิ๋นหลิงแก้แค้นนางสิ่งที่นางเคยกระทำในอดีต

ตอนที่พวกยินไหวหารือวิธีรับมือ นางได้ยินอย่างแจ่มชัดว่า พวกเขาด่าในความโหดร้ายของตำหนักบูรพาเพียงไร ถึงปรักปรำข้อหาใหญ่ให้ตระกูลยินจมฝังดินเช่นนี้

ที่แท้ก็เช่นนี้นี่เอง

ทุกอย่างเป็นแผนที่ตำหนักบูรพากำจัดต่างพรรค แต่ทำไมถึงใจร้ายทำลายความสุขที่นางได้มาอย่างยากเย็น ทำชีวิตบั้นปลายของนางพัง?

บัดนี้คนใจร้ายใจมารอยู่ตรงหน้า ทั้งยังกล้าทรมานเหยียดหยามนางอย่างโอหัง

โม่อี้ซือโดนหิมะแล้วหนาวสั่น สุดท้ายเลิกดิ้น ได้แต่ส่งเสียงสะอื้นไห้

จวบจนหลิวฉิงกับเซียวปี้เฉิงใช้วิชากระบี่อันน่าตื่นตาตื่นใจ ออกกระบวนท่าประหนึ่งมังกรเหาะเหิน ร่วมมือกันกำจัดหน่วยกล้าตายของจวนยินให้สิ้นซาก อวิ๋นหลิงก็ยอมปล่อยมือ

นางหันไปสั่งการทหาร “มัดตัวยินไหวแล้วส่งไปยังศาลต้าหลี่ ส่วนตระกูลยินคนอื่น ๆ ให้ขังอยู่ในห้อง ถ้ามีคนบาดเจ็บ อาการบาดเจ็บเล็กน้อยก็หาหมอมารักษาที่นี่ ถ้าอาการหนักก็ส่งไปที่โรงหมอ”

ตอนที่คนตระกูลยินโดนหน่วยกล้าตายไล่ฆ่า นางเห็นมีคนโดนฟันหลายคน แต่โชคดีที่ไม่ถึงแก่ชีวิต

“รับทราบพ่ะย่ะค่ะ”

ทหารขานรับเสียงดังจบก็รีบจัดการสถานที่ ชายหนุ่มที่ร้องไห้จนหมดสติกับภรรยาที่โชคร้ายเสียชีวิตก็ถูกหามออกไป

โม่อี้ซือร้องไห้ฟูมฟาย ได้ยินเช่นนั้นก็หยุดร้อง “จริง...จริงรึ?”

“จริงแน่นอน”

นัยน์ตาโม่อี้ซือเปลี่ยนมาเป็นซาบซึ้งกะทันหัน น้ำตาค่อย ๆ ไหลหลั่ง เบะปากจับแขนเสื้อ “ท่านลุงรัชทายาท ข้ารู้อยู่แล้วว่าท่านจะไม่ทำเช่นนั้นกับข้า...”

อวิ๋นหลิงเห็นการแสดงละครของอีกฝ่ายแล้วก็เกือบกลั้นหัวเราะไม่อยู่

นางก้าวเข้าไปขวางมือที่เอื้อมออกมาของโม่อี้ซือ พูดด้วยน้ำเสียงเกินจริง “โอ้โห เข้าใจเร็วซะด้วย? เมื่อครู่กดหัวเข้ากองหิมะคงได้ผลดีสิท่า”

นัยน์ตาโม่อี้ซือมีประกายแสงแค้นเคือง แต่ไม่กล้าโต้แย้ง

หลิวฉิงถามด้วยความสงสัย “นางพูดอะไรถึงยั่วโมโหเจ้า?”

“ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก” อวิ๋นหลิงโบกมือ พูดอย่างไม่สะทกสะท้าน “นางแค่รู้สึกว่าพี่ยินถังของนางเป็นคนดี ข้าทำร้ายคนบริสุทธิ์เพื่อกำจัดคนต่างพรรค บอกว่าข้าไม่คู่ควรเป็นพระชายารัชทายาท”

“แต่นางคิดได้ก็ถือว่าผ่านไปแล้ว เพราะข้าเป็นคนใจกล้า ยิ่งไม่มีทางถือสาคนปัญญาอ่อน...ออ ไม่ใช่ ยิ่งไม่มีทางถือสาเด็ก”

เซียวปี้เฉิงได้ยินประโยคนี้ใบหน้าพลันบึ้งตึงทันที

ถ้าโม่อี้ซือรู้สึกน้อยใจก็พอจะเห็นใจได้อยู่

แต่ถ้านางพูดเช่นนี้ก็เท่ากับจี้จุดตายของทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์

เซียวปี้เฉิงแยกไม่ออกว่านางโง่เขลาเบาปัญญาหรือตาบอดกันแน่ ถึงได้พูดไม่มีสมองแบบนี้ออกมาได้ กล้าตำหนิราชวงศ์กับราชสำนักเพราะอยู่ข้างขุนนางชั่ว

ถ้าจักรพรรดิจาวเหรินได้ยิน ปลดยศเสี่ยนจู่ก็ถือว่าน้อยไป

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ