เข้าสู่ระบบผ่าน

พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 983

ทางด้านจวนยิน หลังจากที่อวิ๋นหลิงได้ข่าว ก็รีบเดินทางไปที่โรงยา

ลานด้านหลังที่อยู่ทางทิศตะวันออกซึ่งทำเป็นห้องคนไข้จุดไฟสว่างไสว มีคนจำนวนไม่น้อยกำลังวิ่งวุ่นไปมา บ้างก็กำลังต้มน้ำร้อนอยู่ในโรงฟืน บ้างก็กำลังต้มน้ำขิงอยู่หน้าเตา

กลิ่นยาตลบอบอวลไปทั่วทั้งลานบ้าน หิมะที่ตกลงมาสัมผัสกับควันขาวที่ลอยออกจากปล่องควัน ระเหยกลายเป็นไออย่างรวดเร็ว

เซียวปี้เฉิงรีบก้าวเข้าไปในเรือนด้านข้าง ก็พบเสียนอ๋องนอนอยู่บนตั่งราวกับไร้วิญญาณ

ชายสวมชุดสีเขียวคนหนึ่งกำลังยุ่งอยู่ข้างเตียง ใช้ผ้าเช็ดหน้าชุบน้ำร้อนเช็ดตัวให้กับเสียนอ๋อง

อีกด้านหนึ่งของฉากกั้น หญิงสาวที่สวมชุดสีเขียวคนหนึ่งกำลังก่อเตาถ่านเพื่อเพิ่มความอบอุ่น ได้จุดไปสามเตาแล้ว กำลังจุดเตาที่สี่

ดูจากสีและรูปแบบของเสื้อผ้า น่าจะเป็นลูกศิษย์ของอู๋อันกงที่อยู่ในโรงเรียนแพทย์ของสำนักศึกษาชิงอี้ ด้านหลังของแขนเสื้อกว้างปักดอกไม้สีเขียวเข้มสี่ดอก

นักเรียนเหล่านี้มักจะถูกส่งออกมาฝึกงาน ช่วยตรวจรักษาโรคในร้านขายยาและโรงหมอต่างๆในเมืองหลวง คนที่ถูกส่งมาฝึกงานในโรงยาโหยวเจียน จะเป็นนักเรียนที่โดดเด่นในโรงเรียนแพทย์

หน้าต่างในห้องถูกเปิดกว้าง เซียวปี้เฉิงเดินเข้าไปยังรู้สึกถึงคลื่นความร้อนที่ปะทะเข้ามาเป็นระลอก พอเห็นใบหน้าของเสียนอ๋องที่เขียวคล้ำซีดขาวราวกับใบหน้าของผีดิบ หัวใจก็กระตุกวูบ

“เขาเป็นอย่างไรบ้าง”

แม้ว่าเขากับเสียนอ๋องจะไม่สนิทกันเหมือนคนอื่น แต่ที่สุดแล้วก็มีพ่อคนเดียวกัน เห็นพี่น้องตนเองนอนอยู่บนตั่งเช่นนี้ เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่รู้สึกปวดใจ

เห็นสองสามีภรรยารัชทายาท สองศิษย์พี่น้องรีบคำนับทันที จากนั้นก็เล่ารายละเอียดอาการของเสียนอ๋อง

“ตอนเข้าช่วยเหลือได้ทำการปฐมพยาบาลแล้ว ทางเดินหายใจของคนไข้เปิดหมดแล้ว น้ำและโคลนที่อยู่ในช่องท้องกับหลอดลมก็ถูกทำความสะอาดแล้ว ตอนนี้หายใจคล่องขึ้น แต่ค่อนข้างอ่อนแรง”

“อีกอย่าง คนไข้มีอุณหภูมิร่างกายค่อนข้างต่ำอย่างรุนแรง ถ้าหากเป็นคนปกติที่ร่างกายแข็งแรง กินยาที่มีฤทธิ์แรงหนึ่งชุดก็สามารถผ่านพ้นไปได้”

ชายหนุ่มที่สวมชุดสีเขียวพูดขึ้น คิ้วขมวดขึ้นด้วยความกังวล “แต่เมื่อครู่ตอนที่ตรวจชีพจร ข้ากับศิษย์น้องพบว่าเขาเคยได้รับบาดเจ็บสาหัสจากกันถูกฟันด้วยดาบ ร่างกายอ่อนแอเลือดพร่อง อีกทั้งยังมีโรคที่เกิดจากความเย็น”

หญิงสาวที่สวมชุดสีเขียวรับช่วงต่อ พูดด้วยสีหน้าลำบากใจว่า “อาการของเขาเช่นนี้ ข้ากับศิษย์พี่ไม่กล้าให้เขากินยาที่มีฤทธิ์แรง เกรงว่าจะเกิดผลข้างเคียง ไม่รู้จริงๆว่าควรจะทำอย่างไรดี......”

ในโรงยาโหยวเจียนมีสมุนไพรล้ำค่าหายากมากมาย แม้แต่เห็ดหลินจือโบราณที่เต้าหวู๋ซินรับรองด้วยตัวเอง ว่ามีผลในการรักษาที่อัศจรรย์มาก

แต่สมุนไพรเหล่านี้ออกฤทธิ์แรงมากเกินไป บางทีอาจผ่านพ้นคืนนี้ไปได้ แต่พลังชีวิตในร่างกายที่เหลือเพียงน้อยนิดจะถูกใช้จนหมด เกรงว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายเช่นกัน

แต่ถ้าหากไม่ใช้ยา ด้วยอาการของอีกฝ่ายต้องไม่สามารถผ่านพ้นคืนนี้ไปได้แน่

อวิ๋นหลิงได้ยินเช่นนี้ก็รู้สึกหนักใจมาก การเป็นหวัดรุนแรงไม่ใช่เรื่องล้อเล่น

แม้จะอยู่ในยุคปัจจุบันที่การแพทย์เจริญก้าวหน้า คนวัยหนุ่มสาวที่ร่างกายอ่อนแอต้องตายจากไปด้วยอาการเช่นนี้ก็มีให้เห็นอยู่บ่อยๆ

ในมือนางไม่มีเครื่องออกซิเจน และไม่มีไอบูโพรเฟนและยาปฏิชีวนะ ควรจะทำอย่างไรดี

อู๋อิ่งที่ตามสองสามีภรรยามาตลอดทาง เวลานี้เห็นว่าสีหน้าของอวิ๋นหลิงไม่ค่อยดี ก็เข้าใจทันทีว่าครั้งนี้เสียนอ๋องตกอยู่ในอันตรายมากจริงๆ

เขามีสีหน้าเศร้าเสียใจ มองอวิ๋นหลิงด้วยแววตาอ้อนวอน

“พระชายารัชทายาท ท่านมีฝีมือรักษาคนใกล้ตายให้หายดีได้ ทักษะการแพทย์ไม่มีใครเทียบได้ ช่วยคิดหาวิธีรักษาด้วยเถอะ”

“ท่านสามารถรักษาดวงตาขององค์รัชทายาทให้หายดีได้ ขาขององค์เยี่ยนอ๋องท่านก็รักษาได้ แม้แต่รัฐทายาทหรงจั้นแห่งจวนเจิ้นกั๋วกงที่อ่อนแอก็ยังมีชีวิตที่ดีจนถึงตอนนี้ ดังนั้นต้องมีวิธีช่วยนายท่านให้หายดีได้ใช่หรือไม่”

อวิ๋นหลิงก็อยากจะช่วยเสียนอ๋อง แต่ไข้หวัดรุนแรงกับการล้างพิษหลอดเลือดเป็นคนละเรื่องกัน แม้พลังจิตจะร้ายกาจแค่ไหน สามารถฆ่าหนอนพิษกู่ได้แต่ไม่สามารถฆ่าไวรัสได้

เดี๋ยวก่อน พลังจิต

อวิ๋นหลิงนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ทันที รีบดึงเซียวปี้เฉิงไปข้างๆ เอ่ยด้วยเสียงร้อนรนว่า “เร็วเข้า ท่านรีบกลับวังเดี๋ยวนี้เลย ไปพาเซียงถวนมา”

แม้จะไม่รู้ว่าจะได้ผลหรือไม่ แต่ตอนนี้ได้แต่ทดลองวิธีการนี้ไปก่อน

ราคาของเราเพียงแค่ 1/4 ของผู้ให้บริการรายอื่น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ